วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #1 เพื่อนรัก… รักเพื่อน!



PLEASE! 1
เพื่อนรักรักเพื่อน!





อื้อ
ผมร้องครางออกมาอย่างรำคาญเมื่อรู้สึกได้ถึงริมฝีปากร้อนๆ ของใครอีกคนที่คลอเคลียอยู่บริเวณคอของผม มันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“อย่ามายุ่งได้ไหม?”
ผมขึ้นเสียงไม่พอใจก่อนจะออกแรงผลักคนที่กำลังวุ่นวายกับคอผมให้ออกไป แต่ทว่ามันกลับไม่ยอมหยุดแถมยังรุกผมหนักกว่าเดิมจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
อื้อ!
มันไม่ยอมให้ผมอ้าปากพูดอะไรเลยด้วยซ้ำก่อนที่ริมฝีปากบางสวยน่าจับจ้องและเป็นที่หมายปองของใครหลายๆ คนจะกดจูบลงมาที่ปากผมอย่างจัง มันทั้งกัดและขบเม้มจนผมรู้สึกเจ็บมือหนาข้างหนึ่งบีบปลายคางเพื่อให้ผมเผยริมฝีปากออกมาลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากควานหาความหอมหวานรับเช้าวันใหม่ มันอึดอัดและรู้สึกต้องการมากยิ่งขึ้น จากที่ขัดขืนในตอนแรกผลสุดท้ายกลับยอมสยบโดยง่าย
จนในที่สุดผมก็ได้ลมหายใจคืนมา
“มอร์นิ่งคิส!
“มอร์นิ่งคิสพ่องสิกูจะนอนไปไกลๆ ได้ไหม?”
ผมตะโกนด่ามันอย่างไม่พอใจหน้าหล่อยกยิ้มร้ายกาจก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันไม่มีอะไรปกปิดร่างกายกำยำแสนสมบูรณ์แบบของตัวเองเลยสักนิด
!!!
“คราวหลังไม่ต้องเสือกปลุกกูแบบนี้อีกนะ” ผมด่าตามหลังมันที่กำลังจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
“เสียใจวะ! กูชินแล้ว” มันโผล่หัวออกมาพร้อมกับคำตอบที่ทำให้หมอนใบโตกระโจนไปยังหน้าประตูห้องน้ำแต่ทว่าไอ้เอียนกลับหลบมันได้

อย่าแปลกใจเลยว่าทำไมหรือเพราะอะไร? แต่เพราะผมกับมันเรามีอะไรกันทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกันและเราสองคนก็ไม่ได้รักกัน!
แต่จะพูดให้ถูกผมรักมันแต่มันไม่ได้รักผม?
เรานะเพื่อนกัน แค่ลืมตาตื่นขึ้นมามีมึงข้างๆ กูก็พอแล้วใจแล้วพาย
แล้วถ้าวันไหนที่เรียนจบมึงแต่งงานไปละ?
เดี๋ยวกูจะเอารูปมึงไปแปะไว้ในห้องแทน ตื่นมาจะได้เห็นไง ฮาๆๆๆ
ทุกอย่างสำหรับมันคือคำว่าเพื่อน แต่ทุกอย่างสำหรับผมคือคำว่าแอบรักเพื่อน
ผมกับมันเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ บ้านผมกับมันอยู่ห่างกันไม่ไกลไปมากันได้สะดวก ผมกับไอ้เอียนเราสนิทกันและอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เรียนอนุบาลยันมัธยมจนตอนนี้ผมกับมันเข้ามหาลัยกันแล้ว
เราสองคนตัดสินใจมาเรียนต่อมหาลัยที่กรุงเทพฯ พร้อมกันแต่บ้านผมกับมันอยู่ภาคเหนือครับบ้านไอ้เอียนมันรวยโคตรๆ แต่บ้านผมปานกลางพอมีพอกิน ผมมีพี่ชายอยู่คนเดียวชื่อพีมันเรียนจบไปแล้วและก็ช่วยพ่อกับแม่ทำงานที่บ้านซึ่งจะเป็นสวนผลไม้ ส่วนไอ้เอียนมันมีน้องชายอยู่คนหนึ่งเหมือนกันครับชื่อเอมหมอนั่นติดผมเป็นพิเศษตอนนี้ก็เรียนอยู่มอหกแล้วช่วงปิดเทอมสักทีพวกเราสองคนถึงจะได้กลับบ้าน!
ผมเลือกที่จะเรียนสถาปัตฯ  เพราะผมชอบธรรมชาติและศิลปะ ส่วนไอ้เอียนมันเลือกเรียนเกษตรครับแม้บ้านมันจะรวยแค่ไหนแต่หมอนี่มักติดดินจนเกินไปแถมไม่ชอบทำอะไรนอกจากนอน กิน เที่ยวมันบอกว่าที่บ้านมีสวนผลไม้ก็ต้องเรียนอะไรเกี่ยวกับเกษตรแม้กิจการอื่นของบ้านมันจะมีอีกเยอะแยะก็ตามแถมประโยคของมันเหมือนพูดกระแทกผมที่ไปเลือกเรียนสถาปัตฯ แทนที่จะเป็นเกษตรแบบมัน
ตอนนี้ผมกับไอ้เอียนก็อยู่ปี4 กันแล้วอีกแค่ไม่กี่อึดใจเดียวก็จะเรียนจบกันแต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอกครับมันอยู่ตรงที่
ผมกับไอ้เอียนเรามีอะไรกัน!!
แถมครั้งแรกก็ตอนอยู่ปี1 แรกๆ นึกบ้าเพราะเมาด้วยละมั้งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายอมมันไปได้ยังไงแต่ครั้งแรกขอบอกเจ็บโคตรๆ แทบเดินไปไหนไม่ได้เลย พอผมจะกดมันบ้างไอ้เวรนี่ดันตอกกลับมาซะเจ็บปวดเชียวครับ
มึงนะ! อยู่ให้กูกดคนเดียวก็พอแล้ว…’
เป็นยังไงละครับ! ผมเสียเปรียบและเสียหัวใจให้กับมันมาตลอดจนถึงตอนนี้กี่ปีแล้วเนี่ย และอีกอย่างผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับตัวเองก็ตอนที่เห็นมันจูบกับคนอื่นนี่แหละครับ ต่อหน้าต่อตาแถมตอนนั้นผมไม่ได้เมาแต่ไอ้เอียนเมาแล้วพอกลับมาถึงห้องมันก็จบผมกดเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนผมเริ่มมั่นใจว่าทุกครั้งผมสมยอมไม่ใช่ต้องการปลดปล่อยแบบไอ้เอียนมัน
L
กรรมเถอะครับ! ถ้าโลกนี้จะไม่ยุติธรรมขอใครสักคนที่รักผมและทำให้ผมลืมไอ้เอียนได้ก็เป็นพอ

“เชี่ยพายแรด!
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ เสียงของไอ้เอียนก็ดังขึ้นมาข้างๆ หูผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่ามันยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าและมีผ้าขนหนูพันกายเพียงผืนเดียวพร้อมกับหัวที่เปียกโชก
“เออ!
“เช็ดผมให้กูหน่อยดิ” มันว่าก่อนจะผลักผมให้ถอยหลังไปจากที่กำลังนั่งอยู่ก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้แล้วร่างของมันก็นั่งลงตรงหน้าผม
“เช็ดเอง! กูจะไปอาบน้ำ
ผมปาผ้าขนหนูที่มันโยนมาให้ใส่หัวไอ้เอียนก่อนที่จะลุกขึ้นแต่ไอ้เวรนี่กลับดึงผมให้หันมามองหน้ามันก่อนที่จะใช้แรงอันมหาศาลผลักผมจนล้มลงไปนอนกองกับเตียงส่วนมันก็รีบขึ้นมานั่งคร่อมผมเอาไว้ทันที
“อยากเช็ดผมให้กู! หรือให้กูจับมึงกด
น้ำเม็ดเล็กๆ จากเส้นผมสีดำสนิทซอยสั้นดูเป็นทรงเข้ากับหน้าของมันหยดลงตรงหน้าผมทันที สติกลับมาก่อนจะตอบคำถาม ถ้ากูเลือกข้อสองกูก็บ้าเต็มทนแล้วเพราะเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนให้หอกหักนี่หื่นจัดและยังอึดอีกต่างหาก
“เออ!
“ตอบ” ก็กูตอบแล้วยังไง? ไอ้เวรนี่ฟังภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่องถ้าตอบไม่ตรงกับที่มันถามจ้างให้ตายมันก็ไม่ยอมปล่อย
“ชะเช็ดผม!” ติดอ้างสิครับพอมันยื่นหน้าเข้ามาหาผมเรื่อยๆ คือแบบหุ่นมึงมันยั่วกูแต่เช้า =_=!
“ก็แค่เนี่ย! ทำอิดออด” มันลุกขึ้นไปจากตัวผมก่อนที่จะนั่งหันหลังให้ ผมยันตัวเองลุกขึ้นนั่งหยิบผ้าขนหนูขึ้นก่อนจะจะขยำไปที่หัวไอ้เอียนแรงๆ จนมันร้องจ๊าก
“มือหนักเป็นบ้า! ใครที่ไหนเค้าจะอยากเอาไปทำเมีย!!!
“ไม่มีหรอก! มีแต่ไอ้เวรแถวนี้ที่ชอบเอากูทุกคืน” ผมตอบมันแบบจี๊ดใจดำมาก ไอ้เหี้ยคำพูดมึงแต่ละคำช่วยนึกถึงจิตใจกูบ้างจะได้ไหม? บางทีกูก็เจ็บเป็นนะ
แต่มึงไม่เสือกเข้าใจอะไรเลย!! L
“ปากดี! รับรองคืนนี้อย่าได้นอน
มันขู่ผมเห็นๆ เลยครับและผมก็เงียบถ้าต่อปากต่อคำกับมันต่อรับรองมียาวแน่นอน ผมเช็ดผมให้ไอ้เอียนสักพักหัวมันก็เริ่มจะแห้งผมเลยหยุดก่อนจะเดินหายเข้าไปอาบน้ำ ตามจริงวันนี้ผมไม่มีเรียนหรอกครับแต่มีนัดกับไอ้พอเพียงมันว่าจะไปเที่ยวกัน ส่วนไอ้เอียนก็มีเรียนเที่ยงตามปกติเรียนเสร็จมันก็จะไปเที่ยวเจอกันอีกทีเที่ยงคืน
ผมนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วจะว่าไปวันนี้ผมแช่น้ำนานเป็นพิเศษเพราะอะไรหลายๆ อย่างทำให้ผมคิดมากละมั้งผมสับสนในตัวเองและไม่เข้าใจด้วยว่าทำผมถึงรู้สึกรักมันได้ถึงขนาดนี้
“ถ้าเลือกได้! กูขอตายไปซะดีกว่า
“มึงได้ตายแน่ถ้าไม่ยอมขึ้นมาจากอ่าง!!!
“เฮ้ย! เข้ามาได้ยังไง?”
“ประตูไม่ได้ล็อก แต่จะว่าไปมึงนี่ก็ขี้ลืมเป็นบ้า คราวหลังถ้าอยู่คนเดียวก็เสือกล็อกด้วย กูเป็นห่วง!!!
กูเป็นห่วง!
แค่นี้ใจกูก็เต้นแรงจนผิดปกติแล้ว ทำไมมึงต้องพูดจาให้ความหวังกุไปเรื่อยๆ แบบนี้วะ เจ็บแต่ไม่จำเพราะผมมันทนเหมือนควายบางระจันไปซะแล้ว
ผมลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำเดินออกมาก็เห็นว่าไอ้เอียนกำลังเตรียมตัวที่จะไปเรียนทั้งๆ ที่ตอนนี้เพิ่งจะ 10 โมงกว่าๆ เองครับ
“มึงจะรีบไปไหน เรียนเที่ยงไม่ใช่เหรอ?” เช็ดผมตัวเองเดินตรงเข้าไปหามันที่นั่งอยู่ปลายเตียง ไอ้เอียนเสมองมาทางผมเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
“มีนัด!
มันเดินยิ้มอารมณ์ดีออกจากห้องไปเสียงประตูที่ปิดลงกับเสียงหัวใจผมที่แตกสลาย
เจ็บเป็นบ้า!!!!

ผมนอนราบลงกับเตียงก่อนจะควานหาไอโฟนเครื่องโปรดที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่เพราะถูกไอ้เอียนปาเล่นเวลาที่มันโกรธหรือไม่พอใจผมกดหาเบอร์โทรของไอ้พอเพียงทันที
“เชี่ยพอกูเจ็บ!” พอมันกดรับสายผมก็สวยไปหนึ่งดอกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เสียงตะกุกตะกักของไอ้พอทำให้ผมรู้ว่ามันยังไม่ตื่น
“เออ! ทนเหมือนควายบางระจันไปเถอะมึง” มันตะโกนกลับมาน้ำเสียงก็ยังอู่อี้เหมือนเดิม
“จะทนไม่ไหวแล้วเชี่ยทำไมแอบรักมันเจ็บแบบนี้วะ” ผมร้องไห้สะอื้นยังกับคนบ้า

แอด!
อ๊ะ
เสียงประตูห้องถูกผลักเข้ามาอย่างแรงก่อนที่ร่างของไอ้เอียนจะเดินเข้ามา มันเสมองมาทางผมเล็กน้อยก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวผมกระซิบให้ให้พอถือสายรอก่อนจะลุกขึ้นนั่งปาดน้ำตาตัวเอง ไอ้เอียนเดินกลับออกมาก่อนจะเดินเข้ามาหาผมที่นั่งมองมันอยู่
“เชี่ยพายแรด! แอบรักใครอ่า ให้เค้าช่วยเปล่าตัวเอง!” มันยื่นมือข้างหนึ่งมาหยิกแก้มของผมก่อนจะส่ายไปมาจนรู้สึกเจ็บ ผมปัดมือมันทิ้งก่อนจะตะโกนด่า
“ไปตายซะ! รีบๆ ไสหัวออกไปเลยนะ”
“ฮาๆๆๆ ทำเหวี่ยง ขอให้รักสมหวังนะครับเพื่อนรัก!!!!!!
เสียงประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับร่างของไอ้เอียนที่หายไป
มันจะสมหวังได้ยังไงในเมื่อคนที่กูรัก มันไม่เคยรักกู แถมคนๆ นั้นเสือกเป็นมึงอีกเชี่ยเอียน!!!
ผมเกลียดคำว่า เพื่อนรักที่สุด เพราะมันทำให้ผม รักเพื่อน

“เฮ้ย! ไอ้พายน้ำตาตกในตายรึยังวะ” ผมได้ยินเสียงตะโกนของไอ้พอผ่านจากสายโทรศัพท์ที่ยังไม่ถูกตัดหยิบมันขึ้นมาก่อนจะตอบคำถามเพื่อน
“เกือบตายกับคำว่าเพื่อน
“ทนทำไม!
“กูรัก! ตอนไหนก็ไม่รู้แต่รักไปแล้ว”
“เออ! ไอ้ควายเผือกงั้นอีกชั่วโมงเจอกันที่ร้านเดิมกูจะพามึงไปแรดให้หายแซด” ผมไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้พอก็กดวางสายทันที ผมนั่งร้องไห้อยู่สักพักก็ลุกขึ้นไปแต่งตัวทำทุกอย่างให้ช้าเพื่อรอเวลาแต่จะว่าไปผมก็ควรรีบและออกไปได้แล้วสินะ เพราะอยู่ในห้องนี้นานๆ แล้วมันเจ็บ
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน มุมไหน ก็มีแต่รูปของไอ้เอียนเต็มห้องไปหมด!!! พอเปิดมาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าก็ดันมีรูปมันแปะอยู่ ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าเค้าจะคิดค่าปรับไหมเพราะไอ้รวยมากมันซื้อคอนโดเป็นของตัวเองเอาไว้ส่วนผมก็แค่ผู้อาศัยมันไล่เมื่อไหร่ก็ต้องไป L
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาแปะแป้งเสริมหล่อที่ดูยังไงก็เกือบสวย พอจะเปิดประตูห้องรูปไอ้เอียนก็โผล่มาอีกดีอย่างที่มันถ่ายคู่กับผม!!!
ล็อกห้องเสร็จเรียบร้อยผมก็ลงไปด้านล่างเพื่อที่จะเดินไปยังป้ายรถเมล์ โดยปกติถ้าวันไหนที่ผมมีเรียนพร้อมไอ้เอียนก็จะได้ติดรถมันไปมหาลัยแต่ถ้าไม่ผมก็นั่งวินหรือไม่ก็รถเมล์แล้วแต่อารมณ์และความสะดวก แต่ส่วนมากไอ้พอจะขับรถมารับผมซะมากกว่าครับ
ยืนรอรถเมล์อย่างใจจดใจจ่อสักพักมันก็มาผมเดินขึ้นไปนั่งที่ริมหน้าต่างซึ่งมีที่นั่งแค่คนเดียวหยิบไอโฟนเน่าๆ ขึ้นมาก่อนจะเสียบหูฟังแล้วก็ฟังเพลง ผมฟังมันไม่ทันจบเสียงของเทคโนโลยีที่เรียกว่าไลน์ก็ร้องเตือน
เอียนเลว : เฮ้ย! เย็นนี้กูจะกลับห้องเร็วจะแดกอะไรไหมเดี๋ยวซื้อไปฝาก
ผมเจ็บจังเลยครับ มันใส่ใจผมดูแลผม แต่แค่ทำทุกอย่างในฐานะเพื่อนก็เท่านั้น!
พายแรด : เย็นนี้ไม่อยู่ห้อง! กูมีนัด
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมชื่อไลน์ผมกับมันถึงเป็นแบบนี้ ก็เพราะไอ้เอียนเป็นคนตั้งส่วนผมก็แอบเอาของมันมาตั้งบ้าง มันเห็นแรกๆ ก็บ่นแต่พอผมบอกว่าถ้ามันเปลี่ยนผมก็จะเปลี่ยน มันเลยยอม
เอียนเลว : ไปไหน? ไปกับใคร? กลับก่อนเที่ยงคืนไหม? ไม่งั้นกูเฉาตาย
ผมแอบดีใจนะครับที่มันถามว่าไปไหน ไปกับใคร? แต่จุดประสงค์สุดท้ายผมกลับยิ้มอย่างเจ็บปวดเพราะในสมองมันมีแค่เรื่องเดียว
พายแรด : ผัว!!
เอียนเลว : พายแรด! แมร่ง!
ผมไม่ได้กดอ่านแต่ก็เห็นว่าไอ้เอียนพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วซึ่งมันด่าผมว่าแรดแต่จะว่าไปผมชินแล้ว แถมไอ้คำสบถตอนท้ายเพื่ออะไรครับ
เลือกที่จะไม่สนใจก่อนจะเลื่อนเพลงฟังไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาหยุดอยู่ตรงเพลง
เพื่อนรัก รักเพื่อน

เมื่อเพื่อนรักกลายเป็นว่ารักเพื่อน
ฟังแล้วดูเหมือนว่าใกล้กัน
จริงจริงแล้วคำนั้นมันห่างไกล
เมื่อความรักฉันเป็นเหมือนอากาศ
ที่คอยเคียงข้างเธอเรื่อยไป
ไม่เคยเห็นเลยใช่ไหม
ว่าใครรักเธอ


ตอกย้ำกันจริงๆ เลยนะย้ำเข้าไป ย้ำให้เจ็บให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยสิ!!! L

ผมกำลังเดินผ่านผู้คนในห้างฯ ดังแห่งหนึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่หันมามองผมอย่างกับว่าเป็นตัวประหลาดแนะครับ ผมไม่สนใจรีบเดินไปยังร้านอาหารที่นัดไว้กับไอ้พอเพียง ขนาดผมรีบแล้วนะครับแต่มันมานั่งรอผมหน้าเสล่อเชียวครับ
“มาช้านะมึง!” มันพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าของผม ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามกับมันก่อนจะยิ้มให้
!!!
“ไม่ต้องเสือกยิ้ม ถ้าในใจมึงร้องไห้อยู่” ผมเกลียดไอ้พอเพียงชะมัดเลยครับ ทำไมมันถึงพูดจาแทงใจดำผมได้ขนาดนี้นะเนี่ย
“เรื่องของกู
“ปากดี! เดี๋ยวก็โทรมาร้องไห้กับกูอีกหรอก ฮาๆๆๆๆ”
ป๊าบ!
ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปตบหัวไอ้พอเพียงทันทีเมื่อมันหัวเราะรวนกับสภาพจิตใจของผมในตอนนี้ เรานั่งคุยกันสักพักมันก็พาผมออกจากห้างฯ ทั้งๆ ที่ผมเพิ่งจะเข้ามาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำไป พอถามว่าจะพาไปไหนมันก็ไม่ยอมบอกแถมตอนนี้ผมกับมันก็เตร่กันจนฟ้ามืดแล้ว
“พากูมาที่ไหนเนี่ย?”
“พามาแรด!” มันยิ้มหวานหน้าตายมากเลยทีเดียว ก่อนจะลุกจากรถผมจึงต้องรีบลงตามก่อนจะวิ่งไปหามันที่กำลังเดินนำเข้าไปด้านไหน
“ไม่ต้องตกใจที่นี่ผับพี่กูเอง อิอิ J
ตั้งแต่รู้จักกันมาถึงผมจะรู้ว่ามันมีพี่ชายและฐานะทางบ้านที่ดีพอสมควร แต่ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักเพราะมันเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด
“พี่มึงชื่ออะไรวะ?”
“พอดี!
ตระกูลพอหรือไงวะเนี่ย? ไอ้พอเพียงจูงมือผมก่อนจะลากเข้าไปข้างในซึ่งตอนนี้คนยังไม่เยอะเท่าไหร่หรอกครับเพราะยังไม่ใช่เวลาผับเปิด จะมีก็แต่พนักงานมากกว่า ไอ้พอลากผมขึ้นบันไดไปชั้นบนก่อนจะมาโผล่อยู่ที่ห้องๆ หนึ่งซึ่งพอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่าพี่ชายมันกำลังนั่งอยู่ด้านใน
หล่อ
แม้จะมีโครงหน้าคล้ายๆ กับไอ้พอเพียงก็ตามแต่ไอ้หมอนี่มันออกจะหน้าสวยซะมากกว่า ส่วนพี่ของมันก็น่าหล่อเข้มแถมโหด!
“ใครนะ?”
“เพื่อนกู ชื่อพาย” พี่น้องคู่นี้เค้าคุยกันเหมือนเพื่อนเลยนะครับ ผมยกมือไหว้พี่ชายของไอ้พอเพียงในฐานะที่เค้าอายุมากกว่าพี่มันรับไหว้ก่อนจะชวนผมนั่งลง
“นึกยังไงถึงมาที่นี่”
“อยากพาเพื่อนมาแรด”
“ปากมึงเหรอนั่น!” ไอ้พอเพียงไม่สนใจสายตาดุๆ ของพี่ชายมันซะด้วยซ้ำแต่ผมนี่สิเห็นรังสีความวุ่นวายมาแต่ไกลเลยละครับ
“ว่าแต่เรานะ คิดยังไงถึงไปคบไอ้พอเพียง!
ถามโคตรตรงเลยครับพี่ ผมก็ยิ้มสิครับ
“ผมไม่ได้คิดหรอกครับ แต่เห็นว่าเราคล้ายกันมั้งเลยคบๆ ไป” ผมตอบพี่พอดีไปตามความรู้สึกนึกคิดพี่มันเองก็ยิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะก้มลงไปทำงานต่อ
“โธ่! ไอ้พายกูจะถือว่ามึงชมละกัน”
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาผับเปิดไอ้พอเพียงมันก็ลากผมลงไปนั่งดื่ม สายตาทุกคนกำลังจับจ้องมาที่พวกเราสองคน แต่ผมว่ามองไอ้พอคนเดียวมากกว่าก็ตอนนี้มันเล่นดื่มหนักกว่าผมแถมยังเต้นเป็นเจ้าข้าว แค่เวลาไม่ถึงชั่วโมงมันก็เมาซะแล้ว -_-*
“จะให้พี่ไปส่งบ้านไหม?” เสียงของพี่พอดีดังขึ้นมา ผมเงยหน้าไปมองก่อนจะส่ายหัวเป็นคำตอบแม้ว่าตอนนี้ผมจะรู้สึกมึนๆ นิดหน่อยก็ตามแต่ผมก็ยังโอเคและกลับบ้านเองได้
“ผมยังไหวฮะ! พี่รีบพาไอ้พอเพียงกลับไปก่อนที่มันจะอาละวาดดีกว่า”
“งั้นกลับดีๆ ละ”
“ครับ”
พี่พอดีหิ้วตัวไอ้พอเพียงออกไป เท่านี้ก็เหลือแค่ผมคนเดียวที่กำลังนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยและคิดว่าตอนนี้ไอ้เอียนกำลังทำอะไรอยู่?

เอียนเลว : ทำไมไม่อ่านไลน์กู นั่งแรดอยู่ที่ไหนละ?
มือถือผมสั่นขึ้นมาพอหยิบมาดูก็เห็นว่าไอ้เอียนส่งไลน์เข้ามาเมื่อ 10 นาทีก่อน ผมเปิดอ่านก่อนจะตอบคำถามมัน
พายแรด : ไม่อยากอ่านเรื่องของกู!

“งั้นเหรอ?”





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น