วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #8 ความเจ็บไม่มีเสียง


PLEASE! 8
ความเจ็บไม่มีเสียง




เกือบทั้งอาทิตย์กว่าผมจะหายป่วยไม่ได้ไปเรียน ทัศนะศึกษาก็ไม่ได้ไปแถมยังมีงานสองชิ้นที่ต้องส่งอะไรมันจะเหนื่อยขนาดนี้เพราะไอ้เอียนคนเดียวเลยละครับ!!!
L
วันพุธกับการเรียนที่แสนทรมานข้างๆ กายผมก็มีไอ้พอเพียงนั่งอยู่
“สภาพมึงยังแย่อยู่เลย ป่วยหรือใกล้ตายวะ” ปากดีชะมัดขนาดไม่ได้ไปทัศนะศึกษาด้วยกันแต่มันดันโทรมาหาผมเกือบทุกชั่วโมงที่ว่างเลยก็ว่าได้ครับ
“ใกล้ตาย”
“เออ! สมควรก็ดูดิรู้ว่าป่วยแต่ไม่ยอมใส่เสื้อหนาวมา”
“ก็กูรีบและลืมด้วย แถมไอ้เอียนเองก็เร่งทุกวินาทีถ้ารู้งี้ให้มึงไปรับแต่แรกก็จบ” ผมนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะดีนะที่นั่งมุมห้องไม่งั้นอาจารย์คงบ่นให้ได้ยินอีกแน่นอน
“กลับคอนโดไหมเดี๋ยวกูไปส่ง”
“อือ! เรียนตัวนี้เสร็จก็กะจะกลับ”
วันนี้ผมมีเรียนสองตัว และขอบอกว่าช่วงบ่ายสังขารผมคงไม่ไหวถ้าไม่รีบผักผ่อนมีหวังหายไม่ทันศุกร์นี้ที่ผมกับไอ้เอียนจะกลับบ้านแน่นอนแถมมันยังบอกอีกว่าจะช่วยผมทำงาน เพราะฉะนั้นผมก็ต้องรีบหายและกลับบ้านไม่งั้นต้องทำคนเดียวแน่นอน

!!!
“ให้กูขึ้นไปส่งไหม?”
“ไม่ละ?” หลังจากที่เรียนเสร็จไอ้พอเพียงก็ขับรถมาส่งผมที่หน้าคอนโด แต่เพราะสภาพผมที่ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ละมั้งมันถึงอยากอาสาขึ้นไปส่งบนห้อง
“เออดูแลตัวเองด้วยละ”
ผมพยักหน้าตอบรับมันก่อนจะเดินไปหน้าลิฟต์รอขึ้นห้อง สักพักลิฟต์ก็มาผมกดขึ้นไปชั้นที่ต้องการหยุดยืนอยู่หน้าประตูก็แปลกใจเล็กน้อยเหมือนว่าประตุห้องจะไม่ได้ล็อคท่าทางไอ้เอียนจะกลับมาแล้ว ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปแต่ที่ไหนได้มันกลับไม่อยู่ข้างใน
“อยู่ในห้องละมั้ง” กะว่าจะเรียกตอนเจอกันเลยเดินไปหามันที่ห้อง จากรอยยิ้มที่เคยมีกลับจางหายลงไปทันที
ไอ้เอียนกับเด็กคนนั้น!!!!!!!
คนที่ผมเจอตรงลานจอดรถตอนที่ผมพยายามจะหลบหน้ามัน ไหนบอกว่าน้องเค้าแค่ติดรถไปด้วยแต่ทำไมตอนนี้ถึงพามาที่ห้องและอยู่บนเตียงที่ผมกับมันนอด้วยกันได้ละที่น่าเจ็บปวดไปมากกว่านั้นคือรอยยิ้มที่อ่อนโยนกับคำพูดที่ผมไม่เคยได้รับสักเท่าไหร่?
อยู่กับผมมันแสดงละครหรือออกมาจากใจจริงๆ กันแน่!!!

ตุบ
มือข้างหนึ่งบัดหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าห้องจนตกลงบนพื้นทั้งสองคนในห้องที่มีทีท่าว่ากำลังจะจูบกันก็ตกใจก่อนจะหันมามอง แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคงเป็นไอ้เอียนเพราะมันคงไม่คิดว่าผมจะกลับมาสินะ
ผมคงต้องคิดทบทวนใหม่! เวลาที่ผมมีเรียนเลิกเย็นแต่มันเลิกเรียนก่อน เตียงนี้ยังมีแค่ผมหรือเปล่าที่ได้นอนกับมัน
“พาย!
มันเรียกชื่อผมน้ำเสียงเบาก่อนจะวิ่งเข้ามาหาแต่ผมกลับปิดประตูห้องนั่นแล้วเดินออกมา ผมไม่อยากเจอหน้ามันด้วยซ้ำน้ำตาอยากจะไหล!
แต่ถ้าให้เดินออกไปจากห้องนี้ผมก็คงต้องร้องไห้ให้คนอื่นเห็น

หมับ!
“เป็นเหี้ยอะไรเนี่ยจู่ๆ ก็จะเดินหนี” ผมหยุดเดินตามแรงดึงของมันก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมอง แต่แววตาที่ผมมองกลับดูว่างเปล่าและรังเกียจการกระทำของมันซะเหลือเกิน
………………..
“กูถามว่าเป็นเหี้ยอะไร?”
“ปล่อย!” ผมไม่ตอบแต่เน้นย้ำคำพูดของตัวเองให้หนักแน่นขึ้น
“ตอบ!
“มันเรื่องของกู ปล่อยสิวะ!” ผมเองก็ไม่อยากตะโกนหรอกนะเพราะว่าอาการป่วยมันยังไม่หายดี และยิ่งตะโกนมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเจ็บคอ
……………..
“พี่เอียนถ้างั้นมินกลับก่อนนะครับ จุ๊บ -///////////////-
ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บ ยิ่งอยากร้องไห้แต่ต้องเก็บมันเอาไว้ไอ้เหี้ยเอียนมันกำลังทำให้หัวใจของผมแย่ลง
เสียงประตูห้องถูกปิดลงแต่เสียงของน้ำตาผมที่กำลังไหลอยู่ข้างในไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลยละครับ
“ปล่อยกู!
“มึงเป็นอะไรวะพาย”
“กูจะเป็นเหี้ยไรมึงจะมาสนใจทำไม ในเมื่อมึงทำอะไรก็ไม่เคยแคร์กูอยู่แล้วนี่
ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันคำพูดนี้ของผมคงกำลังน้อยใจเสียใจหรือผิดหวังกับการกระทำของมันสินะ แต่ถ้าสำหรับคำว่าเพื่อนที่แอบรักเพื่อนอย่างผม
ทุกอย่างมันคงรวมกันหมดจนกลายเป็นความเจ็บที่ไม่มีเสียง!!!!!
“มีงเป็นบ้าอะไรเนี่ย เราเป็นเพื่อนกันนะ” ผมจ้องมันตาเขม็งรู้สึกโกรธกับคำพูดนี้มากๆ เลยทีเดียว เพื่อนงั้นเหรอ? สำหรับมันผมคงเป็นได้แค่นี้จริงๆ
“อืม! กูเพื่อนแล้วบอกหน่อยสิว่าเด็กคนนั้นเป็นอะไร?”
ผมหยุดอาละวาดและถามมันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย ไอ้เอียนเองก็คงปรับอารมณ์ผมไม่ทันมันยอมปล่อยมือที่จับแขนผมเอาไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมาเหมือนว่าเหนื่อยที่เมื่อกี้เราทะเลาะกัน
“น้องเค้ามาสารภาพรัก แต่กูยังไม่ได้ตอบตกลงไม่รู้สิกูแค่คิดว่าน้องเค้าไม่ใช่!
หึ!
ผมจะเชื่อมันได้หรือเปล่าละ คนอย่างไอ้เอียนนะเหรอจะพูดความจริงจนหมด
………………………..
“อย่ามองกูด้วยสายตาเกลียดชังแบบนั้นได้ไหมพาย มันรู้สึกไม่ดีเลยวะ”
ไอ้เอียนยื่นมือมารั้งใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนจะเกลี่ยไปมาแต่ผมกลับเลือกที่จะถอยหลังหนี เพราะในสมองกำลังสับสนกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้มากๆ
“เราเป็นเพื่อนกันนี่ อย่าสนใจเลย”
“เพราะมึงเป็นเพื่อน กูถึงสนใครว่ากูไม่แคร์ กูนะโคตรจะแคร์มึงเลยรู้ไหม? ตอนแรกน้องมันชวนกูไปที่ห้องแต่กูกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดเลยพามาที่นี่ ไม่คิดว่ามึงจะกลับมาเร็วกูกะคุยกับน้องเค้าเสร็จก็จะลงไปส่งแล้วไปรับมึงที่มอ อาการป่วยมึงยังไม่หายไม่ใช่เหรอ?”
มันพูดมาซะยาวแล้วผมจะเชื่อสิ่งไหนดี เพราะภาพที่เห็นเมื่อกี้คือพวกมันสองคนกำลังจะจูบกัน
“อธิบายเพื่ออะไร? กูก็แค่เพื่อนไม่ใช่คนรัก
พูดเองเจ็บเองไม่มีใครมันโง่เท่าผมแล้วละครับ ทั้งๆ ที่ผมอยากให้มันเป็นคนรักแท้ๆ แต่ก็ไม่เคยก้าวข้ามขีดจำกัดของคำว่าเพื่อนไปได้เลยสักครั้งเดียว
“ไม่รู้! แค่เห็นแววตารังเกียจจากมึงกูก็อยากอธิบายทุกอย่างแล้ว” มันว่าท่าทางก็ดูจะสับสนกระวนกระวายใจซึ่งผมเองก็ไม่เคยเห็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างไอ้เอียนเป็นแบบนี้มาก่อนเลยละครับ
“อย่าทำเหมือนมึงจะสารภาพรักกูหน่อยเลย เพราะกูไม่สนุก
“เมื่อก่อนกูกล้าที่จะพูดว่ารักและคิดถึงมึงได้เต็มปาก แต่ทำไมตอนนี้กูถึงพูดไม่ออกวะ” เหมือนมันกำลังอธิบายความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกให้ผมฟังเลยก็ว่าได้ครับ แต่ขอเถอะอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลยหากทุกอย่างที่มันกำลังจะแสดงออกมาคือความรู้สึกจากคำว่าเพื่อน
“เคยชินที่มีกูลองไม่มีกูดูบ้างไหมเอียน?”
“อย่าถามแบบนี้ได้ไหม!
ไอ้เอียนเดินเข้ามาหาผมที่พยายามจะรักษาระยะห่างของเราเอาไว้ก่อนที่มันจะรั้งตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้จนแน่นเหมือนไม่อยากปล่อยไปไหนเลยด้วยซ้ำผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันคิดอะไรอยู่ ใจจริงๆ แล้วมันต้องการอะไรกันแน่?
“เลิกกอดกูสักที!
“รังเกียจกอดของกูงั้นเหรอ
“กูไม่อยากกอดมึงทับรอยคนอื่น ถ้าอยากกอดแค่กู จูบแค่กู มีอะไรแค่กับกูมึงก็เลิกยุ่งกับคนอื่นซะ แต่ถ้าทำไม่ได้กูก็พร้อมจะทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนที่มึงทำ!!!
เหมือนคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากคนรักที่สั่งห้ามมากกว่าปากของเพื่อนอย่างผมและเชื่อเถอะว่าไอ้เอียนไม่มีวันทำตามและจะแหกปากถามแน่นอนว่าทำไม
“ตกลง!!!
[O_O]…
คำตอบของมันทำเอาผมนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปตั้งหลายคำ ผมหยุดยืนอยู่อย่างนี้และปล่อยให้ไอ้เอียนกอดอยู่โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำมันเองหลังจากที่ตอบคำถามผมก็เงียบเหมือนกัน มีแค่เสียงลมหายใจของพวกเราสองคนเท่านั้น!
ผมเด็ดขาดกับมันได้ด้วยเหรอ? ในเมื่อเราเป็นแค่เพื่อนกัน
“อย่าฝืนเลยเอียน กูก็แค่พูดเล่น
แต่อย่างน้อยคำตอบของมันกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บเหมือนมันคิดกับผมที่เรื่องอย่างว่าและเวลาอยากทำอะไรมากกว่า มันไม่ได้รักผมอย่างที่ผมรักมันเลยสักนิดเดียว! ก็แค่เพื่อนเท่านั้นเอง
“กูไม่ได้ฝืน!” มันกอดผมแน่นกว่าเดิมแถมคำตอบเมื่อกี้ก็เสียงดังฟังชัดซะเหลือเกิน
………………..
“ขอแค่มึงไม่ยอมให้ใครแตะต้องนอกจากกูคนเดียว กูยอม
“เราไม่ใช่แฟนกันนะ อย่าทำเหมือนใช่เลย? ทำแบบที่เราเคยทำกันนั่นแหละดีแล้ว” ผมผลักมันออกไปห่างๆ ตัวก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้อง ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยและอยากนอนพักมากๆ เลยด้วย
มันเจ็บนะเอียนที่มึงทำแบบนี้ทั้งๆ ที่เราไม่ใช่แฟนกัน…’

เอียน
ผมเป็นอะไร ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย
ทำไมสิ่งที่เจอวันนี้ถึงทำให้ผมกล้าที่จะยอมรับว่าไอ้พายคือคนเดียวที่ผมเลือกจะแคร์มันที่สุดแม้ว่าเราสองคนจะเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นก็ตาม!!!
แถมวันนี้ไอ้พายยังทำตัวแปลกๆ พูดจาอะไรที่ฟังแล้วไม่บันเทิงหูเอาซะเลยทำตัวห่างเหินมองผมด้วยแววตาที่รังเกียจและโคตรจะเย็นชาจนผมรู้สึกแย่ แต่เหตุการณ์เมื่อกี้ผมก็มีส่วนผิดที่พาน้องเค้ามาที่นี่และไม่บอกมันก่อนคิดแค่ว่าคุยเสร็จไปรับมันแล้วค่อยบอก แต่ไม่คิดว่ามันจะกลับมาคอนโดซะก่อนเจอเข้าให้ตอนที่ผมกำลังปัดฝุ่นที่ผมให้น้องเค้าแน่นอนถ้ามองในมุมที่มันยืนอยู่ก็เหมือนกำลังจะจูบกัน
=_=!!!
ให้ตายสิถ้าจะแคร์มันขนาดนี้แย่ชะมัด!!!

“กินยาก่อนน่ะ จะได้นอนพัก”
ตั้งแต่ที่ผมกอดมันเมื่อกี้ก็รู้สึกได้ทันทีว่าไอ้พายตัวเริ่มร้อนแถมไข้ก็มีแววว่าจะกลับมาอีกแล้ว พอกำลังจะหายมันก็ดื้อที่จะอาบน้ำทั้งๆ ที่สมควรเช็ดตัวมากกว่า ตื่นขึ้นมาเป็นยังไงละไข้กลับมาเยือนทันทีเลยละครับ
“อือ” แค่เสียงครางเดียวก็โคตรเย็นชาเลยละครับ คนที่มั่นใจในตัวเองสูงอย่างผมทำไมถึงรู้สึกเสียฟอร์มได้ขนาดนี้นะ
“เย็นนี้กูมีนัดกับไอ้เต็มไปดูต้นไม้นะ”
“อือ” เชี่ยทำไมตอบแค่ว่าอือแบบนี้มันไม่มั่นใจเลยนะ
“งั้นลุกมากินยาสิจะได้นอนพัก”
………………………” ไอ้พายไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ลุกขึ้นมากินยาที่ผมยื่นไปให้มันพร้อมแก้วน้ำหลังจากที่กินเสร็จมันก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้งโดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำไป
จุ๊บ -/////////////////-
ผมก้มลงไปจูบหน้าผากของมันแทน ไม่ได้ขัดขืนแต่กลับหลับตาและไม่คิดจะมองหน้ากันอีก ไอ้พายเย็นชาชะมัด
“งั้นกูโทรไปเลื่อนนัดมันเป็นตอนนี้เลยละกัน จะได้รีบกลับมาดูแลมึง”
“อือ
รู้สึกไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ แต่เพราะมันโกรธผมอยู่สินะถึงได้ทำแบบนี้ให้ตายสิกูยอมมึงก็ได้!!!!

หลังจากที่ผมเดินออกจากคอนโดด้วยอารมณ์ที่อยากจะฆ่าไอ้พายมากๆ ตอนนี้ก็ต้องมานั่งรอไอ้เต็มอยู่ที่ร้านขายต้นไม้ไม่ไกลจากคอนโดผมนักช้าและหงุดหงิดมากๆ เลยด้วย พูดไม่ทันขาดคำแมร่งเดินหล่อมาแต่ไกล
“รอนานไหม?”
“ดูหน้ากู แล้วลองถามใหม่สิ”
“เออๆ โทษทีพอดีกูพาน้องพอเพียงไปกินข้าวมา”
“ไอ้สัด!!!!
ผมด่ามันก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเพื่อเลือกซื้อต้นไม้อาจารย์บอกให้ซื้อแล้วเอาไปเลี้ยงดูในระยะแรกๆ จนกว่าจะถึงวันสอบแล้วนำไปส่ง ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะดูแลให้ยุ่งยากทำไมก็แค่ซื้อไปส่งก็จบ เหมือนอาจารย์ท่านจะรู้เลยพูดดักคอเอาไว้ซะก่อนและต้องทำร้ายงานเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของต้นไม่ชนิดนั้นทุกๆ หนึ่งอาทิตย์
อยากจะบ้าตาย!!!!
“เฮ้ย! กูได้แล้วนะต้นรักแรกพบ นึกถึงพอเพียงวะ”
ผมเงยหน้าไปมองมันที่ยืนถือต้นไม้กระถางเล็กด้วยสายตาที่หวานฉ่ำโคตรน่าเตะให้คอหัก
“เออ!
“แล้วมึงละ?”
“ยังกูเลือกไม่ถูก”
“เออ! รีบๆเลือกเข้าละ เดี๋ยวกูไปเดินดูต้นกล้วยไม้รอ” พูดจบมันก็เดินหายออกไปจากที่ตรงนี้ก็เหลือแต่ผมว่าจะเลือกต้นอะไรดี เพราะในสมองมันไม่มีคิดเอาไว้เลยละครับ
ผมใช้เวลาอยู่นานพอสมควรกว่าจะเลือกต้นไม้ที่ต้องการได้ที่จริงผมจำยอมเลือกมากกว่าเพราะไอ้เต็มใจมันขู่หากผมช้ากว่านี้มันก็จะกลับ ก็แน่ละสิผมดันเลือกต้นไม่เป็นชาติเกือบสองชั่วโมงแนะ ที่จริงไม่ได้เลือกแต่ในหัวมันคิดเรื่องไอ้พายมากกว่า
=_=!!!
“ได้ต้นอะไรวะ?”
“ต้นกล็อกซิเนีย” ไอ้เต็มทำหน้างงนิดหน่อยก่อนจะยักไหล่ให้ผม
จ่ายเงินเสร็จผมก็ขับรถไปส่งมันที่คอนโดพร้อมทั้งแทรกร่างกายของตัวเองให้สถิตอยู่ที่คอนโดมันด้วย ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ไอ้พายทำตัวห่างเหินแบบนั้น ถ้าให้กลับไปตอนนี้มีหวังต้องหงุดหงิดและชวนมันทะเลาะแน่นอน
“จะดื่มไหม?”
“อืม! ก็ดี” ไอ้เต็มโยนเบียร์มาให้ผมกระป๋องหนึ่งก่อนที่มันจะเดินมานั่งข้างๆ เปิดทีวีให้ผมดู
“ทำไมไม่กลับคอนโดมึงไปวะ” เสียงของไอ้เต็มดังขึ้นมา ก่อนที่สายตาของมันจะมองผมแบบสมเพชยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“กูไม่อยากทะเลาะกับไอ้พาย”
“หือ! ที่หน้ามึงหงิกก็เพราะทะเลาะกับไอ้พายมาก่อนงั้นเหรอ?” ไอ้เต็มขยับเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดินสีหน้าของมันเหมือนคนอยากรู้มากๆ เลยด้วย
“เออ!
“ทะเลาะไรกันวะ”
“วันนี้น้องมินมันมาสารภาพรัก แถมจะชวนกูไปคอนโดแต่กูปฏิเสธและพาน้องมันไปที่คอนโดแทน กูก็ไม่รู้ว่าทำไมไอ้พายถึงรีบกลับเลยเจอกันพอดี” เล่าทำไมแต่ที่เล่าไปเหมือนว่าผมอยากระบายให้ใครสักคนฟัง อย่างน้อยไอ้เต็มมันก็กำลังนั่งรับฟังผมอยู่
“มึงแคร์มัน”
“ไม่รู้
“ไอ้ซื่อบื้อ แบบนี้นะเค้าเรียกว่าแคร์ไม่งั้นมึงคงไม่นั่งคิดมากแบบนี้หรอกนะ แถมยังกลัวว่าจะทะเลาะกับมันอีก” ผมนั่งมองหน้าไอ้เต็มสายตาปริบๆ ไม่เข้าใจที่มันพูดสักเท่าไหร่เพราะความรักสำหรับผมมันคืออะไรกันแน่นะ
“ที่แคร์เพราะมันเป็นเพื่อนกู”
“ไอ้ควาย!!!!
“เชี่ย! ด่ามาซะเต็มหน้ากูเลยนะ” ผมผลักหน้ามันไปไกลๆ ก่อนจะขยับหนีกระดกเบียร์ที่ถืออยู่ในมือจนหมด
“ถ้าไม่แคร์ มึงก็รักมันแล้วแหละ

พรวดดดด
เบียร์ที่คิดว่าจะกลืนลงคอกลับพ่นเข้าเต็มหน้าไอ้เต็มใจเลยทีเดียว มันแทบจะอยากกระโดดเข้ามาฆ่าผมเลยทีเดียว
“ไอ้เหี้ยเอียน”
“สมน้ำหน้า!!!!! ปากดีนักนะมึงไอ้พายเป็นเพื่อนกูนะ อีกอย่างเพื่อนที่ไหนเค้าจะรักกันวะ” ผมเถียงมันเสียงแข็งเลยทีเดียวครับ
เพื่อนก็คือเพื่อนใช่ไหม?
“ไอ้ควาย! เพื่อนเค้าก็รักกันได้ เว้นซะแต่ว่ามึงจะโง่ไม่รู้ใจตัวเองสักที” แต่คราวนี้น้ำเสียงของไอ้เต็มกลับหนักแน่นกว่าคำพูดของผมเมื่อกี้ซะอีก
“ใจกูทำไมกูจะไม่รู้วะ”
“งั้นใจมึงช่วยบอกกูหน่อยสิว่าทำไมต้องแคร์ไอ้พาย!” จ้องหน้าขนาดนี้แล้วกูจะตอบว่าไง อีกอย่างใจตัวเองกูยังไม่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่
-_-!
“ไม่รู้!!!!!
“ไอ้เหี้ย! เมื่อไหร่มึงจะฉลาดสักทีวะเนี่ย” มันด่าผมซะเต็มหน้าอีกแล้วครับ ก็ผมพูดถูกนี่หรือว่าผมพูดผิด -_-‘
“กูไม่ได้โง่ แต่กูคิดว่าการที่แคร์มันไม่ได้หมายความว่ากูต้องรักมันนี่!!!” ตอบเสียงแข็งแต่ทำไมใจมันถึงเต้นแรงขนาดนี้วะ
“งั้นตอบกูหน่อยว่าเพื่อนที่ไหนเค้ากินกันเองบ้าง?” ไอ้นี่ต้องการคำตอบแบบไหนจากผมกันแน่นะเนี่ย ถามอยู่ได้พอตอบก็ด่าอีก
“กูกับไอ้พาย”
“ไอ้เหี้ย! เลวอย่างเดียวไม่พอแถมยังควายอีกต่างหาก
“เออ! ด่าอยู่นั่นแหละ”
“ด่าแล้วมึงสำนึกไหม? กูละสงสารไอ้พายจริงๆ เลยแมร่งไม่น่าไปหลงระ” พอผมจ้องหน้ามันเข้าหน่อยไอ้เต็มกลับเงียบและทำสีหน้าเหมือนผมไปฆ่าญาติฝ่ายไหนของมันนั่นแหละ “โธ่โว้ย! ไอ้เหี้ยเอียน”
เหมือนมันจะโกรธแต่ก็ไม่รู้ว่าโกรธอะไร
และพอด่าจบมันก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทันที ก็เหลือแต่ผมที่ยังนั่งจมอยู่กับตัวเองแล้วคิดว่าเรื่องที่ไอ้เต็มพูดมันคืออะไร?
หัวใจผมอยู่ที่ไหนกันแน่!!!!



______________________________________

'เมื่อเอียนรัก เอียนเลว และเอียนก็หึงมากด้วย'
'พ่อง...'
'ถ้าพายอยากแรด ก็แรดต่อหน้าเอียน ถ้าเห็นว่าทำต่อหน้าคนอื่นมึงตายครับ'
'พ่อง...'
'อันนี้ถือว่าเขินที่ด่า แต่รักใช่ไหม?'


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น