PLEASE!
9
พิสูจน์… หัวใจตัวเอง
หลังจากที่เมื่อวานผมได้คุยกับไอ้เต็มใจ
กลับมาที่ห้องผมก็เอาแต่เงียบพอๆ กับไอ้พายที่พยายามทำตัวออกห่างจากผมไปเรื่อยๆ
มันกำลังทำให้ผมรู้สึกแย่กับความรู้สึกที่ตัวเองมีอยู่ในตอนนี้
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร?
แล้วสิ่งไหนที่จะทำให้ผมเจ็บปวดได้บ้าง…
เจ็บแบบอยากจะร้องไห้!!!!!!
เพล้ง…
แก้วน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ
มือถูกผมปามันลงพื้นจนแตกกระจายผมมองภาพนั้นด้วยสายตาที่เหม่อลอยเหมือนคนบ้า…
อยากพิสูจน์ว่าสิ่งไหนคือความเจ็บปวดที่แท้จริง ใครจะว่าผมบ้าก็ช่างแต่ผมยังบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าหัวใจผมมันเป็นบ้าอะไรอยู่ในตอนนี้!!!!!
พาย
ผมตกใจสะดุ้งจนตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเหมือนว่าอะไรตกลงพื้น…
ผมหันไปมองคนข้างๆ
ก็ไม่มีเท่าที่จำได้เมื่อคืนไอ้เอียนไม่ได้นอนกับผมด้วยซ้ำ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรืออาจเป็นเรื่องที่ผมทำตัวห่างเหินใส่มัน
ผมลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินออกไปด้านนอก
ไอ้เอียนกำลังยืนหันหลังให้ผมเหมือนว่ามันกำลังมองอะไรอยู่…
หรือว่าจะมองสิ่งที่มันทำตกพื้นจนแตก ผมเดินเข้าไปหามันเรื่อยๆ
ไม่ได้เรียกชื่อแต่สายตาก็กำลังมองมันอยู่ตลอดเวลา
“ทำไม
ไม่เจ็บจนอยากจะร้องไห้!”
ผมรู้สึกแปลกใจนิดๆ
กับสิ่งที่ได้ยิน ไอ้เอียนมันพูดอะไร? แล้วมันกำลังทำบ้าอะไรอยู่…
ผมเดินช้ากว่านี้คงไม่ได้แล้วสินะ
รีบวิ่งเข้าไปหามันทันทีตกใจมากกับสิ่งที่ได้เห็นไอ้เอียนกำลังยืนเหยียบเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่นั้นเลือดสีแดงไหลออกมาจนดูน่ากลัวแต่มันกลับไม่ยอมยกฝ่าเท้าออกมา
แถมเท้าอีกข้างยังจะถูกยกไปเหยียบเศษแก้วอีกฝั่งต่างหาก
หมับ!
ตุบ…
ผมกระชากมันกลับมาด้านหลังก่อนจะออกแรงผลักมันให้ล้มลงไปกองกับพื้นห่างจากเศษแก้วมากมายนั่น
ก่อนจะตรงเข้าไปหามันและนั่งคร่อมมันเอาไว้ ไอ้เอียนเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมสายตาเหม่อลอยยิ่งกว่าคนบ้าซะอีก
L
ทำไมน้ำตาผมต้องไหล
แล้วทำไมผมต้องร้องไห้เพราะมันอยู่ตลอดเวลา…
“ทำบ้าอะไรเนี่ย?”
ผมตะโกนถามมันอยากจะบีบคอไอ้เอียนให้ตายซะเหลือเกิน
คิดว่ามันไม่เจ็บเหรอที่ไปยืนเหยียบเศษแก้วแบบนั้น คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำได้…
“………………………”
“ตอบมาสิ!” ผมกระชากคอเสื้อมันเข้ามาใกล้ก่อนจะถามทั้งน้ำตา
“ร้องไห้ทำไม…” มันไม่ตอบคำถามของผมแต่กลับยื่นมือข้างหนึ่งมาปาดน้ำตาให้ผมแทน
หมับ!
“ฮือๆ ไอ้เหี้ย…”
ผมร้องไห้สะอื้นด่ามันก่อนจะก้มลงไปโอบกอดรอบคอของไอ้เอียนไว้จนแน่น
รู้อะไรไหมผมทิ้งมันไม่ได้จริงๆ ผมทำตัวห่างเหินจากมันได้ไม่นาน…
พอๆ กับความรู้สึกของผมที่อยากบอกมันออกไปให้หมดตั้งแต่ตอนนี้เลย
แม้ว่าคำตอบมันจะเกลียดผมและไม่อยากอยู่กับผมอีกก็ตาม…
“มึงมันบ้า…
อะ อึก อยากตายนักเหรอ? ถ้าอยากตายนักก็ไปกระโดดตึกโน่นไม่ใช่มาทำแบบนี้”
“เกลียดกูจังนะ
อยากให้ตายอยู่เรื่อยเลย!”
สองมือหนาของมันกอดตอบผม
น้ำเสียงก็ฟังดูอ่อนลงเหมือนไม่ใช่ไอ้เอียนคนเดิมที่ผมรู้จักเลยละครับ
“เอียนกูเจ็บ…”
‘เจ็บที่ต้องแอบรักมึงอยู่แบบนี้มานานโดยที่มึงไม่คิดจะรู้ตัวหรือทำอะไรเลย
นอกจากจะย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่ากูเป็นแค่เพื่อนของมึง!’
“กูก็เจ็บ…
แต่ทำไมน้ำตาไม่ไหล ทำแผลให้หน่อยได้ไหม?”
ไอ้เอียนผละออกจากตัวผมนิ้วหน้าอย่างเจ็บปวด
ผมปาดน้ำตาตัวเองทิ้งก่อนจะลุกขึ้นจากตัวมันแล้วหันไปมองแผลที่มือเลือดไหลอยู่เต็มไปหมด
บ้าเองแท้ๆ
แต่ทำไมถึงมาพูดว่าน้ำตาไม่ไหล… มันต้องการอะไรกันแน่เนี่ย?
“โอ๊ย!
เจ็บ… แสบๆ พายเบาๆ สิ”
L
ไอ้เอียนทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้พอผมทำแผลให้มัน ทั้งๆ
ที่ก่อนหน้านี้มันบ้าเองที่ไปยืนเหยียบเศษแก้วพวกนั้นจนเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด
“โง่เองจะมาบ่นทำไม”
“กูก็แค่อยากรู้ว่าจะเจ็บจนร้องไห้ได้ไหม?”
ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมันทันที ไม่เข้าใจว่าจะทำลงไปเพื่ออะไร
“คนอย่างมึงร้องไห้เป็นด้วยเหรอ
กูก็นึกว่าทั้งชีวิตจะทำคนอื่นร้องไห้เป็นอย่างเดียว…” หนึ่งในนั้นก็รวมกูด้วย?
ไอ้เอียนยกยิ้มที่ทำปากยักไหล่ใส่ผมทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรในคำพูดเมื่อกี้ที่ผมบอกมันไป
สีหน้าและแววตาแบบนี้กลับมาเป็นเอียนคนเดิมแล้วสินะ
“คงมีสักวันที่กูจะร้องไห้เพื่อคนอื่นบ้าง…
ว่าแต่มึงอยากเป็นคนที่จะทำให้กูร้องไห้ไหม?”
“……………….”
“โอ๊ย!
พายแรดทำบ้าอะไรเนี่ย?” ผมดึงผ้าพันแผลเข้าหากันจนแน่นเพื่อแก้แค้นที่มันปากดีและพูดจาแบบไม่คิด
ไอ้เอียนเองก็ร้องตะโกนออกมาซะดังจนมันแทบอยากจะฆ่าผมได้เลยทีเดียวครับ
“เสร็จแล้ว!
อีกอย่างกูไม่อยากเป็นคนนั้น… ถ้าเลือกได้กูอยากอยู่ให้ห่างมึงมากกว่านี้!!!”
ผมลุกขึ้นยืนมองหน้ามันคาดโทษนิดหน่อย
แต่ขอบอกเลยว่าคำพูดเมื่อกี้ผมไม่ได้จริงจังอะไรมาก
แต่ผมจะดีใจมากหากเป็นคนทำให้ไอ้เอียนร้องไห้ได้…
!!!
พอเห็นว่ามันไม่พูดอะไรผมก็หันหลังให้ก่อนจะเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ
แล้วเสียงของไอ้เอียนก็ดังตามหลังขึ้นมา
“รู้สึกว่าช่วงนี้มึงจะตีตัวออกห่างจากกูจังเลยนะ
ไม่อยากให้กูแตะต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมวางกล่องปฐมพยาบาลไว้ที่เดิมก่อนจะค่อยๆ
หันมามองหน้าไอ้เอียนที่จ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาของมันอ่อนแอมากๆ
ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร
“เราเป็นเพื่อนกันนี่
แค่เพื่อนมีอะไรกันมันก็ผิดมากพอแล้ว… ถึงตอนนี้มึงจะบอกว่าไม่ละอายแต่กูชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าตัวเองคิดแบบมึงได้ไหม?”
ผมมั่นใจว่าคำพูดของตัวเองเมื่อกี้จริงจังมากแค่ไหน
ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมอยากกลับไปอยู่ในจุดเริ่มต้นที่เราเป็นเพื่อนกันและไม่มีอะไรกัน
วันนี้ทุกอย่างคงไม่แย่อย่างที่คิด
“จะบอกว่ากูเลวที่ขืนใจมึง!!!!!!”
“เปล่าหรอก…
วันนั้นทั้งกูและมึงก็เมา ถ้ากูไม่ยอมซะอย่างมึงก็ไม่มีทางได้กูหรอก”
ไอ้เอียนลุกขึ้นยืนก่อนจะยิ้มให้ผม
ราวกับว่ารอยยิ้มของมันแค่พยายามฝืนยิ้มออกมาเท่านั้น
“หึ!
พิสูจน์กันไหม? ต่อไปนี้กูจะไม่แตะต้องมึงอีก จะไม่ยุ่งหรือทำอะไรจนกว่ามึงจะร้องขอ…”
พูดมันมันก็พยายามเดินออกไปให้ห่างจากสายตาผมแม้ว่าท่าทางจะดูไม่ได้เลยก็ตาม
“ไม่มีวัน!!!” ไอ้เอียนหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าผม
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของมันเป็นแบบไหน แต่สีหน้าผมโคตรจะแย่…
L
จู่ๆ
จะเล่นอะไรอีก…
ตกเย็น
วันนี้ทั้งวันผมกับมันไม่ได้คุยกันเลย
เราสองคนอยู่ห้องเดียวกันแต่ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลย…
ผมอยู่ในห้องไอ้เอียนก็เดินออกมาข้างนอก
พอผมเดินออกมาบ้างมันก็ทำตัวให้หายไปจากที่ที่ผมอยู่
รู้ไหมว่าสิ่งที่มันกำลังพิสูจน์อยู่ในตอนนี้ทำให้ผมอึดอัดโคตรๆ เลย!!!!
แต่ผมก็ไม่อยากเป็นคนเรียกร้องและแสดงออกว่าต้องการมัน…
เพราะผมอยากรักษาระยะห่างให้หัวใจตัวเองได้คิดทบทวนอะไรบ้าง?
แต่หน้าที่ที่ผมต้องทำก็ยังเป็นเหมือนเดิมก็คือทำกับข้าวให้มันกิน…
แต่เหมือนจิตใจผมล่องลอยชอบกลทำทุกอย่างแค่ผ่านๆ เหมือนว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ได้ขอแค่ให้เสร็จก็พอ
รอก็แต่ให้ไอ้เอียนออกมากิน
!!!
ผมได้ยินเสียงเหมือนว่าไอ้เอียนจะคุยโทรศัพท์กับใครสักคนก่อนที่มันจะเดินออกมาจากห้อง
ทั้งๆ ที่ฝ่าเท้าของตัวเองบาดเจ็บอยู่แท้ๆ
แต่ทำไมตอนนี้มันถึงแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกยังไงก็ไม่รู้สิ
!!!
ไร้ตัวตน…
นั่นคือผมเพราะไอ้เอียนเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจหรือจะพูดอะไรกับผมสักคำ
สำหรับมันที่เห็นว่าผมเป็นแค่เพื่อน… มันคงไม่คิดอะไร? แต่สำหรับผมที่แอบรักมันมาตลอดโคตรจะเจ็บเลยละครับ
L
“ฮือๆ
ทำไมต้องเป็นกูที่รู้สึกอยู่คนเดียวแบบนี้ด้วยละ…
มันเจ็บนะ!”
ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะอาหารอยู่นานพอสมควรก่อนจะกินข้าวทั้งน้ำตา
ผมพยายามแล้วนะที่จะไม่สนใจมันแต่ก็ทำไม่ได้และผมก็กินข้าวได้แค่นิดเดียวก่อนจะเก็บทุกอย่างเข้าที่
ออกไปข้างนอกได้แบบนั้นคงมีปัญญาหาอะไรกินเอง…
หลังจากที่ผมเก็บทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยแล้วก็เก็บกวาดห้องแล้วก็จัดกระเป๋าด้วยเพราะวันศุกร์หลังจากที่เรียนเสร็จผมต้องกลับบ้าน
ผมไม่รู้ว่าไอ้เอียนยังจะกลับไปกับผมไหมเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าผมกับมันจะไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่และถ้ามันไม่ไปผมก็คงต้องทำรายงานพร้อมถ่ายรูปคนเดียว…
นึกแล้วก็เหนื่อยเพราะไม่มีมันเหมือนผมขาดแขนกับขาไปเลยครับ
“เลิกคิด!!!
บ้าคนเดียวมากพอแล้วนะไอ้พายแรด…”
แทบอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกับขอบอ่างอาบน้ำให้ตายไปเลย
ไม่รู้จะไปคิดถึงมันทำไมยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ…
พอจบ!
รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องไปเรียนเช้าอีก
เรียนเสร็จก็ต้องไปสนามบิน… นึกแล้วเหนื่อยแต่ก็นะ
ผมต้องหัดทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง…
ยี่สิบนาทีต่อมา…
ผมนอนไม่หลับแถมยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือเอาไว้
อยากจะกดโทรไปหาไอ้เอียนแต่อย่าเลยเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมเรียกร้องอีก
กดดูเวลาไปก็แล้วกัน…
จะสี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย?
นี่มันไม่ใช่เวลานอนของผมด้วยซ้ำไป
ยอมรับก็ได้ว่าเป็นห่วงไอ้เอียนแต่ก็ไม่มากหรือมากจนล้นไปหมดแล้วก็ไมรู้สิครับ
ถ้าสมองยังว่างขนาดนี้มีหวังผมไม่หลับแน่นอน…
กดโทรหาไอ้พอเพียงซะเลยแต่กว่ามันจะรับ สายก็เกือบหลุดแนะครับ
“โทรมาทำไมวะ หรือว่าผัวไม่อยู่”
“ผัวพ่อง
เดี๋ยวกูก็ฆ่าทิ้งซะหรอก…”
“ปากดี
ว่าแต่มีอะไร?”
“กูเหงา
คุยเป็นเพื่อนหน่อย L”
พูดแล้วอยากจะร้องไห้จนไอ้พอเพียงขำออกมาซะดังเลยทีเดียว นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ
ผมหักคอมันทิ้งไปแล้วครับ
“แสดงว่าไอ้เอียนไม่อยู่จริงๆ
สินะ”
“กูทะเลาะกับมันนิดหน่อย…”
“ไม่นิดหรอก
ถ้าแมร่งจะเมาจนดูไม่ได้ขนาดนี้!”
ผมขมวดคิ้วสงสัยนิดหน่อยกับคำพูดของไอ้พอ มันพูดเหมือนรู้ว่าไอ้เอียนอยู่ที่ไหน
“มึงรู้เหรอว่ามันอยู่ที่ไหน?”
ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที ไม่รู้ว่าทำไมแต่ที่รู้ๆ คือผมเป็นห่วงมัน
“นั่งแดกเหล้าอยู่กับไอ้เต็มที่ผับพี่กู… ว่าแต่มึงนะห่วงมันละสิ”
“ใครห่วง!!!” แถไปเรื่อยเพราะที่จริงผมนะโคตรจะเป็นห่วงมันเลยละครับ
“เสียงมึงมันฟ้อง”
“อย่ามามั่ว…”
“เออไม่มั่ว
ถ้ามึงไม่ห่วงมันงั้นกูวางนะ!!!”
น้ำเสียงไอ้พอเพียงกำลังขู่ผมอยู่ชัดๆ แบบนี้มันน่าตบให้ตาย
“เออห่วง
ห่วงมากๆ ด้วย… บอกมันเลิกกินแล้วให้ใครก็ได้ขับรถมาส่งมันที่คอนโดหน่อย”
สั่งเหมือนเมียแต่ไม่ใช่ ในใจก็โคตรเป็นห่วงมันเลยละครับ
!!!
“อ้าว!
เหี้ย… ไอ้เต็มแล้วไอ้เอียนละ?”
“กลับไปแล้ว!!!”
“ไอ้โง่
มันเมาอยู่นะมึงอยากให้มันตายเหรอ”
“ไม่ตายหรอก… เมาขนาดนั้นเดี๋ยวก็เหาะถึงคอนโด!”
เสียงของไอ้พอกับไอ้เต็มทะเลาะกันผมก็รู้แล้วว่าที่สั่งไปเมื่อกี้มันไม่ทัน
เพราะไอ้เอียนออกมาจากที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว
!!!
“กูว่าไม่ทันแล้ววะ
มึงรอลุ้นละกันว่ามันจะถึงคอนโดสภาพไหน?”
สายถูกตัดไปแล้ว
แต่ผมนี่สิที่ยังเป็นห่วงมันอยู่อยากกดโทรหามัน
แต่ไม่กล้าอีกใจก็ยังหยิ่งกลัวเสียฟอร์ม…
‘แล้วไม่กลัวเสียเอียนไปเหรอ’
ทำไมส่วนลึกในหัวใจต้องเถียงผมด้วยละ…
เอาวะโทรก็โทร!!!
ครึ่งชั่วโมงต่อมาที่หัวใจผมไม่อยากทนแล้ว…
ตู๊ด…
ตึก
ตัก
เสียงสายโทรศัพท์ดังแข่งกับเสียงหัวใจของผมเลยละครับ
แล้วเมื่อไหร่มันจะรับสายผมสักที
“ฮัลโหล”
เสียงของไอ้เอียนฟังดูมึนๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ
แถมท่าทางของมันก็เหมือนไม่ได้ดูว่าใครโทรไปด้วย
“ยะ…อยู่ไหน?” โธ่ไอ้พายทำไมเสียงต้องสั่นด้วยวะ กล้าๆ หน่อยดิ
“หน้าห้อง ตุบ…
โอ๊ยเจ็บ!”
ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาดู
แต่สายกลับหลุดไปแล้ว… ผมรีบวิ่งออกไปดูด้านนอกก็เห็นว่าไอ้เอียนนอนหน้าขมำอยู่หน้าประตูห้อง
ให้ตายสิไอ้เวรนี่มึงเหาะมาอย่างที่ไอ้เต็มใจมันบอกไว้จริงๆ
เหรอเนี่ย!!!!! แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงคอนโด
“ลุกไหวไหม?”
ผมถามมันก่อนจะช่วยพยุง แต่พอมองไปที่ฝ่าเท้าก็เห็นว่ามีเลือดซึมออกมา…
เจ็บตัวแล้วยังซ่าอีกต่างหาก
“อื้อ…
เจ็บแผล”
“เออ!
มึงโง่เองแล้วยังซ่าด้วย”
“ด่าจัง!
ง่วงวะ พาไปนอนหน่อย” มันกอดคอผมเอาไว้จนแน่น
ผมส่ายหัวให้กับท่าทางของมันก่อนจะพยุงไอ้เอียนกลับไปนอนที่เตียง
“ทำแผลใหม่ก่อนนะ”
“อื้อ…
ไม่ต้องทำ รำคาน… จะนอน”
เมามาขนาดนี้คิดเหรอว่าผมจะฟังมัน
ผมเดินออกไปด้านนอกก่อนจะหยิบกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาในห้องนั่งลงใกล้ๆ
ก่อนจะยกเท้ามันขึ้นมานั่งบนขาของตัวเองแล้วก็ลงมือทำแผลใหม่ให้ไอ้เอียน
มันร้องครางอย่างรำคานอีกอย่างคงเจ็บด้วยแหละ
กว่าผมจะทำแผลให้มันเสร็จก็นานพอตัว… พอเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้มันอีกถ้าให้นอนทั้งแบบนี้มีหวังได้เน่าตายกันพอดีเหม็นเหล้าหึ่งซะ
“อย่ามายุ่งได้ไหม”
ไอ้เอียนปัดมือผมทิ้งก่อนจะรั้งเอวของผมให้นอนลงข้างๆ มัน “อยากนอนแล้ว”
มันซุกหน้าลงมาที่อกของผมพูดจาอ้อนสุดๆ นอนทั้งอย่างนี้มีหวังกูหัวใจวายตายกันพอดี
“ไหนตอนแรกมึงบอกจะไม่แตะต้องถ้ากูไม่ร้องขอยังไงละ?”
“อื้อ…
พูดอะไร?”
คือที่กูพูดไปเมื่อกี้มึงไม่ได้ฟังเลยเหรอ?
ทำไมเวลามึงเมาแมร่งหน้าตบนักวะ… หัดสำนึกซะบ้างสิว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรเอาไว้บ้าง
“เฮ้อ!
กูเหนื่อยกับมึงจังเลย”
หมับ!
“โอ๊ย!
เจ็บ…”
ผมร้องครางนิ้วหน้าเจ็บปวดสุดๆ
จู่ๆ ไอ้เอียนก็รั้งแขนทั้งสองข้างของผมให้อยู่เหนือหัวตัวเอง
พร้อมทั้งขึ้นไปนั่งคร่อมผมเอาไว้สายตามันที่จ้องผมดูหื่นน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้สิครับ
เหมือนผีบ้าตอนเมาเข้าสิงเลย
“กูอยากพิสูจน์อะไรหน่อย?”
“อะไร!
มึงเมาไม่ใช่เหรอ” ผมถามมันหน้าตาตื่นเลยทีเดียว
อย่าก้มหน้ามาใกล้กว่านี้ได้ไหมหัวใจกูมันเต้นแรงเกินไปแล้วนะ
“มึงคิดว่าคนอย่างกูเมาแล้วจะเหาะมาถึงคอนโดภายในครึ่งชั่วโมงงั้นเหรอ?
…ได้ตายก่อนพอดี” ก็จริงอย่างที่มันพูด ถ้าเมาจริงๆ ไอ้เอียนไม่มีทางพาสังขารตัวเองกลับมาถึงคอนโดได้หรอกครับ
“แล้วทำไปเพื่ออะไร?”
“อยากรู้ว่ามึงจะเป็นห่วงกูไหม”
ให้ตายสิ!
เหมือนผมจะได้ปั่นหัวเล่นยังไงก็ไม่รู้สิครับ… ไอ้เอียนไม่ได้เมาแม้ว่ากลิ่นเหล้าจากร่างกายมันจะมีอยู่บ้างก็ตาม
“กูไม่ได้ห่วงมึง”
“แล้วใครกันที่โทรถามว่ากูอยู่ไหน?”
“ไม่รู้…” ผมเบือนหน้าหนีหลบสายตาของมันสุดชีวิต
แต่ไอ้เอียนกลับใช้มืออีกข้างหนึ่งของมันจับปลายคางของผมให้หันกลับมาจ้องตากับมัน
“อย่าหลบตากูสิ”
“ปล่อย…
อย่ามายุ่งกับกูนะ ห้ามแตะต้องด้วย!!!”
ผมขู่มันเสียงแข็งก่อนจะจ้องตาอย่างที่มันต้องการ
แต่หัวใจนี่สิทำไมต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้…
งื้ออออออออออออออ!
อย่ามาทำร้ายกันตอนนี้จะได้ไหม?
มีหวังถ้าเต้นแรงกว่านี้ไอ้เอียนอาจได้ยินแน่นอน L
“เหรอ!
ไม่จริงหรอกมึงนะอยากให้กูกอด กูจูบ… แล้วก็พูดว่า…!”
“ไอ้เหี้ย!
กูเกลียดมึง เกลียดมากด้วย?”
ผมตะโกนใส่หน้ามันแล้วร้องไห้
ตอนนี้ผมอึดอัดและแย่มากๆ ด้วย
ทำไมมันต้องพูดด้วยน้ำเสียงไม่คิดอะไรแถมยังยิ้มราวกับคนที่อารมณ์ดีด้วย
ถ้าเทียบกับผมที่ต้องแบกรับความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ มันแย่มากๆ เลย
“……………………….”
“อะ อึก…
เกลียดจนไม่อยากเจอหน้า! เมื่อไหร่จะไปตายสักที”
“อยากให้กูตายจริงๆ
เหรอพาย…”
ไอ้เอียนปล่อยมือทั้งสองข้างของผมให้เป็นอิสระก่อนจะยกมือทั้งสองข้างมาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน
“ฮือๆ
ไปตายซะ ไปจากชีวิตกู… มึงทำให้กูเกลียดตัวเอง ทำไมกูต้องรักมึงด้วย!!!”
“พายเมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร?”
นั่นนะสิ…
เมื่อกี้ผมพูดว่าอะไร
ผมพูดว่ารักไอ้เอียนไปใช่ไหม? ทำไมต้องพูดด้วยละ แต่ที่แน่ๆ
ผมถอนคำพูดของตัวเองไม่ได้แล้ว
“ไอ้เหี้ย!
ไปตายซะ…”
เปล่า?
เมื่อกี้ผมพูดว่ารักมันออกไป L
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น