วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #9 พิสูจน์… หัวใจตัวเอง


PLEASE! 9
พิสูจน์ หัวใจตัวเอง




หลังจากที่เมื่อวานผมได้คุยกับไอ้เต็มใจ กลับมาที่ห้องผมก็เอาแต่เงียบพอๆ กับไอ้พายที่พยายามทำตัวออกห่างจากผมไปเรื่อยๆ มันกำลังทำให้ผมรู้สึกแย่กับความรู้สึกที่ตัวเองมีอยู่ในตอนนี้
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร?
แล้วสิ่งไหนที่จะทำให้ผมเจ็บปวดได้บ้างเจ็บแบบอยากจะร้องไห้!!!!!!

เพล้ง
แก้วน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ มือถูกผมปามันลงพื้นจนแตกกระจายผมมองภาพนั้นด้วยสายตาที่เหม่อลอยเหมือนคนบ้าอยากพิสูจน์ว่าสิ่งไหนคือความเจ็บปวดที่แท้จริง ใครจะว่าผมบ้าก็ช่างแต่ผมยังบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าหัวใจผมมันเป็นบ้าอะไรอยู่ในตอนนี้!!!!!

พาย
ผมตกใจสะดุ้งจนตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเหมือนว่าอะไรตกลงพื้นผมหันไปมองคนข้างๆ ก็ไม่มีเท่าที่จำได้เมื่อคืนไอ้เอียนไม่ได้นอนกับผมด้วยซ้ำ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรืออาจเป็นเรื่องที่ผมทำตัวห่างเหินใส่มัน
ผมลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ไอ้เอียนกำลังยืนหันหลังให้ผมเหมือนว่ามันกำลังมองอะไรอยู่หรือว่าจะมองสิ่งที่มันทำตกพื้นจนแตก ผมเดินเข้าไปหามันเรื่อยๆ ไม่ได้เรียกชื่อแต่สายตาก็กำลังมองมันอยู่ตลอดเวลา
“ทำไม ไม่เจ็บจนอยากจะร้องไห้!
ผมรู้สึกแปลกใจนิดๆ กับสิ่งที่ได้ยิน ไอ้เอียนมันพูดอะไร? แล้วมันกำลังทำบ้าอะไรอยู่ผมเดินช้ากว่านี้คงไม่ได้แล้วสินะ รีบวิ่งเข้าไปหามันทันทีตกใจมากกับสิ่งที่ได้เห็นไอ้เอียนกำลังยืนเหยียบเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่นั้นเลือดสีแดงไหลออกมาจนดูน่ากลัวแต่มันกลับไม่ยอมยกฝ่าเท้าออกมา แถมเท้าอีกข้างยังจะถูกยกไปเหยียบเศษแก้วอีกฝั่งต่างหาก

หมับ!
ตุบ
ผมกระชากมันกลับมาด้านหลังก่อนจะออกแรงผลักมันให้ล้มลงไปกองกับพื้นห่างจากเศษแก้วมากมายนั่น ก่อนจะตรงเข้าไปหามันและนั่งคร่อมมันเอาไว้ ไอ้เอียนเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมสายตาเหม่อลอยยิ่งกว่าคนบ้าซะอีก
L
ทำไมน้ำตาผมต้องไหล แล้วทำไมผมต้องร้องไห้เพราะมันอยู่ตลอดเวลา
“ทำบ้าอะไรเนี่ย?” ผมตะโกนถามมันอยากจะบีบคอไอ้เอียนให้ตายซะเหลือเกิน คิดว่ามันไม่เจ็บเหรอที่ไปยืนเหยียบเศษแก้วแบบนั้น คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำได้
………………………
“ตอบมาสิ!” ผมกระชากคอเสื้อมันเข้ามาใกล้ก่อนจะถามทั้งน้ำตา
“ร้องไห้ทำไม” มันไม่ตอบคำถามของผมแต่กลับยื่นมือข้างหนึ่งมาปาดน้ำตาให้ผมแทน

หมับ!
“ฮือๆ ไอ้เหี้ย
ผมร้องไห้สะอื้นด่ามันก่อนจะก้มลงไปโอบกอดรอบคอของไอ้เอียนไว้จนแน่น รู้อะไรไหมผมทิ้งมันไม่ได้จริงๆ ผมทำตัวห่างเหินจากมันได้ไม่นานพอๆ กับความรู้สึกของผมที่อยากบอกมันออกไปให้หมดตั้งแต่ตอนนี้เลย
แม้ว่าคำตอบมันจะเกลียดผมและไม่อยากอยู่กับผมอีกก็ตาม
“มึงมันบ้าอะ อึก อยากตายนักเหรอ? ถ้าอยากตายนักก็ไปกระโดดตึกโน่นไม่ใช่มาทำแบบนี้”
“เกลียดกูจังนะ อยากให้ตายอยู่เรื่อยเลย!” สองมือหนาของมันกอดตอบผม น้ำเสียงก็ฟังดูอ่อนลงเหมือนไม่ใช่ไอ้เอียนคนเดิมที่ผมรู้จักเลยละครับ
“เอียนกูเจ็บ
เจ็บที่ต้องแอบรักมึงอยู่แบบนี้มานานโดยที่มึงไม่คิดจะรู้ตัวหรือทำอะไรเลย นอกจากจะย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่ากูเป็นแค่เพื่อนของมึง!’
“กูก็เจ็บแต่ทำไมน้ำตาไม่ไหล ทำแผลให้หน่อยได้ไหม?”
ไอ้เอียนผละออกจากตัวผมนิ้วหน้าอย่างเจ็บปวด ผมปาดน้ำตาตัวเองทิ้งก่อนจะลุกขึ้นจากตัวมันแล้วหันไปมองแผลที่มือเลือดไหลอยู่เต็มไปหมด
บ้าเองแท้ๆ แต่ทำไมถึงมาพูดว่าน้ำตาไม่ไหลมันต้องการอะไรกันแน่เนี่ย?

“โอ๊ย! เจ็บแสบๆ พายเบาๆ สิ”
L ไอ้เอียนทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้พอผมทำแผลให้มัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันบ้าเองที่ไปยืนเหยียบเศษแก้วพวกนั้นจนเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด
“โง่เองจะมาบ่นทำไม”
“กูก็แค่อยากรู้ว่าจะเจ็บจนร้องไห้ได้ไหม?” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมันทันที ไม่เข้าใจว่าจะทำลงไปเพื่ออะไร
“คนอย่างมึงร้องไห้เป็นด้วยเหรอ กูก็นึกว่าทั้งชีวิตจะทำคนอื่นร้องไห้เป็นอย่างเดียวหนึ่งในนั้นก็รวมกูด้วย?
ไอ้เอียนยกยิ้มที่ทำปากยักไหล่ใส่ผมทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรในคำพูดเมื่อกี้ที่ผมบอกมันไป สีหน้าและแววตาแบบนี้กลับมาเป็นเอียนคนเดิมแล้วสินะ
“คงมีสักวันที่กูจะร้องไห้เพื่อคนอื่นบ้างว่าแต่มึงอยากเป็นคนที่จะทำให้กูร้องไห้ไหม?”
……………….
“โอ๊ย! พายแรดทำบ้าอะไรเนี่ย?” ผมดึงผ้าพันแผลเข้าหากันจนแน่นเพื่อแก้แค้นที่มันปากดีและพูดจาแบบไม่คิด ไอ้เอียนเองก็ร้องตะโกนออกมาซะดังจนมันแทบอยากจะฆ่าผมได้เลยทีเดียวครับ
“เสร็จแล้ว! อีกอย่างกูไม่อยากเป็นคนนั้นถ้าเลือกได้กูอยากอยู่ให้ห่างมึงมากกว่านี้!!!
ผมลุกขึ้นยืนมองหน้ามันคาดโทษนิดหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าคำพูดเมื่อกี้ผมไม่ได้จริงจังอะไรมาก แต่ผมจะดีใจมากหากเป็นคนทำให้ไอ้เอียนร้องไห้ได้
!!!
พอเห็นว่ามันไม่พูดอะไรผมก็หันหลังให้ก่อนจะเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ แล้วเสียงของไอ้เอียนก็ดังตามหลังขึ้นมา
“รู้สึกว่าช่วงนี้มึงจะตีตัวออกห่างจากกูจังเลยนะ ไม่อยากให้กูแตะต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมวางกล่องปฐมพยาบาลไว้ที่เดิมก่อนจะค่อยๆ หันมามองหน้าไอ้เอียนที่จ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาของมันอ่อนแอมากๆ ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร
“เราเป็นเพื่อนกันนี่ แค่เพื่อนมีอะไรกันมันก็ผิดมากพอแล้วถึงตอนนี้มึงจะบอกว่าไม่ละอายแต่กูชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าตัวเองคิดแบบมึงได้ไหม?”
ผมมั่นใจว่าคำพูดของตัวเองเมื่อกี้จริงจังมากแค่ไหน ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมอยากกลับไปอยู่ในจุดเริ่มต้นที่เราเป็นเพื่อนกันและไม่มีอะไรกัน วันนี้ทุกอย่างคงไม่แย่อย่างที่คิด
“จะบอกว่ากูเลวที่ขืนใจมึง!!!!!!
“เปล่าหรอกวันนั้นทั้งกูและมึงก็เมา ถ้ากูไม่ยอมซะอย่างมึงก็ไม่มีทางได้กูหรอก” ไอ้เอียนลุกขึ้นยืนก่อนจะยิ้มให้ผม ราวกับว่ารอยยิ้มของมันแค่พยายามฝืนยิ้มออกมาเท่านั้น
“หึ! พิสูจน์กันไหม? ต่อไปนี้กูจะไม่แตะต้องมึงอีก จะไม่ยุ่งหรือทำอะไรจนกว่ามึงจะร้องขอ” พูดมันมันก็พยายามเดินออกไปให้ห่างจากสายตาผมแม้ว่าท่าทางจะดูไม่ได้เลยก็ตาม
“ไม่มีวัน!!!” ไอ้เอียนหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าผม ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของมันเป็นแบบไหน แต่สีหน้าผมโคตรจะแย่
L
จู่ๆ จะเล่นอะไรอีก

ตกเย็น
วันนี้ทั้งวันผมกับมันไม่ได้คุยกันเลย เราสองคนอยู่ห้องเดียวกันแต่ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลยผมอยู่ในห้องไอ้เอียนก็เดินออกมาข้างนอก พอผมเดินออกมาบ้างมันก็ทำตัวให้หายไปจากที่ที่ผมอยู่ รู้ไหมว่าสิ่งที่มันกำลังพิสูจน์อยู่ในตอนนี้ทำให้ผมอึดอัดโคตรๆ เลย!!!!
แต่ผมก็ไม่อยากเป็นคนเรียกร้องและแสดงออกว่าต้องการมันเพราะผมอยากรักษาระยะห่างให้หัวใจตัวเองได้คิดทบทวนอะไรบ้าง?
แต่หน้าที่ที่ผมต้องทำก็ยังเป็นเหมือนเดิมก็คือทำกับข้าวให้มันกินแต่เหมือนจิตใจผมล่องลอยชอบกลทำทุกอย่างแค่ผ่านๆ เหมือนว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ก็ได้ขอแค่ให้เสร็จก็พอ รอก็แต่ให้ไอ้เอียนออกมากิน
!!!
ผมได้ยินเสียงเหมือนว่าไอ้เอียนจะคุยโทรศัพท์กับใครสักคนก่อนที่มันจะเดินออกมาจากห้อง ทั้งๆ ที่ฝ่าเท้าของตัวเองบาดเจ็บอยู่แท้ๆ แต่ทำไมตอนนี้มันถึงแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกยังไงก็ไม่รู้สิ
            !!!
ไร้ตัวตน
นั่นคือผมเพราะไอ้เอียนเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจหรือจะพูดอะไรกับผมสักคำ สำหรับมันที่เห็นว่าผมเป็นแค่เพื่อนมันคงไม่คิดอะไร? แต่สำหรับผมที่แอบรักมันมาตลอดโคตรจะเจ็บเลยละครับ
L

“ฮือๆ ทำไมต้องเป็นกูที่รู้สึกอยู่คนเดียวแบบนี้ด้วยละมันเจ็บนะ!
ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะอาหารอยู่นานพอสมควรก่อนจะกินข้าวทั้งน้ำตา ผมพยายามแล้วนะที่จะไม่สนใจมันแต่ก็ทำไม่ได้และผมก็กินข้าวได้แค่นิดเดียวก่อนจะเก็บทุกอย่างเข้าที่ ออกไปข้างนอกได้แบบนั้นคงมีปัญญาหาอะไรกินเอง
หลังจากที่ผมเก็บทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยแล้วก็เก็บกวาดห้องแล้วก็จัดกระเป๋าด้วยเพราะวันศุกร์หลังจากที่เรียนเสร็จผมต้องกลับบ้าน ผมไม่รู้ว่าไอ้เอียนยังจะกลับไปกับผมไหมเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าผมกับมันจะไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่และถ้ามันไม่ไปผมก็คงต้องทำรายงานพร้อมถ่ายรูปคนเดียวนึกแล้วก็เหนื่อยเพราะไม่มีมันเหมือนผมขาดแขนกับขาไปเลยครับ
“เลิกคิด!!! บ้าคนเดียวมากพอแล้วนะไอ้พายแรด
แทบอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกับขอบอ่างอาบน้ำให้ตายไปเลย ไม่รู้จะไปคิดถึงมันทำไมยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ
พอจบ!
รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องไปเรียนเช้าอีก เรียนเสร็จก็ต้องไปสนามบินนึกแล้วเหนื่อยแต่ก็นะ ผมต้องหัดทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง

ยี่สิบนาทีต่อมา
ผมนอนไม่หลับแถมยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือเอาไว้ อยากจะกดโทรไปหาไอ้เอียนแต่อย่าเลยเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมเรียกร้องอีก กดดูเวลาไปก็แล้วกัน
จะสี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย? นี่มันไม่ใช่เวลานอนของผมด้วยซ้ำไป ยอมรับก็ได้ว่าเป็นห่วงไอ้เอียนแต่ก็ไม่มากหรือมากจนล้นไปหมดแล้วก็ไมรู้สิครับ
ถ้าสมองยังว่างขนาดนี้มีหวังผมไม่หลับแน่นอนกดโทรหาไอ้พอเพียงซะเลยแต่กว่ามันจะรับ สายก็เกือบหลุดแนะครับ
“โทรมาทำไมวะ หรือว่าผัวไม่อยู่”
“ผัวพ่อง เดี๋ยวกูก็ฆ่าทิ้งซะหรอก
“ปากดี ว่าแต่มีอะไร?”
“กูเหงา คุยเป็นเพื่อนหน่อย L” พูดแล้วอยากจะร้องไห้จนไอ้พอเพียงขำออกมาซะดังเลยทีเดียว นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ผมหักคอมันทิ้งไปแล้วครับ
“แสดงว่าไอ้เอียนไม่อยู่จริงๆ สินะ”
“กูทะเลาะกับมันนิดหน่อย
“ไม่นิดหรอก ถ้าแมร่งจะเมาจนดูไม่ได้ขนาดนี้!” ผมขมวดคิ้วสงสัยนิดหน่อยกับคำพูดของไอ้พอ มันพูดเหมือนรู้ว่าไอ้เอียนอยู่ที่ไหน
“มึงรู้เหรอว่ามันอยู่ที่ไหน?” ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงทันที ไม่รู้ว่าทำไมแต่ที่รู้ๆ คือผมเป็นห่วงมัน
“นั่งแดกเหล้าอยู่กับไอ้เต็มที่ผับพี่กู ว่าแต่มึงนะห่วงมันละสิ”
“ใครห่วง!!!” แถไปเรื่อยเพราะที่จริงผมนะโคตรจะเป็นห่วงมันเลยละครับ
“เสียงมึงมันฟ้อง”
“อย่ามามั่ว
“เออไม่มั่ว ถ้ามึงไม่ห่วงมันงั้นกูวางนะ!!!” น้ำเสียงไอ้พอเพียงกำลังขู่ผมอยู่ชัดๆ แบบนี้มันน่าตบให้ตาย
“เออห่วง ห่วงมากๆ ด้วยบอกมันเลิกกินแล้วให้ใครก็ได้ขับรถมาส่งมันที่คอนโดหน่อย” สั่งเหมือนเมียแต่ไม่ใช่ ในใจก็โคตรเป็นห่วงมันเลยละครับ
!!!
“อ้าว! เหี้ยไอ้เต็มแล้วไอ้เอียนละ?”
“กลับไปแล้ว!!!
“ไอ้โง่ มันเมาอยู่นะมึงอยากให้มันตายเหรอ”
“ไม่ตายหรอก เมาขนาดนั้นเดี๋ยวก็เหาะถึงคอนโด!
เสียงของไอ้พอกับไอ้เต็มทะเลาะกันผมก็รู้แล้วว่าที่สั่งไปเมื่อกี้มันไม่ทัน เพราะไอ้เอียนออกมาจากที่ตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว
!!!
“กูว่าไม่ทันแล้ววะ มึงรอลุ้นละกันว่ามันจะถึงคอนโดสภาพไหน?”
สายถูกตัดไปแล้ว แต่ผมนี่สิที่ยังเป็นห่วงมันอยู่อยากกดโทรหามัน แต่ไม่กล้าอีกใจก็ยังหยิ่งกลัวเสียฟอร์ม
แล้วไม่กลัวเสียเอียนไปเหรอ
ทำไมส่วนลึกในหัวใจต้องเถียงผมด้วยละเอาวะโทรก็โทร!!!

ครึ่งชั่วโมงต่อมาที่หัวใจผมไม่อยากทนแล้ว
ตู๊ด
ตึก ตัก
เสียงสายโทรศัพท์ดังแข่งกับเสียงหัวใจของผมเลยละครับ แล้วเมื่อไหร่มันจะรับสายผมสักที
“ฮัลโหล” เสียงของไอ้เอียนฟังดูมึนๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ แถมท่าทางของมันก็เหมือนไม่ได้ดูว่าใครโทรไปด้วย
“ยะอยู่ไหน?” โธ่ไอ้พายทำไมเสียงต้องสั่นด้วยวะ กล้าๆ หน่อยดิ
“หน้าห้อง ตุบโอ๊ยเจ็บ!
ผมขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่สายกลับหลุดไปแล้วผมรีบวิ่งออกไปดูด้านนอกก็เห็นว่าไอ้เอียนนอนหน้าขมำอยู่หน้าประตูห้อง
ให้ตายสิไอ้เวรนี่มึงเหาะมาอย่างที่ไอ้เต็มใจมันบอกไว้จริงๆ เหรอเนี่ย!!!!! แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงคอนโด
“ลุกไหวไหม?” ผมถามมันก่อนจะช่วยพยุง แต่พอมองไปที่ฝ่าเท้าก็เห็นว่ามีเลือดซึมออกมาเจ็บตัวแล้วยังซ่าอีกต่างหาก
“อื้อเจ็บแผล”
“เออ! มึงโง่เองแล้วยังซ่าด้วย”
“ด่าจัง! ง่วงวะ พาไปนอนหน่อย” มันกอดคอผมเอาไว้จนแน่น ผมส่ายหัวให้กับท่าทางของมันก่อนจะพยุงไอ้เอียนกลับไปนอนที่เตียง
“ทำแผลใหม่ก่อนนะ”
“อื้อไม่ต้องทำ รำคานจะนอน”
เมามาขนาดนี้คิดเหรอว่าผมจะฟังมัน ผมเดินออกไปด้านนอกก่อนจะหยิบกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาในห้องนั่งลงใกล้ๆ ก่อนจะยกเท้ามันขึ้นมานั่งบนขาของตัวเองแล้วก็ลงมือทำแผลใหม่ให้ไอ้เอียน
มันร้องครางอย่างรำคานอีกอย่างคงเจ็บด้วยแหละ กว่าผมจะทำแผลให้มันเสร็จก็นานพอตัวพอเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้มันอีกถ้าให้นอนทั้งแบบนี้มีหวังได้เน่าตายกันพอดีเหม็นเหล้าหึ่งซะ
“อย่ามายุ่งได้ไหม” ไอ้เอียนปัดมือผมทิ้งก่อนจะรั้งเอวของผมให้นอนลงข้างๆ มัน “อยากนอนแล้ว” มันซุกหน้าลงมาที่อกของผมพูดจาอ้อนสุดๆ นอนทั้งอย่างนี้มีหวังกูหัวใจวายตายกันพอดี
“ไหนตอนแรกมึงบอกจะไม่แตะต้องถ้ากูไม่ร้องขอยังไงละ?”
“อื้อพูดอะไร?”
คือที่กูพูดไปเมื่อกี้มึงไม่ได้ฟังเลยเหรอ? ทำไมเวลามึงเมาแมร่งหน้าตบนักวะหัดสำนึกซะบ้างสิว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรเอาไว้บ้าง
“เฮ้อ! กูเหนื่อยกับมึงจังเลย”

หมับ!
“โอ๊ย! เจ็บ
ผมร้องครางนิ้วหน้าเจ็บปวดสุดๆ จู่ๆ ไอ้เอียนก็รั้งแขนทั้งสองข้างของผมให้อยู่เหนือหัวตัวเอง พร้อมทั้งขึ้นไปนั่งคร่อมผมเอาไว้สายตามันที่จ้องผมดูหื่นน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้สิครับ เหมือนผีบ้าตอนเมาเข้าสิงเลย
“กูอยากพิสูจน์อะไรหน่อย?”
“อะไร! มึงเมาไม่ใช่เหรอ” ผมถามมันหน้าตาตื่นเลยทีเดียว อย่าก้มหน้ามาใกล้กว่านี้ได้ไหมหัวใจกูมันเต้นแรงเกินไปแล้วนะ
“มึงคิดว่าคนอย่างกูเมาแล้วจะเหาะมาถึงคอนโดภายในครึ่งชั่วโมงงั้นเหรอ? ได้ตายก่อนพอดี” ก็จริงอย่างที่มันพูด ถ้าเมาจริงๆ ไอ้เอียนไม่มีทางพาสังขารตัวเองกลับมาถึงคอนโดได้หรอกครับ
“แล้วทำไปเพื่ออะไร?”
“อยากรู้ว่ามึงจะเป็นห่วงกูไหม”
ให้ตายสิ! เหมือนผมจะได้ปั่นหัวเล่นยังไงก็ไม่รู้สิครับไอ้เอียนไม่ได้เมาแม้ว่ากลิ่นเหล้าจากร่างกายมันจะมีอยู่บ้างก็ตาม
“กูไม่ได้ห่วงมึง”
“แล้วใครกันที่โทรถามว่ากูอยู่ไหน?”
“ไม่รู้” ผมเบือนหน้าหนีหลบสายตาของมันสุดชีวิต แต่ไอ้เอียนกลับใช้มืออีกข้างหนึ่งของมันจับปลายคางของผมให้หันกลับมาจ้องตากับมัน
“อย่าหลบตากูสิ”
“ปล่อยอย่ามายุ่งกับกูนะ ห้ามแตะต้องด้วย!!!
ผมขู่มันเสียงแข็งก่อนจะจ้องตาอย่างที่มันต้องการ แต่หัวใจนี่สิทำไมต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้
งื้ออออออออออออออ!
อย่ามาทำร้ายกันตอนนี้จะได้ไหม? มีหวังถ้าเต้นแรงกว่านี้ไอ้เอียนอาจได้ยินแน่นอน L
“เหรอ! ไม่จริงหรอกมึงนะอยากให้กูกอด กูจูบแล้วก็พูดว่า…!
“ไอ้เหี้ย! กูเกลียดมึง เกลียดมากด้วย?”
ผมตะโกนใส่หน้ามันแล้วร้องไห้ ตอนนี้ผมอึดอัดและแย่มากๆ ด้วย ทำไมมันต้องพูดด้วยน้ำเสียงไม่คิดอะไรแถมยังยิ้มราวกับคนที่อารมณ์ดีด้วย ถ้าเทียบกับผมที่ต้องแบกรับความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ มันแย่มากๆ เลย
……………………….
“อะ อึกเกลียดจนไม่อยากเจอหน้า! เมื่อไหร่จะไปตายสักที”
“อยากให้กูตายจริงๆ เหรอพาย” ไอ้เอียนปล่อยมือทั้งสองข้างของผมให้เป็นอิสระก่อนจะยกมือทั้งสองข้างมาเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน
“ฮือๆ ไปตายซะ ไปจากชีวิตกูมึงทำให้กูเกลียดตัวเอง ทำไมกูต้องรักมึงด้วย!!!
“พายเมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร?”
นั่นนะสิ
เมื่อกี้ผมพูดว่าอะไร ผมพูดว่ารักไอ้เอียนไปใช่ไหม? ทำไมต้องพูดด้วยละ แต่ที่แน่ๆ ผมถอนคำพูดของตัวเองไม่ได้แล้ว
“ไอ้เหี้ย! ไปตายซะ
เปล่า? เมื่อกี้ผมพูดว่ารักมันออกไป L



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น