วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #15 โกรธอะไร?




PLEASE! 15
โกรธอะไร?






เชื่อมั้ยว่าคนป่วยหื่นจิตมากๆ ทำเอาผมแทบลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวนี่ถ้าผมติดไข้มันขึ้นมาจะทำยังไงละเนี่ย? หลังจากที่เรามีอะไรกันที่โซฟาจนเสร็จไผอาบน้ำพร้อมกันอีกแต่พอออกจากห้องเท่านั้นแหละมันกลับจับผมกดอีกจนได้แถมคำพูดของมันยังติดหูผมมาจนถึงเช้านี้
กูอยากให้มึงท้อง
ยอมรับว่าเขินที่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ไม่วายคิดว่ามันจะประสาทกินไปแล้วแน่นอน
ผมหันไปมองหน้ามันที่นอนหลับเหมือนเด็กอยู่บนเตียงก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สภาพแบบมันคงไปเรียนไม่ไหวกะจะล้างพิษแต่ที่ไหนได้กลับนอนซมกว่าเดิม ส่วนผมนี่สิที่ต้องไปเรียนเพราะขาดมานานแล้วเหมือนกันกลัวว่าอาจารย์จะไม่ให้ผ่านน่ะสิ
หลังจากที่แต่งตัวเสร็จผมก็เดินออกมาหาไอ้เอียนที่นอนหลับอยู่บนเตียง ผมเดินออกไปด้านนอกทำข้าวต้มให้มันก่อนที่จะกินยาหวังว่าพรุ่งนี้อาการของมันจะหายดีกว่าเดิมน่ะครับ ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จมาดๆ เข้ามาให้มันในห้องวางข้าวต้มลงบนโต๊ะข้างประตูก่อนจะเดินไปปลุกมัน
“เอียนตื่นได้แล้ว”
“อื้อ” มันไม่ยอมตื่นแถมยังร้องครางตวัดขนตุ๊กแกมากระชากเอวผมเข้าไปนอนกอดเอาไว้ซะงั้น
“กูจะไปเรียนเดี๋ยวเสื้อก็ยับหมดพอดี”
“ขอนอนกอดอีกแป๊บ” มันว่าอ้อนผมซุกหน้าลงมาที่ซอกคอ
“ไม่ได้เดี๋ยวกูก็ไม่ได้ไปเรียนกันพอดี ลุกได้แล้ว” ผมผลักมันออกจากตัวก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งกว่าจะกระชากมันให้ลุกตามมาได้เหนื่อยน่ะเนี่ยก็ไอ้เอียนตัวใหญ่กว่าผมเป็นไหนๆ แถมมันยังขืนตัวเองไม่ยอมลุกตามผมมาอีก
“พายแรด”
“อะไร?”
“จุ๊บหน่อย”
>//////////< เขินหน้าแดงเลยละครับจู่ๆ ก็มาขอจุ๊บให้ตายสิ
“ไม่!!! แค่เมื่อคืนก็พอแล้วนี่ถ้ากูไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง” ผมตะโกนใส่หน้ามันเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินที่มีอยู่เต็มพิกัดเลยละครับ
“เดี๋ยวกูดูแลเอง”
“ชิส์! แค่ตอนนี้กูยังต้องมานั่งดูแลมึงเลย” ผมผลักอกมันก่อนจะลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบข้าวต้มมายื่นให้ ไอ้เอียนรับไว้สีหน้าบอกบุญไม่รับเหมือนไม่อยากกินแถมยังทำหน้าอ้อนผมต่ออีก
เปลี่ยนอารมณ์สีหน้าได้เร็วทันใจจริงๆ เลยละครับ
“รีบกินแล้วก็กินยา กูไปเรียนแล้วน่ะ”
“เดี๋ยวไปส่งที่มหาลัย”
“ไม่ต้องเลยเดี๋ยวไอ้พอเพียงจะมารับ”
“พายแรดง่ะ เดี๋ยวไปส่ง”
“อย่าดื้อได้มั้ย? กูเป็นห่วงน่ะเอียน” ผมดุมันก่อนจะเดินเข้าไปหากดจูบลงที่หน้าผากและปลายจมูกไอ้เอียนยอมเงียบและพยักหน้ารับ
“เฮ้อ! รีบกลับมาละกันกูคิดถึง”
“ไอ้บ้า!!!
J ผมยิ้มเขินก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไม่มีผมกลัวว่ามันจะดื้อไม่ยอมกินยาซะจริงๆ เลยแต่ที่แน่ๆ มันคงไม่ดื้อไปมากกว่านี้หรอกน่ะครับ

ผมยืนรอไอ้พอหน้าคอนได้ไม่ถึงสิบนาทีมันก็ขับรถมาจอดอยู่ที่ที่ผมยืนรีบพาร่างของตัวเองขึ้นไปนั่งบนรถของมันทันทีตลอดทางที่ไปมหาลัยด้วยกันผมก็เอาแต่เงียบแถมยังยิ้มอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกเลยละครับ
“ไอ้พายแรด!!!
ผมหันไปมองหน้าไอ้พอทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนของมันยิ้มให้หน้าเอ๋อเหมือนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มันพูดอะไรบ้าง แต่จะพูดให้ถูกผมก็ไม่รู้จริงๆ นั่นแหละครับ
“อะไร”
“พอรักสมหวังละยิ้มหน้าบานเลยน่ะสัด” เหมือนไปโกรธใครมาแล้วมาลงที่ผมยังไงยังงั้นแหละครับ
“มึงไปโกรธใครมาเนี่ย เหวี่ยงใส่กูแต่เช้า”
“ก็ไอ้สัดเต็มใจน่ะสิ ฮึย! อย่าไปพูดถึงมันจะดีกว่ายิ่งทำให้กูอารมณ์เสีย” นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำผมเดาไม่มีผิดจริงๆ ก็หน้าไอ้พอพียงมันเดาง่ายจะตาย
“ทำไมวะ?”
“ก็แมร่งเรียกร้องมากเกินไปที่กูให้มันเอาไม่ใช่เพราะรักเหรอ ไอ้เวร!!!” เงิบไปสิไอ้พายพอได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของเพื่อนสนิท ไอ้พอเพียงไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาหวานๆ แถมคำพูดของมันส่วนใหญ่ติดขวางโลกและตรงไปตรงมาซะมากกว่า
“แล้วมันเรียกร้องอะไร”
“มันอยากให้กูพูดว่ารัก”
“แล้วมึงทำไมไม่พูดไปละว่ะ?” ผมหันไปมองหน้ามันงงนิดหน่อยเพราะสิ่งที่ไอ้เต็มใจมันเรียกร้องก็ไม่ได้มากจนเกินไป แถมยังน้อยไปด้วยซ้ำก็แค่พูดว่ารักมันจะยากอะไร
แต่คำๆ นี้กว่าจะออกมาจากปากของไอ้เอียนได้ก็นานเหมือนกันแฮะ!!!
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบพูดจาเลี่ยนๆ อะไรแบบนั้น”
“แค่พูดว่ารักมันเลี่ยนตรงไหน?”
“แค่กูกับมันนอนกันไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้ยังไม่เรียกว่ารักอีกเหรอ?” ไอ้พอเพียงหันมาสบตาผมน้ำตาไหลเลยละครับ ร้อยวันพันชาติไม่เคยได้เห็นน้ำตาของมันพระเจ้าโลกจะแตกมั้ยเนี่ย?
“บางทีไอ้เต็มอยากได้ยินมากกว่าสัมผัสจากการกระทำน่ะพอเพียง”
“ฮือๆ กูไม่อยากพูด!!!!
ปล่อยโฮมาหนักกว่าเดิมเลยละครับทำเอาผมไปไม่ถูกเพราะทุกทีคนที่ปลอบใจผมจะเป็นมัน แต่ทำไมตอนนี้ผมถึงต้องมานั่งปลอบใจมันแต่ผมปลอบใจใครไม่เป็นน่ะสิครับ
“ถ้าไม่พูดมึงกับมันก็คงไม่เข้าใจกันแน่นอน”
“ทำไมกูถึงพูดไม่ได้ว่ะ ก็แค่พูดว่ารักแต่พอเจอหน้ามันอยากจะพูดกลับทำไม่ได้” มันเงียบเว้นระยะก่อนจะพูดต่อ
“มึงประสาทแดกประเนี่ย?”
“กูยังดีพร้อม
“เฮ้อ! หยุดร้องและพารถไปจอดได้แล้วนี่ก็ใกล้จะได้เวลาเรียนแล้ว” ผมว่าไอ้พอเลยปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะขับรถเข้ามหาลัย อย่างน้อยมันก็รู้ว่าเวลาร้องไห้ไม่ควรขับรถมันถึงได้จอดแล้วคุยกับผมแต่สภาพของมันตอนนี้แย่โคตรๆ แล้วแบบนี้จะเรียนได้เหรอเพราะผมเคยเจอมาแล้ว
ไอ้เต็มใจก็เหมือนผมที่รู้ว่ารักและพยายามเรียกร้องความรักจากคนที่เรารัก
แต่ไอ้พอเพียงกลับเหมือนไอ้เอียนปากแข็งไม่ยอมรู้ใจตัวเองสักที รักนั่นแหละแต่ไม่ยอมพูดออกไปรอเวลาจนเกือบสาย
“กูขอเตือนน่ะพอเพียง! อย่าเป็นเหมือนไอ้เอียนที่ไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ถ้าเสียรักที่ดีอย่างเต็มใจไป มึงนั่นแหละควาย!!
“ไอ้เหี้ยพาย! เอาคืนเหรอมึง” ผมด่ามันว่าควายซะดังเลยละครับเหมือนได้เอาคืนอย่างที่มันว่าไว้จริงๆ นั่นแหละครับเพราะครั้งก่อนมันบอกว่าผมทนเหมือนควาย แต่ครั้งนี้มันควายที่ไม่ยอมรู้ใจตัวเองสักที
!!!
ง่ายๆ น่ะครับวันนี้ทั้งวันไอ้พอเพียงมันไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนนอกจากจะนั่งทำหน้าเศร้าเหมือนหมาหงอยอยู่อย่างนั้นพอโทรศัพท์มันเข้ามาก็ไม่ยอมรับสายผมเดาว่าคนที่โทรเข้ามาต้องเป็นไอ้เต็มใจแน่นอนเพื่อนผมแมร่งใจแข็งชะมัดทั้งๆ ที่ตัวเองผิดแท้ๆ
“เฮ้ยนั่นไอ้เต็มเดินกับใครวะ?”
ไม่ใช่เล่นๆ น่ะนั่นเพราะผมเห็นจริงๆ แถมท่าทางของสองคนนั้นเหมือนว่าจะสนิทสนมกันมากเลยทีเดียวครับ
“ไหนวะ”
“นั่นไง”
“สะตอกูปะเนี่ย”
“สะตอพ่องมึงสิก็เดินอยู่นั่นไงครับเพื่อน” ผมว่าก่อนจะจับหัวไอ้พอเพียงหันไปทางที่ไอ้เต็มใจมันเดินอยู่ขอบอกว่าเพื่อนผมเหมือนองค์ลงเลยละครับสีหน้าของมันเหมือนจะโกรธมากๆ เลยด้วย
“ไอ้เวรเต็มใจ!!!!

ซุปเปอร์มาเก็ต
ถ้าคิดว่าผมจะพาไปตามเรื่องราวของไอ้พอเพียงละก็เลิกคิดไปได้เลยเพราะตอนนี้มันวิ่งตามไปอาละวาดกับไอ้เต็มเรียบร้อยแล้วส่วนผมก็แยกตัวออกมาก่อนจะตรงไปยังซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อหาซื้อของสดไปทำให้ไอ้เอียนมันกิน J อารมณ์ดีเพราะว่ามีความสุขเดินหาของไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมควรจะกลับคอนโดไปได้แล้วแท้ๆ แต่ก็น่ะไอ้เอียนได้งอแงใส่อีกแน่นอนถ้าผมกลับไปช้า
“เฮ้ย! พายนั่นมึงใช่ไหม?”
ระหว่างที่ยืนนึกถึงไอ้เอียนอยู่ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่งเรียกชื่อราวกับว่าดีใจสุดๆ ที่ได้เจอกัน ผมค่อยๆ หันกลับไปมองตามต้นเสียงยืนกระพริบตาถี่ๆ มองหน้าคนที่ยืนใส่แว่นตากันแดดสีดำตรงหน้าอย่างแปลกใจ เหมือนผมจะไม่รู้จักมันแต่ทำไมมันถึงรู้จักผมละเนี่ยว่าแต่มันเป็นใคร
“อื้อ! ใครนะ?”
“กูไงเก้าจำได้ไหม?”
มันถอดแว่นกันแดดออกก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างอารมณ์ดีเฮ้ย! ผมจำมันได้แล้ว ทำไมจะจำไม่ได้ก็มันคือเพื่อนสนิทของผมอีกคนที่โตมาด้วยกันและมันก็คือคนเดียวกันกับคนที่ผมแอบรักมาโดยตลอดในตอนนั้นที่ยังไม่รู้ตัวว่ารักไอ้เอียน
“นะนี่มึงกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หมับ!
ไอ้เก้าไม่ยอมตอบคำถามของผมแต่ดันกระชากผมเข้าไปกอดเอาไว้ซะแน่นจนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียวไอ้เก้ากับผมและไอ้เอียนพวกเราสามคนเป็นเพื่อนกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละครับและแน่นอนว่าบ้านมันก็รวยพอกับไอ้เอียนแต่ก่อนหน้านั้นมันและครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันหมด ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นพวกเราอยู่มอหกกันครับ...ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลยจนมาถึงตอนนี้
กี่ปีแล้วเนี่ยที่ไม่ได้เจอกันพอๆ กับคำสารรักของผมที่ขาดหายไปเมื่อมันตอบปฏิเสธจนทำให้ผมชำใจอยู่นานเลยทีเดียว L
“พ่อกูจะกลับมาทำรีสอร์ทกับโรงแรมที่ไทยนะ”
“งั้นเหรอ? ปล่อยได้แล้วนี่มันซุปเปอร์มาเก็ตน่ะคนมอง” ผมว่าดันตัวออกห่างจากมันแอบหัวใจเต้นแรงนิดหน่อยก็คนที่แอบชอบแถมยังเคยสารภาพรักดันมายืนอยู่ตรงหน้าอีกต่างหาก แถมยังโผล่เข้ามากอดแบบตั้งตัวไม่ทันอีกด้วย
“อายทำไมเมื่อก่อนก็กอดแบบนี้ออกบ่อย”
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว” ผมเถียงมองหน้ามันไอ้เก้าเองก็ดูหล่อขึ้นแถมผิวมันยังขาวพอๆ กับผมอีกต่างหากหล่อตี๋แต่จมูกนี่โด่งพอๆ กับไอ้เอียนเลยละครับ
“มึงนี่นิสัยหญิงไม่เปลี่ยนเลยน่ะ”
“ชิส์! ว่าแต่มึงมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง” ผมจิ๊ปากใส่มันก่อนจะหันหลังให้เดินเลือกซื้อของต่อถ้ามันอยากคุยกับผมเดียวก็เดินตามมาเองแหละครับ
“มาหาเพื่อนน่ะ”
“เพื่อนหรือแฟน” ผมพูดจาหยอกล้อมันในใจก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วเพราะวันเวลามันผ่านไปผมก็ต้องเดินหน้าแถมตอนนี้ผมก็มั่นใจแล้วด้วยว่ารักไอ้เอียนคนเดียว
“หึงเหรอ?”
“เห่! ทำไมต้องหึง!!!!” หันกลับไปมองหน้ามันอุทานอย่างตกใจแบบว่าผมไม่ได้หึงน่ะครับก็แค่แปลกใจที่มันถามแบบนี้ก็เท่านั้นเอง
“ก็มึงน่ะรักกูนี่”
ตึกๆ ตักๆ
พอเจอคำพูดตรงๆ เข้าให้หัวใจผมก็ทำงานปิดปกติซะงั้น ไม่ใช่ว่าจะด้านชาไปซะทุกอย่างหรอกน่ะครับแต่มันทนไม่ไหวถ้าจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของคนที่ตัวเองเคยแอบรักมาก่อน
“หึ! ไม่ใช่แล้ว”
“โอเคๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แล้วนี่ไอ้เอียนสบายดีมั้ย?” ไอ้เก้าว่าก่อนจะเดินขึ้นมายืนข้างๆ ผมมองหน้าเหมือนจ้องจะจับผิดยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“ไม่สบาย”
“เอ๊ะ! ไอ้เอียนเนี่ยน่ะ”
“อื้อวันก่อนก็ทะเลาะกับมันนิดหน่อยเลยผลักมันตกน้ำจนไม่สบาย”
“ฮาๆ อยากจะขำไอ้เอียนเนี่ยน่ะยอมให้มึงทำแบบนี้” ผมจ้องหน้าไอ้เก้ายิ้มแหย่ๆ มากกว่านี้มันก็ยอมมาแล้ว
“ขำไปเถอะเพราะมันเรื่องจริง”
“เออๆ แล้วนี่มึงน่ะซื้อของสดไปทำไมเยอะแยะ”
“ก็ทำอาหารให้ไอ้เอียนมันกิน”
“หือ! มึงอยู่กับมันงั้นเหรอ” น้ำเสียงไอ้เก้าเหมือนจะตกใจมากเลยทีเดียวพอรู้ว่าผมกับไอ้เอียนเราอยู่ด้วยกัน จะตกใจทำไมในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่ครับ J
“ก็ใช่!
“มันยังทำตัวติดมึงไม่เปลี่ยนสิน่ะ”
“เมื่อกี้มึงว่าอะไรน่ะ?” ผมไม่ได้ยินที่มันพูดเมื่อกี้เลยถามย้ำแต่ไอ้เก้ากลับเงียบก่อนจะยิ้มให้และเฉไฉไปเรื่องอื่นซะงั้น ได้เจอกันทั้งทีแถมมันไม่มีนัดที่ไหนต่อผมก็เลยชวนมันกลับคอนโดด้วยเลยครับอีกอย่างผมก็ไม่ต้องนั่งรถเมล์กลับคอนโดด้วย อิอิ ^_^
“ที่นี่เหรอ? งั้นกูช่วยถือของละกัน”
“อือ” ผมไม่ปฏิเสธก่อนจะเดินนำมันขึ้นไปเข้าไปด้านในกดลิฟต์ไปยังชั้นที่ผมอยู่กับไอ้เอียนพอลิฟต์เปิดก็มีแค่พวกเราสองคนกับความเงียบและเสียงลมหายใจของผมและมันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“เสียงหัวใจมึงเต้นแรงจังน่ะ” ผมแทบจะถอยออกมาไม่ทันเมื่อน้ำเสียงของไอ้เก้ากระซิบจนติดหูผมเลยทีเดียวทำเอาขนลุกไปทั้งตัวเลยละครับ
ติ่ง!!!!
“ไอ้สัด” ผมกร่นด่ามันก่อนจะรีบเดินออกจากลิฟต์ไม่อยากจะบอกว่าเขินครับที่จู่ๆ มันก็มาพูดกระซิบใกล้ๆ แบบนี้ใครทนได้ก็บ้าแล้ว
>///////////<
แอดด ด ดด
หมับ!
หลังจากใช้คีการ์ดเปิดประตูเรียบร้อยแล้วผมก็ผลักเข้าไปทันทีทันใด พอๆ กับที่ไอ้เอียนโผล่เข้ามากอดผมเอาไว้อย่างรวดเร็วจนแทบหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
“ทำไมมาช้าจังว่ะ?” มันถามผมซุกหน้าเข้ามาที่ซอกคอจนผมรู้สึกหวั่นใจว่าไอ้เก้าจะสงสัยหรือเปล่าเพราะท่าทางของไอ้เอียนมันขี้อ้อนเกินไปแล้วครับถ้าอยู่กันสองคนผมจะไม่อะไรเลยแต่นี่ไม่ใช่
TwT
“ทำอะไรหัดเกรงใจกูบ้างสิครับเพื่อนรัก”
ไอ้เอียนแทบจะผละออกจากตัวผมทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงของไอ้เก้ามันมองหน้าผมสลับกับไอ้เก้าเหมือนกำลังสงสัยว่าพวกเราสองคนเจอกันได้ยังไงแล้วทำไมถึงพามันมาด้วยแบบนี้
“มึงมาได้ยังไง?”
“ก็พายชวนกูมา”
“ไม่! กูหมายความว่ามาไทยได้ยังไง” ไอ้เอียนเหมือนจะไม่สบอารมณ์เอามากๆ เลยครับแถมมันยังถอยห่างออกไปจากผมอีกด้วย
ท่าทางแบบนี้โกรธอยู่ชัดๆ
“คงเพราะคิดถึงพวกมึงสองคนมั้งถึงอยากกลับมา”
“หึ! งั้นเหรอ?” ไอ้เอียนครางในลำคอก่อนจะพูดจากวนประสาทสายตาดุๆ ของมันมองมาทางผมที่ต้องรีบเบือนหน้าหนีทันทีเลยละครับ
กูไม่รู้เรื่องน่ะเอียน แงๆ L
ไอ้เอียนเหมือนทำทุกอย่างให้ขวางโลกไปหมดมันหายออกไปด้านนอกและเอาแต่ขลุกอยู่กับต้นไม้สวนผมกับไอ้เก้าก็ช่วยกันทำอาหารเพราะมันพอทำเป็นบ้างส่วนไอ้เอียนน่ะเหรอ ถ้าไม่อยากตายก่อนวัยอันสมควรก็อย่าให้มันทำเลยละครับ
“ทำอะไรของมึงเนี่ย?”
ไอ้เก้าสะบัดน้ำที่ล้างผักใส่หน้าผมเต็มๆ เหมือนว่าอยากแกล้งจนผมต้องเอาคืนและเราสองคนก็เล่นจนกันลืมไปเลยว่าต้องทำอาหารแต่ในห้องก็ไม่ได้มีกันแค่สองคน
“มึงนี่ตลอกจริงๆ ดูสิเวลาโกรธยังน่ารักเลย ยี่ๆๆๆ”
ไอ้เก้าหยิกแก้มทั้งสองข้างของผมพร้อมทั้งส่ายไปมาจนรู้สึกเจ็บที่แก้ม แต่ที่เจ็บกว่าแก้มก็คือสายตาของไอ้เอียนที่เริ่มจะเปลี่ยนไปมันเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอนผมมองท่าทางของมันรู้สึกใจเสียนิดๆ
“พายกูมีอะไรจะ
“ที่เหลือมึงทำไปก่อนน่ะกูลืมไปว่าไอ้เอียนมันต้องกินยาก่อนอาหารด้วย” ผมรีบโยนทุกอย่างให้ไอ้เก้าก่อนจะวิ่งไปที่ห้องล็อกกลอนด้วยกันไว้ดีกว่าแก้ไอ้เอียนเองก็นั่งมองหน้าผมจากปลายเตียงดูน่ากลัวชอบกล
“เอียนคือกู”
“กูอยากอยู่คนเดียว”
“ไม่! โกรธอะไรกูทำไมต้องทำหน้าเย็นชาแบบนี้ด้วย” รู้ว่าต้องทะเลาะกันแน่นอนแต่ผมก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับมันยังดีกว่าปล่อยให้พวกเราสองคนไม่เข้าใจกันไปมากกว่านี้
“มึงก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนี่”
“กูไม่รู้ มึงก็บอกมาสิ” พอไม่ได้คำตอบที่แน่นอนผมก็เริ่มอารมณ์เสียแทนซะงั้นทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นไอ้เอียนมากกว่า
“มึงเคยสนใจกูบ้างมั้ยพาย” ไอ้เอียนตั้งคำถามกับผมน้ำเสียงเศร้าโคตรๆ ถ้าผมไม่สนใจมันแล้วทำไมผมต้องเข้ามาคุยด้วยละทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันโกรธอะไรแต่ถ้าเรื่องของไอ้เก้ามันไม่น่าโกรธเลยในเมื่อพวกเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ
“ทำไมถึงถามแบบนี้”
“ถ้าสนใจกูมึงจะไม่พามันกลับมาด้วยหรือเพราะมึงยังไม่ลืมมันกันแน่”
“เอียนมึงอย่ามางี่เง่าน่ะพวกเราเป็นเพื่อนกันนี่” ผมเริ่มขึ้นเสียงเรื่อยๆ เมื่อไอ้เอียนมันพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องขึ้นทุกที
“เพื่อนงั้นเหรอ? แล้วที่กูกับมึงเอากันนี่เค้ายังเรียกว่าเพื่อนอีกใช่มั้ย!!!

เพี๊ยะ!!!
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงตอบหน้ามันไปแต่ที่ทำลงไปทั้งหมดผมไม่ได้ตั้งใจผมก็แค่ลืมตัวเท่านั้นเอง ผมไม่ชอบที่มันพูดจาเหมือนกำลังดูถูกผมอยู่แบบนี้ก็บอกไปตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่ารักยังจะต้องการอะไรมากกว่านี้
“เอียน”
“หึ! ไม่คิดว่ามึงจะตบหน้ากูเพราะคำพูดเมื่อกี้” มันจ้องหน้าผมสายตาว่างเปล่าโกรธมากขึ้นกว่าเดิมแต่ไม่แสดงออกให้ได้เห็นมากนัก
“ทำไมเราต้องมาทะเลาะกันด้วย”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่ทำอะไรให้ชัดเจนกว่านี้บางทีกูก็อยากจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่ากูรักมึงอยากอยู่กับมึงไปตลอด แต่นี่อะไรสิ่งที่มึงทำเหมือนกำลังกลัวว่าใครจะรู้เรื่องของเรา!!!” ไอ้เอียนตะโกนใส่หน้าผมด้วยคำพูดมากมายที่น่าเจ็บปวดดีน่ะที่ห้องของมันเก็บเสียงไม่งั้นไอ้เก้าคงจะได้ยินว่าพวกเราสองคนทะเลาะอะไรกันแน่นอน
“มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดน่ะ”
“แล้วมันอะไร?”
ไอ้เอียนตะโกนใส่หน้าผมทำเอาตกใจจนอึ้งไปเลยทีเดียวมันดูโกรธและพูดจาหวนๆ ด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจากเดิมจนผมชักจะกลัวแล้วสิ
“กูว่าเราค่อยคุยกันดีกว่ายิ่งคุยก็เหมือนจะยิงแย่”
“จะเดินหนีงั้นเหรอ? หรือเพราะมึงไม่มีคำตอบที่แน่นอน”
“ไม่ใช่!
“หรือประเด็นมันอยู่ที่ว่าไอ้เก้ากลับมาแล้ว” ที่ว่าอึ้งอยู่เมื่อกี้กลับอึ้งไปกันใหญ่เมื่อน้ำเสียงเจ็บปวดพูดอย่างแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆ เดินตรงเข้ามาแววตาและรอยยิ้มที่เหมือนกำลังฝืนให้ผมได้เห็นมันน่าเจ็บปวดเหลือ
“ตกลงมึงรักกูหรือว่าไอ้เก้ากันแน่!!!!!!!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น