PLEASE!
16
วันที่เราไม่เข้าใจกัน
พาย
“ตกลงมึงรักกูหรือว่าไอ้เก้ากันแน่!!!!!!!”
รู้อะไรไหมว่าคำพูดนี้ของไอ้เอียนทำให้ผมโคตรจุก!!!
เหมือนมันจะไม่เชื่อมั่นในตัวผมเลยล่ะครับ
“มึงเคยเชื่อใจกูบ้างไหม?”
ผมถามมันทั้งน้ำตาไม่รู้ทำไมถึงไหลออกมาแต่เพราะผมรักมันและมั่นใจด้วยว่ารักมากๆ
แต่ทำไมมันถึงไม่เชื่อใจผมละ
“เชื่อสิ!
เชื่อว่ารักแต่ไม่มั่นใจว่ามึงอยากให้ใครรับรู้เรื่องของเราหรือเปล่า”
L
ผมรู้ว่าไม่ใช่แค่ผมที่ร้องไห้เพราะคนตรงหน้ากลับมีน้ำตาให้ได้เห็นมันเหมือนฝันที่ไอ้เอียนร้องไห้
แต่มันคือความจริงที่น่าเจ็บปวดเพราะเราสองคนกำลังไม่เข้าใจกัน
“เอียน”
“ถ้ามึงรักกูจริงๆ
มึงจะไม่กลัวที่อยากให้ใครรู้ว่าเราคบกันแม้แต่ไอ้เก้า!!!”
มันเน้นย้ำทุกคำจนผมสะอึกไปเลยละครับนั่นน่ะสิทำไมผมต้องกลัวว่าไอ้เก้าจะรับรู้ด้วยในเมื่อมันเป็นแค่อดีตที่ผมลืมไปนานแล้วไม่ใช่ปัจจุบันเหมือนคนตรงหน้าในตอนนี้
“ขอโทษ”
“ไม่ต้องพูดหรอกพาย
บางทีมึงกับกูอาจถึงขีดจำกัดจริงๆ แล้วมั้ง”
“อย่าพูดแบบนี้ได้มั้ย?”
ผมเดินเข้าไปหาแต่ไอ้เอียนกลับถอยห่างเหมือนว่ารังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ผมทำเอาร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้วล่ะครับกลัวก็แต่ว่าไอ้เก้าจะมาได้ยินเข้า
“ทำไมล่ะในเมื่อมึงเองก็…”
หมับ!
ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดมันเอาไว้จนแน่นร้องไห้สะอื้นไอ้เอียนเองก็ด้วยร้องไห้แล้วกอดผมเอาไว้จนแน่น
“กูรักมึงน่ะ
รักมึงคนเดียว”
“กูชักจะไม่มั่นใจแล้วสิพาย…”
“อะ อึก ฮือๆ
ทำไม? อย่าพูดแบบนี้ได้มั้ย” ผมร้องไห้สะอื้นผละออกจากตัวของมัน
ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมวันนี้หัวใจของพวกเราสองคนถึงได้รู้สึกเจ็บปวดนักเหมือนทั้งผมและมันต่างก็ไม่มั่นใจหรือมีแค่ผมคนเดียวที่กลัวจนทำให้ไอ้เอียนไม่มั่นใจ
“พายกูรักมึงน่ะ
รักมากขึ้นทุกวัน…”
ไอ้เอียนคล้ายอ้อมกอดออกจากผมก่อนจะค่อยๆ
ขยับตัวออกห่างผมมองหน้ามันร้องไห้ไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร
“ฮือๆ”
“แต่กูกลัวการจากลา
!!!”
ปัง!!!!!
ไม่รีบปาดน้ำตาทิ้งไปก่อนจะวิ่งตามไอ้เอียนที่เดินออกไปจากห้องวินาทีแรกที่เห็นมันหยุดยืนอยู่กับที่และคุยอะไรบางอย่างกับไอ้เก้าหัวใจผมก็เต้นแรงจนได้
แต่พวกมันสองคนก็คุยกันได้ไม่นานไอ้เอียนก็เดินออกจากห้องผมไม่อยากให้มันไปไหนตอนนี้เพราะมันยังไม่หายป่วยแต่ทำไมขาถึงกลัวที่จะวิ่งตามละ
ตุบ!!!
ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างเลี่ยงไม่ได้น้ำตาก็ไหลออกมาไม่กลัวด้วยว่าไอ้เก้าจะถามอะไรผมกลัวอย่างเดียวว่าไอ้เอียนจะเดินจาไปจริงๆ
“เฮ้ย!
พายมึงเป็นอะไร?”
“อะ…อึก ฮือๆ เจ็บ” มือทั้งสองข้างฟุบเข้ากับใบหน้าของตัวเองร้องไห้สะอื้นไม่สนใจแล้วว่าจะอยู่กับใครเพราะในใจทั้งเจ็บและจุกโคตรๆ
เลยล่ะครับ
“ร้องไห้ทำไม
แล้วเมื่อกี้มึงทะเลาะกับมันใช่มั้ยเพราะกูหรือเปล่า?”
ไอ้เก้าถามออกมาเป็นชุดแต่ผมกลับไม่ตอบอะไรเลยนอกจากจะปิดหน้าตัวเองแล้วร้องไห้ส่ายหัวไปมาอยู่อย่างนั้น
หมับ!
มันรั้งผมเข้าไกอดเอาไว้จนแน่นผมเองก็เอาแต่ร้องไห้ไม่พูดอะไรจนเวลาผ่านไปไอ้เก้าผละออกจากผมก่อนจะเดินออกไปกลับมาอีกทีพร้อมกับผ้าชุบน้ำหมาดๆ
ยื่นมาให้ผมที่กำลังนั่งมองหน้ามันอยู่บนพื้น
“เช็ดซะมึงดูเหมือนเด็กเลย”
“กลับไปก่อนได้มั้ย?”
ผมรับผ้าที่อยู่ในมือมันมาก่อนจะออกปากไล่ที่จริงก็ไม่อยากไล่หรอกครับแต่เพราะผมอึดอัด
“ไม่กลับ!
มึงกำลังเศร้าคิดว่ากูจะปล่อยไว้คนเดียวเหรอ” ไอ้เก้าพูดจาดื้อๆ
กับผมก่อนที่มันจะรั้งผมให้ลุกขึ้นยืนและพาไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ
“กูไม่เป็นอะไรแล้ว”
“มันแปลกๆ
น่ะที่มึงทะเลาะกับไอ้เอียนจนร้องไห้แบบนี้”
หัวใจผมกระตุกวูบเลยทีเดียวพอรับรู้ถึงคำถามของไอ้เก้าในตอนนี้
พูดไปสิว่าทะเลาะกันเพราะอะไร?
บอกมันไปแล้วไปตามไอ้เอียน…
ทำไมถึงไม่พูดล่ะ?
“พายมึงยังฟังกูอยู่มั้ย?
พาย…” ผมสะดุ้งตื่นจากความคิดก่อนหน้านี้ค่อยๆ
หันไปมองหน้าไอ้เก้าที่กำลังมองอยู่กระพริบตาถี่ๆ มองหน้ามัน
“ขอโทษ”
“มึงรู้อะไรมั้ยว่าแววตาแบบนี้มันน่ารักเกินไปแล้วน่ะ”
มือหนาของไอ้เก้ารั้งใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนที่มันจะค่อยๆ
ขยับเข้ามาใกล้จนผมแทบตั้งแต่ไม่ติดดีน่ะที่ตั้งสติได้ถึงถอยห่างออกมาได้ทัน
“จะทำอะไร?”
“กูขอโทษแต่มึงมันน่ารักจริงๆ”
“อย่าทำแบบนี้อีก”
ผมขึ้นเสียงใส่อย่างไม่พอใจไอ้เก้าเองก็ขยี้หัวตัวเองไปมาเหมือนคนหัวเสียที่อยากตื่นจากภวังค์เมื่อกี้
“ครับๆ
จะไม่ทำอีกแล้ว”
หลังจากที่เหตุการณ์เมื่อกี้ผ่านไปผมกับมันก็นั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำมีแค่ลมหายใจของพวกเราให้ได้ยินเสียงสะท้อนแต่หัวใจผมกลับรู้สึกล่องลอยยังไงก็ไม่รู้สิครับ…
“พาย”
“อือ!”
ผมครางตอบกลับไอ้เก้าหันไปมองหน้ามันเล็กน้อยก่อนจะเสมองไปทางอื่นต่อเพราะไม่อยากสบตามันสักเท่าไหร่
ผมมั่นใจว่าไอ้เก้าไม่ใช่คนที่ผมรักอีกแล้วและผมก็มั่นใจด้วยว่าผมรักไอ้เอียนที่สุด!!!!
“มึงยังรักกูอยู่มั้ย?”
O_O!!!
อึ้ง!
ไม่คิดว่ามันจะถามและไม่เคยคิดด้วยว่าไอ้เก้าจะตั้งคำถามแบบนี้กับผมอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านั้นมันปฏิเสธรักผมไปอย่างน่าเจ็บปวดที่สุดเลยล่ะครับ
“…………………………….” เงียบไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
“ถ้ายังรักกูก็อยากขอโทษ”
ผมกระพริบตาถี่ๆ มองหน้ามันอยากจะเถียงแต่ปากกลับหนักไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“ไม่คิดว่าสายไปเหรอ?”
“ไม่คิด!
กูอยากขอโทษที่ปฏิเสธมึงแต่เพราะตอนนั้นกูรู้ว่าตัวเองต้องไปจากเมืองไทย
ความห่างทำให้กูกลัว…กลัวมึงจะเหงา กลัวจะเสียมึงไป”
ผมนั่งจ้องหน้ามันฟังคำอธิบายของไอ้เก้าถึงจะบอกตอนนี้มันก็สายไปแล้วเพราะผมอยากหนักแน่นกับความรักปัจจุบันตอนนี้มากกว่า
“แล้วตอนนี้กลับมาทำไม?”
“กลับมาเพื่อทวงมึงคืน!!!!!!”
หมับ!
มันรั้งผมเข้าไปกอดเอาไว้อีกครั้งจนแน่นแต่ผมกลับไม่กอดตอบมัน
ไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำหัวใจก็ไม่เต้นแรงเหมือนก่อนหน้านี้แต่มันกำลังทำตัวให้ชินต่างหากละครับ
“มันสายไปแล้ว”
“มันยังไม่สายหรอกน่ะ
อาทิตย์หน้าวันเกิดกูช่วยตอบทุกอย่างในวันนั้นได้มั้ย?”
ไอ้เก้าผละออกไปจากผมก่อนจะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ถ้ามันสายอย่างที่มึงพูดจริงๆ
จะไม่มาหากูที่บ้านก็ได้น่ะ”
“……………………………….”
จุ๊บ
-///////////////////-
ไอ้เก้ากดจูบหนักๆ
ที่เรือนผมก่อนจะลุกขึ้นยืนและยิ้มให้กับผม…
“กูจะรอมึงที่บ้านน่ะพาย”
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ความรู้สึกจุกในอกมันมีมากมายเหลือเกิน
มันทรมานอย่างบอกไม่ถูกมันเจ็บยิ่งกว่าตอนที่ได้รับรู้ว่าไอ้เก้าปฏิเสธรักในตอนนั้นซะอีก…ที่เจ็บขนาดนี้ก็เพราะว่าไอ้เอียนกำลังจะเดินจากผมไปหรือเปล่า
“อะ…อึก กูก็กลัวการจากลา ไม่อยากให้มึงหายไปน่ะเอียน”
ผมนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้นมือที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็สั่นไปหมดเลยละครับกดโทรหาไอ้เอียนสักเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมรับสายจนผมรู้สึกปวดใจไปหมดแล้ว
ถ้ามันไม่รับสายอีกครั้งผมก็จะออกไปตามหาแล้วน่ะ
“ใจร้ายที่สุดเลย…” ผมลุกขึ้นยืนเดินไปที่หน้าประตูมือก็เอื้อมไปจับลูกบิดเอาไว้แต่ทว่าเสียงเหมือนใครสักคนจะเปิดเข้ามาซะก่อน
แอด
ด ด ดด
ผมกระพริบตาถี่ๆ
มองหน้าคนที่เปิดปรูตูเข้ามา
ไอ้เอียนเองก็กำลังจ้องผมอยู่ไม่วางตาเลยทีเดียวในมือของมันก็ถือโทรศัพท์อยู่ด้วยแต่ไม่ยอมรับสายผม
“ทำไมไม่รับสายกู”
ผมร้องถามทันทีหลังจากที่ตั้งสติได้
“ทำไมต้องรับ”
“อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย?
แค่นี้ยังเจ็บกันไม่พอเหรอ…”
ผมร้องถามแต่จะว่าไปผมทำให้มันเจ็บอยู่คนเดียวต่างหากก็ผมมันขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับความจริงนี่ครับ
“กูหรือมึงล่ะที่เจ็บ”
“หึ!
อยากพูดอะไรก็ตามใจมึงแต่ถ้าจะพูดว่าเลิกกูไม่ยอมหรอกน่ะ” ผมร้องสะอื้นปาดน้ำตาทิ้งไปก่อนจะหันหลังให้กับมัน
“อยากไปไหนก็เชิญแต่กูจะอยู่ที่นี่!!!”
“เราห่างกันสักพักไหม?”
หลังจากที่เงียบอยู่นานไม่กล้าหันไปมองหน้ามันเพราะน้ำตายังคงไหลอยู่เรื่อยๆ
แม้ว่าเสียงสะอื้นจะถูกปกปิดไว้มากแค่ไหนก็ตาม ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อให้กำลังใจตัวเองก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับมัน
“กูอดทนมามากแค่ไหน
เจ็บปวดมาเท่าไหร่…แต่คงไม่เท่ามึงที่เพิ่งสัมผัสมันถ้าอยากห่างกันนักล่ะก็”
เดินเข้าไปหามันก่อนจะฝืนยิ้มทั้งน้ำตา “กูไปเองก็ได้ก็ที่นี่มันที่ของมึงนี่”
เดินกระแทรกแขนมันออกไปก่อนที่เสียงประตูห้องจะถูกปิดลง
มันไม่มั่นใจในตัวผมพอๆ กับที่ผมกลัวและไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราคบกัน…มันเจ็บมากเท่าไหร่ผมก็เจ็บเท่ามันนั่นแหละ เราต่างก็เจ็บเหมือนกันทั้งคู่
L
ในตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเราอีกแต่เปล่าเลยมันกลับยิ่งเกิดขึ้นเรื่อยๆ
จนดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่โตซะจริงๆ ผมจะทำยังไง…คิดเดินออกมาแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถือออกมาแค่โทรศัพท์ล่ะ?
“ให้มันได้อย่างนี้สิ!!!”
ฝืนยิ้มให้กับตัวเองอยู่หน้าคอนโดกับบรรยากาศที่โคตรจะเย็นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเดินไปทางไหนดีพูดง่ายๆ
คือไม่มีที่จะไปป่านนี้ไอ้พอเพียงก็คงเคลียร์กับไอ้เต็มใจไม่เสร็จถ้าโทรไปมีหวังขัดจังหวะพวกมันสองคนกันพอดี
เอาไงดีล่ะ?
เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนหรือจะโทรหาไอ้เก้าดี
แต่ไม่ดีกว่าเพราะมันคือประเด็นที่ผมกับไอ้เอียนต้องทะเลาะกันนี่ครับ
อ๊ากกกกกกกกกกกก!
เครียดโว้ย…
ครืด
ครืด
โทรศัพท์แทบร่วงลงจากมือกับเสียงกรีดร้องของมันผมสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
พอเห็นเบอร์ที่โชว์หราอยู่ก็แปลกใจนิดๆ แฮะ
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆ”
มาซะเต็มหูไม่อยากจะบอกว่ากูก็เศร้าอยู่เหมือนกันน่ะโว้ย
“เป็นเชี่ยอะไรครับเพื่อน”
“เศร้าโว้ย!
มึงอยู่ไหนเนี่ยเดี๋ยวกูไปรับอยู่กับไอ้เอียนหรือเปล่า?”
คือแบบว่าเหมาะเจาะมากเลยทีเดียวครับ
“ฟุตบาทหน้าคอนโด”
“ไปนั่งทำพ่องตรงนั้นว่ะ?”
“รีบมารับสิเดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟัง”
ผมว่าไอ้พอเพียงเลยกดวางสายทันทีนั่งรอมันตากน้ำค้างไปด้วยอากาศก็เย็นไปน่ะบางทีมันก็ไม่เหมาะสมกับคนที่เพิ่งอกหักมา
แต่ไม่ได้พูดว่าเลิกสักหน่อยก็แค่ถูกบอกให้ห่างกันสักพัก
“พูดมาได้ไอ้เหี้ย!!!!!!” นั่งตะโกนออกไปซะดังจนคนที่เดินผ่านต้องหันมามองเค้าคงคิดว่าผมเป็นคนบ้าแน่นอนเลยละครับถึงมานั่งตะโกนอยู่แบบนี้
เอี๊ยด!!!!!
เร็วปานเหาะมาแต่เชื่อเถอะว่ามันเหาะมาจริงๆ
ผมลุกขึ้นยืนหันไปมองหน้าไอ้พอเพียงแบบงงๆ ก่อนจะเดินไปหามันและขึ้นไปนั่งบนรถ
พอมันขับรถออกมาจากหน้าคอนโดก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้นจนในที่สุดก็พาผมมาถึงผับของพี่มันโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าคือมึงเปลี่ยนชุดแล้วแต่กูยัง
-_-!!!
“เดี๋ยวสิว่ะกูยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ใส่เสื้อแจ็คเก็ตกูไปก่อนล่ะกัน”
พรึบ!
พูดเสร็จไอ้พอเพียงก็โยนเสื้อแจ็คเก็ตสีดำที่มันใส่อยู่มาซะเต็มหน้าผมเลยล่ะครับขอบอกว่าแมร่งใส่เสื้อกล้ามล่ะโคตรยั่วอารมณ์ใครที่ได้พบเห็นซะจริงๆ
แต่สีหน้าของมันกลับบอกบุญไม่รับพร้อมจะฆ่าทุกคนได้ตลอดเวลา
ผมรีบใส่เสื้อแจ็คเก็ตที่มันโยนมาให้ก่อนจะวิ่งตามลงไปไอ้พอเดินไม่สนใจคนเลยละครับแถมมีแต่คนมองมันกันทั้งนั่นผมเองก็วิ่งตามไม่ค่อยจะทันจนมันต้องหันกลับมามองและจับมือผมกระชากขึ้นไปชั้นบนประตูถูกผลักไม่สิมันถีบเลยล่ะครับทำเอาพี่พอดีที่นั่งทำงานอยู่ด้านในต้องตกใจเลยทีเดียว
“มึงเปิดประตูดีๆ
ไม่เป็นหรอว่ะ” พี่ชายมันออกเสียงดุแต่ไอ้พอเพียงกลับไม่สนใจซะงั้น
“สวัสดีครับพี่”
ผมยกมือไหว้ตามมารยาทพี่แกก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจน้องชายตัวเองต่อ
“ออกไปก่อนได้มั้ย?”
“นี่มึงกำลังไล่เจ้าของห้องอยู่น่ะไอ้พอเพียง!!!!” นั่นน่ะสิผมก็เห็นด้วยกับพี่มันน่ะแต่จะว่ายังไงดีล่ะครับตอนนี้ไอ้พอเพียงเหมือนจะเครียดและอยู่ในโหมดโหดได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว
“ขอร้อง!”
“เฮ้อ!
เสียงอ่อยซะกูไม่กล้าขัดเลยน่ะ งั้นก็ฝากดูร้านด้วยล่ะกัน”
พี่มันว่าก่อนจะเดินมาทางผมตบบ่าสองสามทีแล้วเดินออกจากห้องไปไอ้พอเพียงเลยเดินล็อกห้องซะเรียบร้อยก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาแล้วก็…
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เฮ้ย!
ผีเข้าหรือไงว่ะมึง” ผมตะโกนถามอย่างตกใจก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ มัน
“ไอ้เหี้ยเต็มมันบอกเลิก
ทั้งๆ ที่กูกับมันยังไม่ได้คบกันเลย”
ขอเงิบนิดหน่อยบางทีสถานะที่ไม่แน่นอนของพวกมันสองคนก็ทำให้ผมงงได้เหมือนกันครับ
“ตอนไหนว่ะ
แล้วที่มันเดินกับคนอื่นล่ะ?”
“คนอื่นที่ไหนนั่นน่ะญาติมันแถมกูยังไปต่อยซะเต็มแรง
ไอ้เหี้ยเต็มเลยบอกว่ากูเอาแต่ใช้กำลังแต่ไม่ใช้สมองควบคุมสติ…แมร่งด่าซะกูเงิบไปเลย แถมยังด่าว่ากูงี่เง่าอีกต่างหาก”
“……………………………….” ผมกระพริบตาถี่ๆ นั่งมองหน้าเพื่อนตัวเองที่เอาแต่ร้องไห้ที่พูดออกมาปาวๆ
บางทีสิ่งที่ไอ้พอเพียงเจออาจจะหนักกว่าผมก็ได้น่ะครับ
“กูจะทำยังดี?”
“ขนาดกูยังเอาตัวเองไม่รอดแล้วจะหาปัญญาที่ไหนไปช่วยมึง”
ผมว่ากลืนน้ำลายลงคอยากลำบากชะมัดเลยครับ
“ทำไมว่ะ?”
“ไอ้เอียนบอกให้เราห่างกันสักพัก”
“เชี่ย!!!!!!” เต็มหน้าผมเลยครับไม่รู้ว่ามึนตกใจหรือไม่เชื่อกันแน่ “เป็นไปได้ยังไง?”
“เป็นไปแล้ว…กูก็คงเหมือนมึงที่ปากหนักไม่กล้ายอมรับความจริง
ไม่กล้าแม้แต่จะบอกใครว่าคบกับมัน หึ! แถมตอนนี้ไอ้เก้ายังจะกลับมาอีก”
“เฮ้ย!
ใช่ไอ้คนที่มึงเคยเล่าให้ฟังหรือเปล่า มึงแมร่งโลเลว่ะ?”
“อ้าวสัดตกลงจะปลอบหรือซ้ำเติม!!!!!!!” ผมหันไปจิกตาใส่มันทันทีกล้าดียังไงมาว่าผมโลเลทั้งๆ
ที่ผมยังไม่ได้ตอบอะไรมันไปเลยนี่ครับ แถมผมยังมั่นใจด้วยว่าไม่ได้รักมันแล้ว…
“เออโทษที
มึงกับกูก็แย่พอๆ กัน”
“กูแย่กว่ามั้งเพราะไอ้เก้ามันรอคำตอบที่ว่ากูยังรักมันอยู่มั้ย?”
ไอ้พอเพียงเลิกร้องไห้หันมามองหน้าผมคือแบบว่ามึงเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วโคตรๆ
เลยว่ะเพื่อน
“แล้วมึงจะตอบว่าอะไร”
“กูไม่ได้รักมันแล้ว…” ย้ำสุดชีวิตและคิดว่าหนักแน่นที่สุด
“แต่ทำไมมึงต้องทำหน้าเศร้าด้วยว่ะหรือที่จริงมึงยังรักมันอยู่”
ผมอยากจะกระโดดถีบไอ้พอเพียงมากเลยล่ะครับถ้ามันจะพูดจาได้เลวร้ายขนาดนี้
แล้วทำล่ะไปทำหน้าเศร้าให้มันจับผิดทำไม
“ไม่รู้!!!!!”
“มึงหนักแน่นหน่อยสิพาย”
เข้าโหมดจริงจังจนผมตามไม่ทันเลยครับ
“กูมั่นใจว่ารักไอ้เอียน
รักมันๆ รักมากเลยด้วย แต่ทำไมมันไม่มั่นใจในตัวกูว่ะ…กูนี่ทั้งโง่และทนแค่ไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้
แต่พอไอ้เก้ากลับมาทุกอย่างกลับแย่ลง”
“งั้นจ้างคนไปฆ่ามันเลยดีปะ”
“ตลก!!!
แล้วนี่มึงหายเครียดยัง”
เหมือนเราสองคนกำลังกลุ้มใจเรื่องเดียวกันเลยล่ะครับ
ก็เลยต้องช่วยกันปลอมใจแม้ว่าบางครั้งจะฟังดูเหมือนซ้ำเติมไปบ้างก็ตาม
“เรื่องกูคงไม่เครียดเท่ามึง
เฮ้อ!”
ไอ้พอเพียงถอนหายใจยาวยืดก่อนจะเอนหลังพิงโซฟาที่นั่งอยู่ผมนั่งเงียบมองหน้ามันทั้งห้องก็เลยได้ยินแต่เสียงแอร์กับลมหายใจของพวกเราสองคนเพื่อนรักที่กำลังเครียดกับปัญหาชีวิตขนาดหนัก
“ไปเมากันเถอะเผื่อกูจะคิดอะไรออกบ้าง”
“เอาจริงดิ!!!”
“เออ!!!”
ผมว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนกินเหล้าไม่ได้ช่วยให้ลืมตลอดไปแต่มันช่วยให้เราลืมว่าตอนนี้กำลังเครียดเรื่องอะไรก็เหมือนมีมันเป็นเพื่อนยามที่เราเหนื่อยใจนั่นแหละครับ
แต่ถ้ากินมากไปก็ไม่ดีเพราะผมไม่ใช่คนที่ชอบดื่มอะไรมากนักถ้าไม่เครียดจริงๆ
เสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมกับเสียงโหวงเหวงโวยวายของผมแต่ไอ้พอที่ดังกว่าใครในผับจะว่ายังไงล่ะก็เพราะตอนนี้พวกเราสองคนต่างก็เมาด้วยกันทั้งคู่
ทั้งผมและก็มันดื่มกันเยอะพอสมควรหลังจากที่ตัดสินใจลงมาดื่มกัน
กระดกได้กระดกเอาเลยทีเดียวถ้าไม่เมาจนเรื้อยขนาดนี้ก็คอแข็งน่าดูแต่ก็ดีอย่างที่ผมพอจะมีสติอยู่นิดหน่อย…
“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ”
หลังจากที่ยืนเต้นจนเหนื่อยผมก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะสักพักข้างกายก็มีใครสักคนก็ไม่รู้เดินเข้ามาขอนั่งด้วยผมมองไม่ถนัดหรอกเพราะมันมืดแถมสายตาผมยังลอยชายอีกต่างหาก
“ครับ”
เชิญไปตามมารยาทแต่ก็ไม่อยากเสวนาด้วยเพราะผมไม่สนิท
“ชื่ออะไรเหรอครับ?”
“ถามแบบนี้จะจีบหรือไง”
ผมถามเสียงหวนๆ จะว่ายังไงดีล่ะก็คนมันเมานี่พูดอะไรไปก็ไม่ได้คิดหรอกครับ
“พูดตรงจังเลยน่ะครับ”
หมอนี่ว่ายิ้มๆ ผมเดาจากน้ำเสียงติดตลกของมันครับ
“ไม่ให้จีบ…คิวยาว!!!!!”
เปล่าหรอกเพราะตอนนี้กำลังทะเลาะกับไอ้เอียนอยู่แค่ไอ้เก้าคนเดียวก็แทบจะกระอักเลือดแล้วอย่าได้หาเพิ่มให้เป็นภาระของตัวเองจะดีกว่า
“ใจร้ายจังน่ะครับ”
“พี่ผมถามอะไรหน่อยสิ?”
อย่างน้อยขอแค่ตอนนี้มีเพื่อนคุยก็พอเพราะเพื่อนผมมันเมาแรดอยู่หน้าฟลอร์สบายใจเฉิบเลยทีเดียวครับ
“ไว้ใจพี่เหรอครับ”
“ถ้าไม่ไว้ใจคงไม่ถาม”
ที่กล้าเรียกมันว่าพี่เพราะผมคิดว่าตัวเองคงอายุน้อยกกว่าแค่นี้เป็นอันรู้กันน่ะครับ
“พี่เคยอกหักไหม
แล้วอกหักนี่ทรมานแค่ไหน?”
“………………………………………” คนตอบคำถามเงียบไปเลยทีเดียวล่ะครับแล้วนี่จะเงียบทำไม
“ตอบสิพี่”
“ก็…”
“เฮ้ย!
นี่เพื่อนน้องกูเว้นสักคน” จู่ๆ
เสียงของพี่พอดีก็ดังขึ้นมาซะก่อนไม่ทันที่ผู้ชายข้างๆ
ผมจะได้ตอบคำถามแถมน้ำเสียงของสองคนนี้เหมือนจะสนิทสนมกันมากๆ ด้วยครับ
“แล้วนี่มึงมาทำไมผับกูหรือคิดจะมาสอดแนมอีก”
“ปากยังจัดเหมือนเดิมเลยน่ะครับพอดี”
“อย่ามาเรียกชื่อกูด้วยน้ำเสียงชวนอ้วกแบบนี้ไอ้เหี้ยโช”
เหมือนจะเต็มหน้าคือผมไม่รู้จะฟังใครเถียงกันดีก็เลยต้องฟุบหน้าเข้ากับโต๊ะแมร่งเลยพวกเค้าสองคนทะเลาะอะไรกันคนเมางงครับ
“พายไหวมั้ย?”
เสียงกระซิบถามข้างหูแต่ไม่มีแรงจะตอบ
“อือ…” ก็เลยต้องส่ายหัวแทนคำตอบ
“อ้าวเชี่ยพายตายแล้วเหรอเนี่ย?
นี่เฮียทำไมกลับมาอีก” ผมจำได้ว่านี่คือเสียงของไอ้พอเพียง
“เพราะคิดว่ามึงต้องมีสภาพแบบนี้น่ะสิ”
“ชิส์!
งั้นเฮียแบกไอ้พายให้หน่อยสภาพแบบนี้พามันกลับบ้านดีกว่า”
ไอ้พอเพียงทะเลาะอะไรกับพี่พอดีแล้วไอ้พี่ผู้ชายที่ชื่อโชหายไปไหนแล้วครับคนเมางง
[-_-]
“แล้วมึง?”
“ก็เดินตามไปนี่ไง
เร็วๆ”
“จะรอดไหมน้องกู!!!!!”
“ให้ช่วยไหมครับ?”
นั่นไงพี่โชพูดขึ้นมาแล้วก็ว่าอยู่ว่าเค้ายังไม่ไปไหนแน่นอน
“ไม่ต้องมายุ่งไสหัวออกไปจากผับกูได้แล้ว”
แต่พี่พอดีนี่ก็ปากจัดเหมือนกันแฮะ อ๊า!!! สมองโครงเครงไปหมดแล้วครับทุกอย่างเหมือนจะขาดหายไปเลยทีเดียว…แล้วไอ้เอียนละมันอยู่ที่ไหน?
คิดถึงมันจังเลยครับ?
ไหนว่าเวลาเมาจะลืม
แต่ทำไมผมยิ่งดื่มเยอะยิ่งจำมันได้ดีซะเหลือเกิน!!!!
‘เจ็บจังเลยน่ะเอียน…เจ็บที่สุด’ L
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น