วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #17 ทำไมต้องยอมเมีย!!!




PLEASE! 17
ทำไมต้องยอมเมีย!!!




                เอียน
            การที่ผมทะเลาะกับไอ้พายโคตรเจ็บเลยละครับ!!!!
            ผมไม่มั่นใจในตัวมัน พอๆ กับที่มันไม่หนักแน่นให้กับความรักของเราไอ้พายเหมือนกำลังกลัวและไม่กล้ายอมรับความจริงจนผมรู้สึกไม่ชอบใจเลยละครับ
ผมบอกกับมันว่าเราสองคนควรจะห่างกันสักพักทั้งๆ ที่ในใจตอนนั้นแค่อยากจะประชดมันไปเท่านั้นเอง
“หึ ! ทำไมถึงเศร้าแบบนี้ว่ะ”
“กูก็เศร้าไม่ต่างไปจากมึงหรอก”
ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าไอ้เต็มมันโผล่มาได้ยังไงแต่เพราะมันกับผมก็หัวอกเดียวกันแถมของมันหนักกว่านิดหน่อยตรงที่ไปบอกเลิกพอเพียงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คบกันแต่ผมนี่สิบอกห่างกันทั้งๆ ที่ยังรักกัน
เจ็บโคตรๆ
“ต้องทำยังไงกูถึงจะมั่นใจว่าไอ้พายมันรักกูแค่คนเดียว”
“แล้วกูล่ะต้องทำยังไงพอเพียงถึงบอกว่ารักกู”
“อย่างน้อยกูก็มีส่วนผิดที่ไม่มั่นใจในตัวมัน แต่ไอ้พายก็ไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่กลัวอยู่นั่นแหละโง่หรือเปล่าทั้งๆ ที่กูบอกพ่อกับแม่ไปเรียบร้อยแล้วแท้ๆ รอก็แต่บอกให้มันรับรู้” ไม่รู้ว่าจะระบายกับใครก็มีแต่ไอ้เต็มคนเดียวนี่แหละครับเพราะผมกับมันกำลังอยู่ในโหมดเดียวกันที่พูดกันรู้เรื่องเลยก็ว่าได้
“เฮ้อ!!! กูจะเริ่มง้อมันก่อนดีมั้ยว่ะ?”
“บางทีเมียก็ต้องเป็นคนง้อบ้าง” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินเข้าครัวไปหยิบเบียร์ออกมาจากตู้เย็นโยนไปให้ไอ้เต็มหนึ่งกระป๋องเชื่อเถอะว่าพรุ่งนี้ผมก็หายเป็นปกติเพราะได้ล้างพิษ จะว่าไปอาการป่วยของตัวเองก็เริ่มหายบ้างแล้วที่หนักกว่าคงเป็นใจที่ไม่หายสักที
“ไม่เข้าใจว่ะ?”
“ไม่ใช่ว่าไม่รัก ไม่สนใจแต่เมียก็ต้องเป็นฝ่ายง้อบ้างไม่งั้นจะได้ใจ” ผมบอกไอ้เต็มกระดกเบียร์จนหมดกระป๋องแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาน้องมินก็อย่างน้อยผมต้องหาเหยื่อมาช่วยแก้ไขสถานการณ์ก็แค่อยากรู้ว่าจะหึงมากแค่ไหน
ก็รู้ว่าผิดที่ไม่ควรเอาน้องมาเป็นข้ออ้าง!!!!!
“ผมนึกว่าพี่เอียนจะลืมไปซะแล้ว”
“ไม่ลืมหรอกครับเพราะน้องมินยังติดค้างพี่อยู่” ผมว่ายิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าไอ้เต็มที่มองผมด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้าพี่เอียนลืมเรื่องนี้ไปจะดีมากครับ”
“พรุ่งนี้พี่จะไปรับแล้วไปมหาลัยด้วยกันน่ะครับ”
“เอ๋! แล้วพี่พาย
“อย่าไปพูดถึงมันเลยครับ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน” ผมกดวางสายก่อนจะเดินไปหาไอ้เต็มที่นั่งมองอยู่ตรงโซฟา
“มึงคิดจะเล่นอะไร?”
“ทำให้เมียหึงเล่น”
“เดี๋ยวก็ได้เลิกกันจริงหรอก” เหมือนจะแช่งทั้งๆ ที่ของตัวเองก็กำลังมีปัญหาอยู่แท้ๆ ผมยักคิ้วไม่สนใจหยิบเบียร์ที่มันถือมาแล้วกระดกจนหมดกระป๋องไอ้เต็มโวยวายใหญ่ครับ
“กูก็แค่อยากรู้ว่ามันมั่นใจในตัวกูมากแค่ไหน?”
“พิสูจน์อะไรควายๆ”
“ก่อนจะด่ากูหาทางให้ไอ้พอเพียงบอกรักก่อนเหอะมึง” ผมลุกขึ้นยืนยิ้มเยาะมัน “กูไปอาบน้ำนอนล่ะ ส่วนมึงจะนอนนี่ก็ได้น่ะห้องยังว่าง”

เช้า…     
ให้ตายสิครับผมนอนไม่หลับเพราะอะไรคงไม่ต้องพูดถึงคงเพราะไม่มีไอ้พายให้นอนกอดเหมือนทุกๆ คืน มันดูเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่างผมหว่าเหว่สุดๆ ไปเลยล่ะครับตื่นเช้ามาสภาพก็ไม่สดใสแต่ก็ต้องฝืนยิ้มทำหน้ามีความสุขขับรถมารับน้องมินไปมหาลัยด้วยกัน
วันนี้ไอ้พายมันเรียนเช้าและผมตั้งใจจะให้มันเห็นด้วย ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะแคร์ผมบ้างไหมหรือจะให้ผมคนเดียวที่แคร์มันอยู่ตลอดเวลาไอ้เก้ากลับมาเหมือนผมจะไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำไป
“พี่เอียนครับ”
“ครับ”
“มินเรียกนานแล้วน่ะครับแต่พี่เอียนกลับเหม่อลอยซะงั้น” เสียงของน้องมินเรียกสติทุกอย่างของผมให้กลับคืนมาจนหมด
“ขอโทษครับพี่แค่คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้นเอง”
“ครับ”
ความเงียบเกิดขึ้นผมเลยตั้งหน้าตั้งตาขับรถโดยเรียกสติกลับมาหลังจากที่มันเกือบจะจางหายไปจนหมด ผมใช้เวลาแค่ไม่นานก็มาถึงมหาลัยพารถเข้าไปจอดก่อนจะเดินลงจากรถและเปิดประตูให้กับน้องมินเหมือนว่าจะเป็นเป้าสายตาได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะถึงยังไงน้องมินก็เป็นคนน่ารักแถมใครๆ ก็พากันจับตามองทั้งนั้น
“คนมองเราสองคนจังเลยครับ”
“ไปเถอะครับ”
ผมจับมือน้องมินเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปส่งที่ตึกคณะที่จริงผมก็ตั้งใจจะให้ไอ้พายเห็นมากกว่าแต่ก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่ามันจะมาเห็นหรือเปล่า

ตุบ โอ๊ย!!!
คนข้างๆ ผมล้มลงไปนั่งกองกับพื้นทันทีเลยล่ะครับไม่ใช่แค่คนเดียวเหมือนว่าน้องมินจะเดินชนเข้ากับใคร
“น้องมินเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” ผมว่าก่อนจะพยุงตัวน้องให้ลุกขึ้นพร้อมๆ กับร่างเล็กกอีกคนที่ลุกตามจนเราสองคนได้สบตากัน
“พี่พาย
………………………….” ผมยืนอึ้งไปชั่วขณะไอ้พายเองก็เหมือนกันเพราะมันเอาแต่จ้องหน้าผมสลับมือที่ผมจับของมินอยู่ท่าทางเย็นชาชะมัดนี่ตั้งใจว่าจะทำให้หึงแท้ๆ
“ครับ”
“พี่พายเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” น้องมินเอ่ยถามแต่ไอ้พายก็ยังนิ่งเงียบ
“อย่าห่วงคนอื่นเลย เราน่ะเจ็บตรงไหนไหม?” ผมทำเป็นไม่สนใจไอ้พายแต่ในใจงี้ตีกันมั่วหมดแล้วครับเพราะนึกหวั่นว่ามันจะเจ็บตรงไหนบ้างก็ได้แต่ทำใจแข็งและไม่สนใจ
“มินไม่เป็นอะไรครับพี่เอียน แต่พี่พายสิล้มลงไปแรงกว่ามินอีก”
“มันคงไม่เป็นอะไรหรอก” ผมเงยหน้าไปสบตามันไอ้พายก็คงยังทำตัวเย็นชาเหมือนเดิมนิสัยนี้ที่นานๆ ผมจะได้เห็นและโคตรเกลียดเพราะมันเย็นชาจนเกินไป
“ครับ! แค่นี้พี่ไม่ตายหรอก” พูดจบไอ้พายมันก็เดินเลี่ยงออกไปทันทีขัดใจผมอีกแล้วมันไม่หึงแถมยังเย็นชาใส่
“พี่เอียนนั่นมือถือพี่พายหรือเปล่าครับ”
“ใช่ครับ งั้นน้องมินรอพี่ตรงนี้แป๊บน่ะ” ผมว่าก่อนจะก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ไอ้พายขึ้นมาวิ่งตามมันไปเห็นเดินไปที่ตึกหลังไวๆ ผมหยุดเดินก่อนจะหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นแต่พอหันหลังเท่านั้นแหละครับเห็นมันกำลังเดินขึ้นตึกไปพอดีผมจึงรีบวิ่งตามไป
หมับ!
ผมรีบวิ่งตามไปจนคว้าตัวไอ้พายเอาไว้ได้หลังจากนั้นก็ลากมันลงมาจากบันไดที่เดินขึ้นไปไม่กี่ขั้น
“ปล่อยกู” ไอ้พายว่าพยายามจะแกะมือของมันออกจากมือของผม
“อย่าส่งเสียงดังมึงอยากให้คนมองเหรอ?” ผมตะโกนจนมันหยุดพูดและยอมเดินตามมาเฉยๆ พอลับสายตาคนอื่นผมก็ปล่อยมือที่จับมันออกไป
“ตามกูมาทำไม? ตอนนี้มึงต้องอยู่กับคนของมึงสิ” มันพูดจาประชดผมไม่ต้องเดาหรอกครับว่าใครเพราะมีอยู่คนเดียวนั่นก็คือน้องมิน
“ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะกูน่ะรักใครรักจริง แต่ถ้าเกลียดแค่หน้ากูก็ไม่อยากจะมองแถมกูเองก็พร้อมจะบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่ากูรัก!!!!!!!” ผมพูดจาประชดไอ้พายไปทำเอามันยืนอึ้งกำหมัดแน่นสีหน้าโกรธจัดสุดๆ
“ไอ้เหี้ยถ้าแค่เรื่องไอ้เก้าทำให้มึงพูดจาประชดกูได้ขนาดนี้ แล้วทำไมมึงไม่ดูตัวเองบ้าง บอกห่างกูไม่กี่วันกลับมีคนใหม่ซะแล้วกูเลวมึงก็เลวเหมือนกันนั่นแหละ” ไอ้พายขึ้นเสียงใส่ผมโกรธจัดตั้งท่าจะเดินออกไปผมเลยต้องคว้าแขนมันเอาไว้ก่อนจะกระชากเข้ามาหาตัว
“ปล่อยไอ้เหี้ย”
“ทำไมรังเกียจผัวตัวเองเหรอ?”
“มึงไม่ใช่ผัวกูแล้ว ก็แค่ทางผ่านที่กูพร้อมจะอื้อ” ไม่ทันที่ไอ้พายจะพูดจบพอๆ กับที่ผมทนฟังสิ่งที่มันพูดไม่ได้ผมจึงกดจูบลงไปหาปากเล็กทันทีทุกคำพูดกลืนหายเข้าไปในลำคอจนหมด ผมกดเม้มริมฝีปากของมันอย่างแรงทั้งดูดทั้งกัดจนได้ยินเสียงอู้อี้และแรงดิ้นมหาศาลมันต่อต้านผมทุกอย่างจนผมต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาบีบปลายคางมันเอาไว้เผยริมฝีปากออกจนผมฉกฉวยความหอมหวานที่แสนจะเผ็ดดุของมันเอาไว้ปลายลิ้นร้อนของผมเกลียวรัดจนไอ้พายไม่มีแรงสู้และยอมลดละความพยศลงเล็กน้อยจนยอมผมในที่สุด
อื้อ! มันครางออกมาจนผมแค้นยิ้มรู้สึกพอใจสุดๆ ก่อนจะผละออกมาและทำให้ไอ้พายตั้งตัวไม่ทันล้มลงไปนั่งกองกับพื้นทันที
“หึ! สุดท้ายมึงมันก็ง่ายกับกูคนเดียวนั่นแหละ”
“ไปตายซะ!!!!!
“กูไปแน่และที่ตามมาเพราะมึงทำมือถือตกไว้ก็แค่จะเอามาคืน” ผมว่าก่อนจะล่วงมันออกจากกระเป๋ากางเกงแต่พอจะยื่นให้ไอ้พายเท่านั้นแหละครับมือถือมันกลับมีสายเข้ามา
ครืด ครืด
ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกำมันไว้จนแน่นรู้สึกโกรธมากขึ้นที่เห็นสายเข้ามา
“สงสัยกูคงหมดประโยชน์แล้วจริงๆ ขอโทษด้วยล่ะกันถ้าทำให้มึงเจ็บตัว” ผมว่าก้มลงไปหาไอ้พายยื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้าแต่ท่าทางของมันไม่ยอมรับไปสักทีผมจึงต้องยัดใส่มือมันไปแทน
“ถ้ามึงรักกูได้สักครึ่งที่รักมันกูคงมีความสุขกว่านี้” ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูของมันก่อนจะเดินออกมาเหมือนน้ำตาอยากจะไหลแต่ก็ไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น
รู้สึกแย่แต่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้!!!!!!

พาย
แค่รู้ว่ามันไม่สนใจ แค่เห็นมันควงคนอื่นผมก็เจ็บสุดๆ แล้วแต่นี่อะไรมันกลับทำเย็นชาแต่จะโทษมันก็ไม่ถูกเพราะผมเป็นคนเริ่มเย็นชาก่อนคนที่ไม่ยอมใครอย่างมันกลับยอมแพ้เรื่องความรัก แต่คนขี้ขลาดอย่างผมก็สมควรแล้วที่ต้องเจอแบบนี้
ครืด ครืด
ผมปล่อยให้โทรศัพท์ส่งเสียงร้องอยู่อย่างนั้นและไม่คิดที่จะรับแถมตัวเองก็ยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิมนานพอสมควรจูบเมื่อกี้ของมันก็ทำให้ผมปากแตกสภาพอารมณ์แบบนี้ไม่อยากไปเรียนเลยครับ
หลังจากที่ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อยู่นานผมก็เดินออกมาจากมุมอับนั้นตรงไปยังหน้าคณะนั่งรอไอ้พอเพียงอีกเดี๋ยวมันก็คงโผล่หัวออกมาจากห้องเรียนครับเพราะวันนี้พวกเราเรียนกันแค่วิชาเดียวและผมก็อยากไปเอาของที่คอนโดไอ้เอียนด้วยอย่างน้อยเราสองคนก็ควรอยู่ห่างๆ กันสักพักเผื่อผมจะคิดหาวิธีทำอะไรได้ดีกว่านี้
ผมรู้ว่ามันประชดแต่ผมก็จะไม่ทำอย่างที่มันทำเพราะการลากใครอีกคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องราวความรักของพวกเราก็เท่ากับว่าลากเค้าเข้ามาเจ็บด้วย แค่นี้มันก็เจ็บมากพออยู่แล้ว L
“เฮ้ย! พายมึงโอเคมั้ยเนี่ย? แล้วนั่นปากไปโดนอะไรมา” เสียงของไอ้พอเพียงดังขึ้นผมเงยหน้าไปสบตามันแทบอยากร้องไห้แต่ก็ส่ายหัวแทนคำตอบมันเลยไม่ถามอะไรมากก้มลงมาจับมือผมแล้วพาเดินไปที่รถ
ขึ้นมานั่งบนรถได้ไม่นานผมก็นั่งเงียบตลอดทางจนรถเข้ามาจอดหน้าคอนโดก่อนจะขึ้นไปผมก็แวะไปถามพนักงานตรงหน้าเคาน์เตอร์ว่ามันกลับมาหรือยังพอได้คำตอบที่แน่ชัดผมก็รีบขึ้นไปด้านบนทันทีไอ้พอไม่ได้ตามมาเพราะสภาพของมันก็แย่อยู่แล้วผมว่ารออยู่ที่รถนั่นแหละครับ

เพล้ง!!!!
ประตูถูกผมเปิดออกพร้อมกับเสียงดังเหมือนว่าอะไรตกแตกหัวใจผมเหมือนจะหยุดเต้นเลยล่ะครับก็ไหนพนักงานบอกว่าไอ้เอียนยังไม่กลับมายังไงล่ะแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้อยู่คนเดียว
“กูบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าคนนี้กูขอ!!!
“ไอ้เก้า! ผมครางเบาๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปเรื่อยๆ แอบดูสถานการณ์อยู่ที่มุมหนึ่งของห้องไอ้เอียนหัวแตกด้วยครับท่าทางจะทะเลาะกันหนัก
“หึ! มึงมาขอตอนนี้ไม่ช้าไปหน่อยเหรอ?”
“ไอ้เหี้ยเอียน!!! มึงไม่ได้รักมันแล้วมึงทำแบบนี้ทำไม” ไอ้เก้าง้างหมัดจะต่อยไอ้เอียนอีกครั้งแต่สายตาดุๆ กลับหันมามองทางผมเหมือนรู้ว่าผมก็อยู่ด้วยผมเลยต้องรีบหลบทันที
“รู้ได้ยังไงว่ากูไม่ได้รัก”
“ถ้ารักมึงจะไม่ทำแบบนี้” สองคนนี้มันทะเลาะกันเพราะผมหรือเปล่า
“ทำแบบที่มึงทำมาโดยตลอดคือปกป้องมันด้วยการทิ้งมันไปอย่างนั้นสิน่ะถึงจะเรียกว่ารัก” ท่าทางของไอ้เอียนไม่ยอมต่อสู้เลยล่ะครับเอาแต่ยอมให้ไอ้เก้าซัดหมัดใส่หน้าอย่างเดียวจนผมไม่อยากทนดูเลย
“ไม่ใช่เรื่องของมึง!!!
“นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของมึงเหมือนกัน”
“ถ้ามึงไม่ต้องการมันแล้วกูก็จะแย่งแล้วอย่าคิดมาทวงคืนที่หลังเพราะกูไม่มีวันยกมันให้มึงหรอกน่ะ”
ตุบ!!!
ไอ้เก้าผลักไอ้เอียนล้มลงไปนั่งกองกับพื้นแล้วรีบเดินออกไปจากห้องทันทีผมเองที่หลบอยู่ก็เอาแต่อึ้งตัวแข็งไม่กล้าเดินออกไปผมไม่อยากเผชิญหน้ากับมันตอนนี้
“ถ้ารู้สึกแย่ที่จะต้องเจอหน้ากัน กูออกไปข้างนอกก็ได้น่ะ” เสียงไอ้เอียนดังขึ้นมาไม่ใช่แค่เสียงพูดแต่ยังเป็นเสียงฝีเท้าของมันด้วยแล้วผมจะปล่อยให้มันไปทั้งแบบนี้งั้นเหรอไม่มีทางซะหรอกครับในเมื่อเจอกันแล้วเราก็ควรคุยกันให้รู้เรื่อง

หมับ!
ผมวิ่งเข้าไปกอดเอวมันเอาไว้ก่อนจะฟุบหน้าลงกับแผนหลังนี้ผมไม่อยากให้มันเดินหนีไปอีกแล้วมันเหนื่อยสุดๆ กับการต้องวิ่งตาม แต่ในเมื่อสิ่งที่ผมกำลังตามอยู่คือสิ่งที่ผมรักผมก็พร้อมจะตามได้เสมอ
“ทำแบบนี้เพื่ออะไร?”
“รักมึง!
“รู้แล้วว่ารักแต่ที่ต้องการคือแสดงออกมากกว่านี้หรือบอกให้ใครรู้” ไอ้เอียนว่าแต่สิ่งที่มันต้องการคือสิ่งที่ผมกำลังกลัว มันอาจเป็นเรื่องแปลกที่พวกเรารักกันแต่มันยิ่งดูไม่ดีเมื่อเพื่อนดันมาได้กันเองแบบนี้แต่ผมเลือกแล้วว่าต้องเป็นมันเพราะฉะนั้นทำไมผมต้องกลัวด้วย
ตอบมันไปสิว่าเพราะอะไรถึงไม่กล้ายอมรับ
“ฮือๆ อย่าไป”
“ถ้ามึงไม่กล้ากูจะไปบอกทุกคนเอง”
“อย่าน่ะ!!!!!!” ผมร้องห้ามและกอดมันไว้จนแน่น
“ตกลงมึงรักกูจริงไหมพาย ทำไมต้องกลัวขอแค่เราสองคนที่เข้าใจกันก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ? มึงจะแคร์คนทั้งโลกแล้วแบกรับความทุกข์ไว้คนเดียวไปเพื่ออะไรแล้วแบบนี้มึงจะมีกูอยู่ข้างๆ ไปทำไมในเมื่อมึงไม่เลือกที่จะจับมือกูไว้ตลอดเวลาแบบนี้!!!!!!” รู้อะไรไหมคนที่ผมไม่คิดว่าจะมั่นคงในความรักอย่างไอ้เอียนจะพูดจาออกมาแบบนี้จนผมรู้สึกชาไปหมดทั้งตัวผมเอาแต่ร้องไห้กอดมันไว้แน่นเหมือนเดิม
“กูอาจจะเหี้ยที่คอยทำร้ายมึงอยู่ตลอดเวลา แต่กูก็รักมึงไม่น้อยไปกว่าไอ้เก้าหรอกน่ะ”
“รู้แล้วว่ามึงรักกูแค่ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ดีกลัวทุกอย่าง กลัวแม้กระทั่งมึงจะปล่อยมือ” ระหว่างที่กอดมันอยู่ผมรับรู้ได้ถึงมือหนาที่เอื้อมขึ้นมาจับมือข้างหนึ่งของผมเอาไว้ก่อนจะบีบมือที่จับไว้จนแน่นเหมือนว่ามันกำลังทำให้ผมมั่นใจ
……………………………………
“กว่าจะรักมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ที่ไม่ง่ายกว่าคือการทำให้คนอื่นยอมรับ” ตลอดเวลาที่ผมพูดไอ้เอียนเองก็จับมือผมไว้จนแน่น
…………………………………..
“กูไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองพวกเรายังไงถึงมึงจะจับมือกูไว้ตลอดเวลาก็ตาม แต่
“ก็บอกแล้วว่ามึงต้องพึ่งกูบ้างไม่ใช่เก็บมันไว้คนเดียว!!!!” ไอ้เอียนปล่อยมือก่อนจะกระชากผมเข้าไปกอดเอาไว้จนแน่น มือหนาค่อยลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยนก่อนที่ริมฝีปากแสนร้ายกาจจะกดจูบเบาๆ ที่ซอกคอ
“ฮือๆ อย่าทิ้งกู อย่าปล่อยให้ต้องอยู่คนเดียว อย่าหายไปไหน อย่าพูดว่าห่างกัน อย่า
“เลิกพูดได้แล้ว” ผมพูดไม่ทันจบไอ้เอียนก็ยกมือข้างหนึ่งของมันมาปิดปากผมเอาไว้ เราสองคนไม่ได้พูดอะไรต่อกันอีกผมนิ่งเงียบจ้องหน้ามันก่อนที่มือข้างหนึ่งจะค่อยๆ เอื้อมไปแตะที่แผลบนหัวของมันเลือดไหลออกมาเยอะเลยทีเดียวจนผมนึกสงสัยว่ามันไม่เจ็บบ้างหรือยังไง
“เจ็บมั้ย?”
“แค่นี้ไกลหัวใจแต่ที่เจ็บกว่าคือมึง”
“วันศุกร์นี้กูจะกลับเชียงใหม่กูต้องไปน่ะ” ไอ้เอียนเบือนหน้าหนีจนผมต้องยกมือทั้งสองข้างไปรั้งใบหน้าของมันเอาไว้แทน “ขอร้อง!!!!
“วันเกิดมันสิน่ะ”
“เอียน! เชื่อใจกันหน่อยสิไหนว่าจะจับมือไปด้วยกัน” สีหน้าของมันบอกได้อย่างชัดเจนว่าไม่อยากให้ผมไปแต่ถ้าผมไม่ไปทุกอย่างมันก็จะค้างคาอยู่อย่างนี้ ผมรู้แล้วว่าคำตอบมันคืออะไรและมั่นใจด้วยว่ารู้มานานแล้วแถมผมยังมีอีกเรื่องที่อยากจะพิสูจน์
“โดยการปล่อยให้เมียตัวเองไปหาผู้ชายคนอื่นงั้นเหรอ?” เอียนเริ่มโวยวายใส่ผมหลังจากที่เราคุยกันดีๆ ได้ไม่กี่คำ
“ไม่ใช่คนอื่น!!!
“จะบอกว่าคนที่มึงรักงั้นเหรอ?”
“กูมีแค่ใจเดียวน่ะหรือมึงอยากยกให้คนอื่นนักถึงได้ยัดเยียดได้ตลอดเวลาแบบนี้ ก็บอกไปแล้วนี่ว่ารักมึง” คราวนี้ผมไม่ยอมถึงกับขึ้นเสียงใส่มันเลยล่ะครับ
“ให้มันได้อย่างนี้สิ!!! เออ! อยากไปไหนก็ไป” มันสะบัดมือผมออกก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องก็ยังดีที่มันไม่เดินออกไปทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันกำลังจะออกไปจากห้องผมยิ้มอย่างดีใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาไอ้พอเพียง
“ว่าไง ไปนานแล้วน่ะหรือยังรำลึกไม่เสร็จ” เสียงมันดูจะอารมณ์เสียโคตรๆ “เออเมื่อกี้เห็นไอ้เก้าเดินลงมามึงได้เจอมันหรือเปล่า” แถมยังพูดต่อ
“กูไม่กลับแล้วน่ะ” แต่ผมกลับไม่ได้ตอบคำถามของมัน
“เฮ้ย! เหี้ย! แล้วกูล่ะ?” เหมือนมันจะงงนิดหน่อยแต่เอาไว้ค่อยอธิบายดีกว่าเพราะตอนนี้ผมต้องไปทำแผลให้ไอ้เอียนก่อน
“กลับบ้านหรือไม่ก็ไปง้อเต็มใจได้แล้ว ถ้าปล่อยไว้นานเดี๋ยวมึงก็ขึ้นคานหรอก”
“ไอ้สัด!!!!
“ขอเป็นแมว! แค่นี้น่ะครับเพื่อน” ผมกดวางสายทันทีรับรองได้ว่าไอ้พอเพียงต้องอารมณ์เสียสุดๆ ผมเลิกสนใจก่อนจะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลแล้วเดินตามไอ้เอียนเข้าไปในห้อง
ผมเดินเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นมันแต่พอเดินหาไปเรื่อยๆ ก็เจอมันกำลังยืนอยู่ในห้องน้ำในมือมีผ้าสีขาวผืนเล็กอยู่ด้วยพร้อมทั้งซับไปที่แผลของตัวเองอย่างทุลักทุเลสุดๆ ผมเลยเดินเข้าไปหาแล้วแย่งผ้าผืนนั้นมา
“ไปนั่งที่เตียงเดี๋ยวจะทำแผลให้” มันไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้ายังคงเย็นชาแบบเมื่อกี้อารมณ์เปลี่ยนได้เร็วจริงๆ เชื่อมันเลยครับ
……………………………..” ไอ้เอียนเอาแต่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ตลอดเวลาที่ทำแผลให้แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำพอๆ กับผมที่ไม่พูดอะไรออกไปเลยหลังจากที่ทำแผลให้มันเสร็จผมก็เดินออกมาเพื่อจะเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ
ง่ายๆ น่ะครับหลังจากที่ถูกบอกให้ห่างกันแต่พอกลับมาผมกลับรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกเหมือนรอยต่อสำหรับพวกเราสองคนขาดหายไปและหาทางต่อยากซะเหลือเกิน
ผมไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มพูดยังไง?
ผมรู้แค่ว่าตัวเองเคยง้อมันมามากแต่พอเจอครั้งนี้กลับทำได้ยากซะเหลอเกิน
เราทะเลาะกันหนักมาก!!!!! และเหมือนจะเลิกกันด้วยซ้ำแต่ผมกลับไม่ยอม
“เหนื่อยไหม?” หลังจากที่ยืนคิดอะไรอยู่สักพักเสียงของไอ้เอียนก็ดังขึ้นมาผมค่อยๆ หันไปมองก่อนจะยิ้มให้
“ไม่เหนื่อย!!!
“โกหก!” มันเดินเข้ามาหาผมกดจูบเบาๆ ที่เปลือกตาทั้งสองข้างพร้อมทั้งมือหนาที่ขยี้หัวไปมาอย่างอ่อนโยนและรอยยิ้ม
“ยิ้มให้กูแล้วเหรอ?” ผมช้อนสายตามองหน้ามันยิ้มกลับอย่างมีความสุขเพราะอย่างน้อยรอยร้าวของพวกเราก็กำลังเริ่มสานต่อ
“พรุ่งนี้กูจะต้องไปกับน้องมิน”
…………………………….” จากที่ยิ้มอยู่เมื่อกี้กับจางลงและเบือนหน้าหนีพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล
รอยร้าวที่กำลังจะต่อติดเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วสิครับ
“กูรู้ว่ามึงอยากร้องไห้ แต่อย่าร้องได้ไหม?”
“กูต้องยอมใช่ไหมเพราะมึงยังยอมให้กูกลับเชียงใหม่” ผมหันกลับมามองหน้ามันไม่ร้องตามที่มันบอกเอาไว้แต่ในใจไม่ใช่
“กูไม่ได้ยอมหรอกน่ะแต่เพราะมึงขอร้อง กูเชื่อใจถึงยอมให้มึงไปหามัน” จากที่ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ผมกลับรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยเพราะอย่างน้อยมันกำลังเชื่อใจผมอยู่
“คราวนี้ประชดอีกหรือเปล่า?”
“เปล่า! คราวนี้แค่อยากไปทำอะไรให้มันถูกต้องเราสองคนมีรอยร้าวมากเกินไปแล้ว หลังจากผ่านอาทิตย์นี้ไปขอร้องได้ไหมกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักที!” ไอ้เอียนว่าพร้อมทั้งยกมือทั้งสองข้างของมันมาหยิกแก้มผมแล้วส่ายไปมา
“อื้อเจ็บน่ะโว้ย! รู้แล้วๆ “
จุ๊บ -////////////////////-
“แต่ก่อนจะถึงอาทิตย์หน้า ตอนนี้เราไปสานสัมพันธ์กันใหม่ดีกว่า”
“ไอ้เหี้ย!!!!!
ตอนแรกที่ว่าจะห่างกัน...แต่มาลองคิดใหม่จะห่างให้มันไปหาคนอื่นเหรอ? ไม่มีทางซะหรอกครับเพราะคนนี้ผมไม่ยอมยกให้ใครจริงๆ เข้าใจน่ะ!!!!!็็็


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น