PLEASE!
8
ความเจ็บไม่มีเสียง
เกือบทั้งอาทิตย์กว่าผมจะหายป่วย…
ไม่ได้ไปเรียน
ทัศนะศึกษาก็ไม่ได้ไปแถมยังมีงานสองชิ้นที่ต้องส่งอะไรมันจะเหนื่อยขนาดนี้เพราะไอ้เอียนคนเดียวเลยละครับ!!!
L
วันพุธกับการเรียนที่แสนทรมานข้างๆ
กายผมก็มีไอ้พอเพียงนั่งอยู่…
“สภาพมึงยังแย่อยู่เลย
ป่วยหรือใกล้ตายวะ”
ปากดีชะมัดขนาดไม่ได้ไปทัศนะศึกษาด้วยกันแต่มันดันโทรมาหาผมเกือบทุกชั่วโมงที่ว่างเลยก็ว่าได้ครับ
“ใกล้ตาย”
“เออ!
สมควรก็ดูดิรู้ว่าป่วยแต่ไม่ยอมใส่เสื้อหนาวมา”
“ก็กูรีบและลืมด้วย
แถมไอ้เอียนเองก็เร่งทุกวินาทีถ้ารู้งี้ให้มึงไปรับแต่แรกก็จบ”
ผมนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะดีนะที่นั่งมุมห้องไม่งั้นอาจารย์คงบ่นให้ได้ยินอีกแน่นอน
“กลับคอนโดไหมเดี๋ยวกูไปส่ง”
“อือ!
เรียนตัวนี้เสร็จก็กะจะกลับ”
วันนี้ผมมีเรียนสองตัว
และขอบอกว่าช่วงบ่ายสังขารผมคงไม่ไหวถ้าไม่รีบผักผ่อนมีหวังหายไม่ทันศุกร์นี้ที่ผมกับไอ้เอียนจะกลับบ้านแน่นอนแถมมันยังบอกอีกว่าจะช่วยผมทำงาน
เพราะฉะนั้นผมก็ต้องรีบหายและกลับบ้านไม่งั้นต้องทำคนเดียวแน่นอน
!!!
“ให้กูขึ้นไปส่งไหม?”
“ไม่ละ?”
หลังจากที่เรียนเสร็จไอ้พอเพียงก็ขับรถมาส่งผมที่หน้าคอนโด
แต่เพราะสภาพผมที่ดูไม่ดีสักเท่าไหร่ละมั้งมันถึงอยากอาสาขึ้นไปส่งบนห้อง…
“เออดูแลตัวเองด้วยละ”
ผมพยักหน้าตอบรับมันก่อนจะเดินไปหน้าลิฟต์รอขึ้นห้อง
สักพักลิฟต์ก็มาผมกดขึ้นไปชั้นที่ต้องการหยุดยืนอยู่หน้าประตูก็แปลกใจเล็กน้อยเหมือนว่าประตุห้องจะไม่ได้ล็อคท่าทางไอ้เอียนจะกลับมาแล้ว
ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเปิดประตูเข้าไปแต่ที่ไหนได้มันกลับไม่อยู่ข้างใน
“อยู่ในห้องละมั้ง”
กะว่าจะเรียกตอนเจอกันเลยเดินไปหามันที่ห้อง
จากรอยยิ้มที่เคยมีกลับจางหายลงไปทันที…
ไอ้เอียนกับเด็กคนนั้น!!!!!!!
คนที่ผมเจอตรงลานจอดรถตอนที่ผมพยายามจะหลบหน้ามัน
ไหนบอกว่าน้องเค้าแค่ติดรถไปด้วยแต่ทำไมตอนนี้ถึงพามาที่ห้องและอยู่บนเตียงที่ผมกับมันนอด้วยกันได้ละ…
ที่น่าเจ็บปวดไปมากกว่านั้นคือรอยยิ้มที่อ่อนโยนกับคำพูดที่ผมไม่เคยได้รับสักเท่าไหร่?
อยู่กับผมมันแสดงละครหรือออกมาจากใจจริงๆ
กันแน่!!!
ตุบ…
มือข้างหนึ่งบัดหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าห้องจนตกลงบนพื้นทั้งสองคนในห้องที่มีทีท่าว่ากำลังจะจูบกันก็ตกใจก่อนจะหันมามอง
แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคงเป็นไอ้เอียนเพราะมันคงไม่คิดว่าผมจะกลับมาสินะ…
ผมคงต้องคิดทบทวนใหม่!
เวลาที่ผมมีเรียนเลิกเย็นแต่มันเลิกเรียนก่อน เตียงนี้ยังมีแค่ผมหรือเปล่าที่ได้นอนกับมัน
“พาย!”
มันเรียกชื่อผมน้ำเสียงเบาก่อนจะวิ่งเข้ามาหาแต่ผมกลับปิดประตูห้องนั่นแล้วเดินออกมา
ผมไม่อยากเจอหน้ามันด้วยซ้ำน้ำตาอยากจะไหล!
แต่ถ้าให้เดินออกไปจากห้องนี้ผมก็คงต้องร้องไห้ให้คนอื่นเห็น…
หมับ!
“เป็นเหี้ยอะไรเนี่ยจู่ๆ
ก็จะเดินหนี…”
ผมหยุดเดินตามแรงดึงของมันก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปมอง
แต่แววตาที่ผมมองกลับดูว่างเปล่าและรังเกียจการกระทำของมันซะเหลือเกิน
“………………..”
“กูถามว่าเป็นเหี้ยอะไร?”
“ปล่อย!” ผมไม่ตอบแต่เน้นย้ำคำพูดของตัวเองให้หนักแน่นขึ้น
“ตอบ!”
“มันเรื่องของกู
ปล่อยสิวะ!”
ผมเองก็ไม่อยากตะโกนหรอกนะเพราะว่าอาการป่วยมันยังไม่หายดี
และยิ่งตะโกนมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเจ็บคอ
“……………..”
“พี่เอียนถ้างั้นมินกลับก่อนนะครับ
จุ๊บ -///////////////-“
ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บ
ยิ่งอยากร้องไห้แต่ต้องเก็บมันเอาไว้… ไอ้เหี้ยเอียนมันกำลังทำให้หัวใจของผมแย่ลง
เสียงประตูห้องถูกปิดลงแต่เสียงของน้ำตาผมที่กำลังไหลอยู่ข้างในไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลยละครับ
“ปล่อยกู!”
“มึงเป็นอะไรวะพาย”
“กูจะเป็นเหี้ยไรมึงจะมาสนใจทำไม
ในเมื่อมึงทำอะไรก็ไม่เคยแคร์กูอยู่แล้วนี่…”
ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันคำพูดนี้ของผมคงกำลังน้อยใจเสียใจหรือผิดหวังกับการกระทำของมันสินะ
แต่ถ้าสำหรับคำว่าเพื่อนที่แอบรักเพื่อนอย่างผม…
ทุกอย่างมันคงรวมกันหมดจนกลายเป็นความเจ็บที่ไม่มีเสียง!!!!!
“มีงเป็นบ้าอะไรเนี่ย
เราเป็นเพื่อนกันนะ…”
ผมจ้องมันตาเขม็งรู้สึกโกรธกับคำพูดนี้มากๆ เลยทีเดียว เพื่อนงั้นเหรอ?
สำหรับมันผมคงเป็นได้แค่นี้จริงๆ
“อืม!
กูเพื่อน… แล้วบอกหน่อยสิว่าเด็กคนนั้นเป็นอะไร?”
ผมหยุดอาละวาดและถามมันด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
ไอ้เอียนเองก็คงปรับอารมณ์ผมไม่ทัน… มันยอมปล่อยมือที่จับแขนผมเอาไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมาเหมือนว่าเหนื่อยที่เมื่อกี้เราทะเลาะกัน
“น้องเค้ามาสารภาพรัก
แต่กูยังไม่ได้ตอบตกลง… ไม่รู้สิกูแค่คิดว่าน้องเค้าไม่ใช่!”
หึ!
ผมจะเชื่อมันได้หรือเปล่าละ
คนอย่างไอ้เอียนนะเหรอจะพูดความจริงจนหมด…
“………………………..”
“อย่ามองกูด้วยสายตาเกลียดชังแบบนั้นได้ไหมพาย
มันรู้สึกไม่ดีเลยวะ”
ไอ้เอียนยื่นมือมารั้งใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนจะเกลี่ยไปมาแต่ผมกลับเลือกที่จะถอยหลังหนี
เพราะในสมองกำลังสับสนกับผู้ชายตรงหน้าคนนี้มากๆ
“เราเป็นเพื่อนกันนี่
อย่าสนใจเลย”
“เพราะมึงเป็นเพื่อน
กูถึงสน…
ใครว่ากูไม่แคร์ กูนะโคตรจะแคร์มึงเลยรู้ไหม? ตอนแรกน้องมันชวนกูไปที่ห้องแต่กูกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดเลยพามาที่นี่
ไม่คิดว่ามึงจะกลับมาเร็ว… กูกะคุยกับน้องเค้าเสร็จก็จะลงไปส่งแล้วไปรับมึงที่มอ
อาการป่วยมึงยังไม่หายไม่ใช่เหรอ?”
มันพูดมาซะยาวแล้วผมจะเชื่อสิ่งไหนดี
เพราะภาพที่เห็นเมื่อกี้คือพวกมันสองคนกำลังจะจูบกัน
“อธิบายเพื่ออะไร?
กูก็แค่เพื่อนไม่ใช่คนรัก…”
พูดเองเจ็บเองไม่มีใครมันโง่เท่าผมแล้วละครับ
ทั้งๆ ที่ผมอยากให้มันเป็นคนรักแท้ๆ
แต่ก็ไม่เคยก้าวข้ามขีดจำกัดของคำว่าเพื่อนไปได้เลยสักครั้งเดียว
“ไม่รู้!
แค่เห็นแววตารังเกียจจากมึงกูก็อยากอธิบายทุกอย่างแล้ว” มันว่าท่าทางก็ดูจะสับสนกระวนกระวายใจซึ่งผมเองก็ไม่เคยเห็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างไอ้เอียนเป็นแบบนี้มาก่อนเลยละครับ
“อย่าทำเหมือนมึงจะสารภาพรักกูหน่อยเลย
เพราะกูไม่สนุก…”
“เมื่อก่อนกูกล้าที่จะพูดว่ารักและคิดถึงมึงได้เต็มปาก
แต่ทำไมตอนนี้กูถึงพูดไม่ออกวะ” เหมือนมันกำลังอธิบายความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกให้ผมฟังเลยก็ว่าได้ครับ
แต่ขอเถอะอย่าพูดอะไรไปมากกว่านี้เลยหากทุกอย่างที่มันกำลังจะแสดงออกมาคือความรู้สึกจากคำว่าเพื่อน
“เคยชินที่มีกู…
ลองไม่มีกูดูบ้างไหมเอียน?”
“อย่าถามแบบนี้ได้ไหม!”
ไอ้เอียนเดินเข้ามาหาผมที่พยายามจะรักษาระยะห่างของเราเอาไว้ก่อนที่มันจะรั้งตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้จนแน่นเหมือนไม่อยากปล่อยไปไหนเลยด้วยซ้ำ…
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันคิดอะไรอยู่ ใจจริงๆ แล้วมันต้องการอะไรกันแน่?
“เลิกกอดกูสักที!”
“รังเกียจกอดของกูงั้นเหรอ…”
“กูไม่อยากกอดมึงทับรอยคนอื่น
ถ้าอยากกอดแค่กู จูบแค่กู มีอะไรแค่กับกู… มึงก็เลิกยุ่งกับคนอื่นซะ
แต่ถ้าทำไม่ได้กูก็พร้อมจะทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนที่มึงทำ!!!”
เหมือนคำพูดพวกนี้ออกมาจากปากคนรักที่สั่งห้ามมากกว่าปากของเพื่อนอย่างผมและเชื่อเถอะว่าไอ้เอียนไม่มีวันทำตามและจะแหกปากถามแน่นอนว่าทำไม
“ตกลง!!!”
[O_O]…
คำตอบของมันทำเอาผมนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปตั้งหลายคำ…
ผมหยุดยืนอยู่อย่างนี้และปล่อยให้ไอ้เอียนกอดอยู่โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำมันเองหลังจากที่ตอบคำถามผมก็เงียบเหมือนกัน
มีแค่เสียงลมหายใจของพวกเราสองคนเท่านั้น!
ผมเด็ดขาดกับมันได้ด้วยเหรอ?
ในเมื่อเราเป็นแค่เพื่อนกัน…
“อย่าฝืนเลยเอียน
กูก็แค่พูดเล่น…”
แต่อย่างน้อยคำตอบของมันกลับทำให้ผมรู้สึกเจ็บ…
เหมือนมันคิดกับผมที่เรื่องอย่างว่าและเวลาอยากทำอะไรมากกว่า
มันไม่ได้รักผมอย่างที่ผมรักมันเลยสักนิดเดียว! ก็แค่เพื่อนเท่านั้นเอง
“กูไม่ได้ฝืน!” มันกอดผมแน่นกว่าเดิมแถมคำตอบเมื่อกี้ก็เสียงดังฟังชัดซะเหลือเกิน
“………………..”
“ขอแค่มึงไม่ยอมให้ใครแตะต้องนอกจากกูคนเดียว
กูยอม…”
“เราไม่ใช่แฟนกันนะ
อย่าทำเหมือนใช่เลย? ทำแบบที่เราเคยทำกันนั่นแหละดีแล้ว” ผมผลักมันออกไปห่างๆ
ตัวก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้อง ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยและอยากนอนพักมากๆ เลยด้วย
‘มันเจ็บนะเอียนที่มึงทำแบบนี้ทั้งๆ ที่เราไม่ใช่แฟนกัน…’
เอียน
ผมเป็นอะไร
ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย…
ทำไมสิ่งที่เจอวันนี้ถึงทำให้ผมกล้าที่จะยอมรับว่าไอ้พายคือคนเดียวที่ผมเลือกจะแคร์มันที่สุดแม้ว่าเราสองคนจะเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นก็ตาม!!!
แถมวันนี้ไอ้พายยังทำตัวแปลกๆ
พูดจาอะไรที่ฟังแล้วไม่บันเทิงหูเอาซะเลย… ทำตัวห่างเหินมองผมด้วยแววตาที่รังเกียจและโคตรจะเย็นชาจนผมรู้สึกแย่
แต่เหตุการณ์เมื่อกี้ผมก็มีส่วนผิดที่พาน้องเค้ามาที่นี่และไม่บอกมันก่อนคิดแค่ว่าคุยเสร็จไปรับมันแล้วค่อยบอก
แต่ไม่คิดว่ามันจะกลับมาคอนโดซะก่อน… เจอเข้าให้ตอนที่ผมกำลังปัดฝุ่นที่ผมให้น้องเค้าแน่นอนถ้ามองในมุมที่มันยืนอยู่ก็เหมือนกำลังจะจูบกัน
=_=!!!
ให้ตายสิถ้าจะแคร์มันขนาดนี้… แย่ชะมัด!!!
ให้ตายสิถ้าจะแคร์มันขนาดนี้… แย่ชะมัด!!!
“กินยาก่อนน่ะ
จะได้นอนพัก”
ตั้งแต่ที่ผมกอดมันเมื่อกี้ก็รู้สึกได้ทันทีว่าไอ้พายตัวเริ่มร้อนแถมไข้ก็มีแววว่าจะกลับมาอีกแล้ว
พอกำลังจะหายมันก็ดื้อที่จะอาบน้ำทั้งๆ ที่สมควรเช็ดตัวมากกว่า
ตื่นขึ้นมาเป็นยังไงละไข้กลับมาเยือนทันทีเลยละครับ
“อือ…” แค่เสียงครางเดียวก็โคตรเย็นชาเลยละครับ คนที่มั่นใจในตัวเองสูงอย่างผมทำไมถึงรู้สึกเสียฟอร์มได้ขนาดนี้นะ
“เย็นนี้กูมีนัดกับไอ้เต็มไปดูต้นไม้นะ”
“อือ…” เชี่ยทำไมตอบแค่ว่าอือแบบนี้มันไม่มั่นใจเลยนะ
“งั้นลุกมากินยาสิจะได้นอนพัก”
“………………………” ไอ้พายไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ลุกขึ้นมากินยาที่ผมยื่นไปให้มันพร้อมแก้วน้ำหลังจากที่กินเสร็จมันก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้งโดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำไป
จุ๊บ
-/////////////////-
ผมก้มลงไปจูบหน้าผากของมันแทน
ไม่ได้ขัดขืนแต่กลับหลับตาและไม่คิดจะมองหน้ากันอีก ไอ้พายเย็นชาชะมัด…
“งั้นกูโทรไปเลื่อนนัดมันเป็นตอนนี้เลยละกัน
จะได้รีบกลับมาดูแลมึง”
“อือ…”
รู้สึกไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่
แต่เพราะมันโกรธผมอยู่สินะถึงได้ทำแบบนี้… ให้ตายสิกูยอมมึงก็ได้!!!!
หลังจากที่ผมเดินออกจากคอนโดด้วยอารมณ์ที่อยากจะฆ่าไอ้พายมากๆ
ตอนนี้ก็ต้องมานั่งรอไอ้เต็มอยู่ที่ร้านขายต้นไม้ไม่ไกลจากคอนโดผมนัก…
ช้าและหงุดหงิดมากๆ เลยด้วย พูดไม่ทันขาดคำแมร่งเดินหล่อมาแต่ไกล
“รอนานไหม?”
“ดูหน้ากู
แล้วลองถามใหม่สิ”
“เออๆ
โทษทีพอดีกูพาน้องพอเพียงไปกินข้าวมา”
“ไอ้สัด!!!!”
ผมด่ามันก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเพื่อเลือกซื้อต้นไม้…
อาจารย์บอกให้ซื้อแล้วเอาไปเลี้ยงดูในระยะแรกๆ จนกว่าจะถึงวันสอบแล้วนำไปส่ง
ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะดูแลให้ยุ่งยากทำไมก็แค่ซื้อไปส่งก็จบ
เหมือนอาจารย์ท่านจะรู้เลยพูดดักคอเอาไว้ซะก่อนและต้องทำร้ายงานเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของต้นไม่ชนิดนั้นทุกๆ
หนึ่งอาทิตย์
อยากจะบ้าตาย!!!!
“เฮ้ย!
กูได้แล้วนะ… ต้นรักแรกพบ นึกถึงพอเพียงวะ”
ผมเงยหน้าไปมองมันที่ยืนถือต้นไม้กระถางเล็กด้วยสายตาที่หวานฉ่ำโคตรน่าเตะให้คอหัก
“เออ!”
“แล้วมึงละ?”
“ยัง…
กูเลือกไม่ถูก”
“เออ!
รีบๆเลือกเข้าละ เดี๋ยวกูไปเดินดูต้นกล้วยไม้รอ”
พูดจบมันก็เดินหายออกไปจากที่ตรงนี้ก็เหลือแต่ผมว่าจะเลือกต้นอะไรดี
เพราะในสมองมันไม่มีคิดเอาไว้เลยละครับ
ผมใช้เวลาอยู่นานพอสมควรกว่าจะเลือกต้นไม้ที่ต้องการได้…
ที่จริงผมจำยอมเลือกมากกว่าเพราะไอ้เต็มใจมันขู่หากผมช้ากว่านี้มันก็จะกลับ
ก็แน่ละสิผมดันเลือกต้นไม่เป็นชาติเกือบสองชั่วโมงแนะ
ที่จริงไม่ได้เลือกแต่ในหัวมันคิดเรื่องไอ้พายมากกว่า
=_=!!!
“ได้ต้นอะไรวะ?”
“ต้นกล็อกซิเนีย”
ไอ้เต็มทำหน้างงนิดหน่อยก่อนจะยักไหล่ให้ผม
จ่ายเงินเสร็จผมก็ขับรถไปส่งมันที่คอนโดพร้อมทั้งแทรกร่างกายของตัวเองให้สถิตอยู่ที่คอนโดมันด้วย
ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ไอ้พายทำตัวห่างเหินแบบนั้น ถ้าให้กลับไปตอนนี้มีหวังต้องหงุดหงิดและชวนมันทะเลาะแน่นอน
“จะดื่มไหม?”
“อืม!
ก็ดี…”
ไอ้เต็มโยนเบียร์มาให้ผมกระป๋องหนึ่งก่อนที่มันจะเดินมานั่งข้างๆ เปิดทีวีให้ผมดู
“ทำไมไม่กลับคอนโดมึงไปวะ”
เสียงของไอ้เต็มดังขึ้นมา ก่อนที่สายตาของมันจะมองผมแบบสมเพชยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“กูไม่อยากทะเลาะกับไอ้พาย”
“หือ!
ที่หน้ามึงหงิกก็เพราะทะเลาะกับไอ้พายมาก่อนงั้นเหรอ?”
ไอ้เต็มขยับเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดินสีหน้าของมันเหมือนคนอยากรู้มากๆ เลยด้วย
“เออ!”
“ทะเลาะไรกันวะ”
“วันนี้น้องมินมันมาสารภาพรัก
แถมจะชวนกูไปคอนโดแต่กูปฏิเสธและพาน้องมันไปที่คอนโดแทน
กูก็ไม่รู้ว่าทำไมไอ้พายถึงรีบกลับเลยเจอกันพอดี…” เล่าทำไมแต่ที่เล่าไปเหมือนว่าผมอยากระบายให้ใครสักคนฟัง
อย่างน้อยไอ้เต็มมันก็กำลังนั่งรับฟังผมอยู่
“มึงแคร์มัน”
“ไม่รู้…”
“ไอ้ซื่อบื้อ
แบบนี้นะเค้าเรียกว่าแคร์… ไม่งั้นมึงคงไม่นั่งคิดมากแบบนี้หรอกนะ
แถมยังกลัวว่าจะทะเลาะกับมันอีก” ผมนั่งมองหน้าไอ้เต็มสายตาปริบๆ
ไม่เข้าใจที่มันพูดสักเท่าไหร่เพราะความรักสำหรับผมมันคืออะไรกันแน่นะ
“ที่แคร์เพราะมันเป็นเพื่อนกู”
“ไอ้ควาย!!!!”
“เชี่ย!
ด่ามาซะเต็มหน้ากูเลยนะ” ผมผลักหน้ามันไปไกลๆ
ก่อนจะขยับหนีกระดกเบียร์ที่ถืออยู่ในมือจนหมด
“ถ้าไม่แคร์
มึงก็รักมันแล้วแหละ…”
พรวดดดด…
เบียร์ที่คิดว่าจะกลืนลงคอกลับพ่นเข้าเต็มหน้าไอ้เต็มใจเลยทีเดียว
มันแทบจะอยากกระโดดเข้ามาฆ่าผมเลยทีเดียว
“ไอ้เหี้ยเอียน”
“สมน้ำหน้า!!!!!
ปากดีนักนะมึง… ไอ้พายเป็นเพื่อนกูนะ
อีกอย่างเพื่อนที่ไหนเค้าจะรักกันวะ” ผมเถียงมันเสียงแข็งเลยทีเดียวครับ
เพื่อนก็คือเพื่อนใช่ไหม?
“ไอ้ควาย!
เพื่อนเค้าก็รักกันได้ เว้นซะแต่ว่ามึงจะโง่ไม่รู้ใจตัวเองสักที”
แต่คราวนี้น้ำเสียงของไอ้เต็มกลับหนักแน่นกว่าคำพูดของผมเมื่อกี้ซะอีก
“ใจกูทำไมกูจะไม่รู้วะ”
“งั้นใจมึงช่วยบอกกูหน่อยสิว่าทำไมต้องแคร์ไอ้พาย!” จ้องหน้าขนาดนี้แล้วกูจะตอบว่าไง
อีกอย่างใจตัวเองกูยังไม่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่
-_-!
“ไม่รู้!!!!!”
“ไอ้เหี้ย!
เมื่อไหร่มึงจะฉลาดสักทีวะเนี่ย…” มันด่าผมซะเต็มหน้าอีกแล้วครับ
ก็ผมพูดถูกนี่หรือว่าผมพูดผิด -_-‘
“กูไม่ได้โง่
แต่กูคิดว่าการที่แคร์มันไม่ได้หมายความว่ากูต้องรักมันนี่!!!” ตอบเสียงแข็งแต่ทำไมใจมันถึงเต้นแรงขนาดนี้วะ
“งั้นตอบกูหน่อยว่าเพื่อนที่ไหนเค้ากินกันเองบ้าง?”
ไอ้นี่ต้องการคำตอบแบบไหนจากผมกันแน่นะเนี่ย ถามอยู่ได้พอตอบก็ด่าอีก
“กูกับไอ้พาย”
“ไอ้เหี้ย! เลวอย่างเดียวไม่พอแถมยังควายอีกต่างหาก…”
“เออ!
ด่าอยู่นั่นแหละ”
“ด่าแล้วมึงสำนึกไหม?
กูละสงสารไอ้พายจริงๆ เลย… แมร่งไม่น่าไปหลงระ…”
พอผมจ้องหน้ามันเข้าหน่อยไอ้เต็มกลับเงียบและทำสีหน้าเหมือนผมไปฆ่าญาติฝ่ายไหนของมันนั่นแหละ
“โธ่โว้ย! ไอ้เหี้ยเอียน”
เหมือนมันจะโกรธแต่ก็ไม่รู้ว่าโกรธอะไร…
และพอด่าจบมันก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทันที
ก็เหลือแต่ผมที่ยังนั่งจมอยู่กับตัวเองแล้วคิดว่าเรื่องที่ไอ้เต็มพูดมันคืออะไร?
หัวใจผม…
อยู่ที่ไหนกันแน่!!!!
______________________________________
'เมื่อเอียนรัก เอียนเลว และเอียนก็หึงมากด้วย'
'พ่อง...'
'ถ้าพายอยากแรด ก็แรดต่อหน้าเอียน
ถ้าเห็นว่าทำต่อหน้าคนอื่นมึงตายครับ'
'พ่อง...'
'อันนี้ถือว่าเขินที่ด่า แต่รักใช่ไหม?'
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น