วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

PLEASE! #10 กว่าจะรู้ใจตัวเอง


PLEASE! 10
กว่าจะรู้ใจตัวเอง




ฮือๆ
ผมเอาแต่ร้องไห้และก็บอกให้มันไปตาย แต่ถ้ามันไปจริงๆ คนที่จะตายคือผมไม่ใช่มันถ้าไม่มีมันผมก็รู้สึกแย่เหมือนว่าชีวิตขาดหายอะไรไปสักอย่าง หนึ่งในนั้นคงเป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่ได้รับจากมันแน่นอน ผมคงกลายเป็นคนซาดิสท์ที่ชินชาในความเจ็บปวดไปซะแล้วละมั้ง
L
“ถ้ากูตายไปจริงๆ มึงจะเกลียดกูน้อยลงไหม?”
ไอ้เอียนลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าผมที่นอนร้องไห้อยู่ ผมไม่ยอมมองหน้ามันเอาแต่ยกมือทั้งสองข้างของตัวเองมาปิดหน้าเอาไว้แล้วก็น้องไห้หนักกว่าเดิม
กูก็แค่ประชด ใครจะอยากให้มึงตายจริงๆ
“ฮือๆๆ
“กูขอโทษที่ทำร้ายมึงมาตลอด” ผมรู้สึกเหมือนไอ้เอียนจะขยับตัวออกไปห่างๆ แม้จะไม่ลืมตาไปดูแต่ก็รู้ว่ามันกำลังคลื่นไหวอยู่
…………………..
“ทำร้ายคนที่ดีกับกูมาทั้งชีวิต” จะพูดเพื่ออะไรในเมื่อมันคิดว่าผมเป็นแค่เพื่อนมาโดยตลอด ก็แค่ผ่านคืนนี้ไปแล้วผมจะลืมว่าเคยรักมันและจะไปจากมันด้วย
“พอแล้ว กูไม่อยากฟัง” ผมร้องห้ามนอนหลับตาและเอามือทั้งสองข้างปิดหูตัวเองเอาไว้แทน
“เวลาที่มึงทำตัวห่างเหินมันทำให้กูรู้สึกแย่ กูโง่หรือเปล่าที่พึ่งรู้สึกเจ็บปวด” แม้ว่าผมจะปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองไว้แน่นแค่ไหนแต่สมองกลับรับรู้ทุกอย่างที่ไอ้เอียนมันพูด จะบอกอะไรกับผมกันแน่
…………………
“มึงร้องไห้ กูแย่สุดๆ แต่กูก็เลวพอจะทำร้ายมึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า” เตียงนอนที่เคยคิดว่าไอ้เอียนมันนั่งอยู่กลับสัมผัสได้ว่ามันลุกออกไปเรียบร้อยแล้ว
………………….
“และคำว่าเกลียดของมึง มันทำร้ายกูเหลือเกินคงสาสมแล้วที่มึงอยากให้กูไปตายซะ!

ปัง!
ตึก ตัก
เสียงประตูห้องที่ปิดลงพร้อมกับเสียงหัวใจผมที่เต้นแรงและกระตุกวูบ ดวงตาทั้งสองข้างของผมเบิกกว้างก่อนจะวิ่งออกจากห้องตามมันไปผมไม่เห็นไอ้เอียนเห็นแค่ประตูระเบียงที่เปิดออก รีบวิ่งเข้าไปหามันทันทีก็เห็นว่ามือทั้งสองข้างของมันกำลังจับราวกั้นอยู่

หมับ!
“เอียน!!!” ผมเรียกชื่อของมันดังสุดเท่าที่จะดังได้พร้อมทั้งกอดมันเอาไว้จนแน่น “ฮือๆ กูขอโทษ กูแค่ประชดขอโทษ”
ผมแพ้หัวใจตัวเองทุกครั้ง
“หึ! กว่าจะยอมรับว่าเป็นห่วงกูแทบแย่ต้องให้เหนื่อยเดินออกมาสินะ มึงนี่ปากแข็งกว่าที่คิดไว้แฮะแต่ทำไมใจถึงไม่แข็งพอจะเห็นกูกระโดดลงไปก่อนถึงจะเข้ามาห้ามละ”
ไอ้เอียนรั้งร่างของผมให้ออกห่างจากมันก่อนจะหันมาเผชิญหน้าพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีเหมือนว่ากำลังเยาะเย้ยผมอยู่เลยละครับ
“อะ อึกหมายความว่ายังไง?”
“พูดว่าเกลียดกูสิ แล้วจะบอก” ผมรีบผลักมันให้ออกห่างจากตัวก่อนจะเดินเข้ามาด้านใน เหมือนว่าผมกำลังโดนหลอกและเดินเข้าไปเล่นเกมส์อะไรสักอย่างกับคนเจ้าเล่ห์อย่างไอ้เอียน

หมับ!
ร่างทั้งร่างถูกรั้งเข้าไปกอดไว้ด้วยอ้อมแขนของคนด้านหลังที่เดินตามผมเข้ามา ก่อนที่ริมฝีปากแสนร้ายกาจจะกดจูบที่ต้นคอผมหนักหน่วงและอ่อนโยนภายหลัง
“เกลียดมึง” นานพอสมควรกว่าผมจะพูดคำนี้ออกมา น้ำตาเองก็ไหลเรื่อยๆ เหมือนว่าไม่อยากหยุดเลยด้วยซ้ำไป
“แต่กูคิดว่าตัวเองชอบมึงไม่สิ! มันรักไปแล้วต่างหาก ไม่รู้เมื่อไหร่? ต้องขอบคุณไอ้เต็มที่ทำให้กูรู้ตัวและไอ้พอที่ด่ากูว่าควายแถมยังสวดซะยับอีกมากมาย!!!!!
O_O!!!
เหมือนผมจะอึ้งกับคำพูดที่ได้ยิน ไอ้เอียนบอกว่าชอบผม ไม่สิรักต่างหากผมฝันไปใช่ไหมหรือว่ามันกำลังแกล้งผมอยู่
“อย่ามาตลกปล่อย!
“บอกมาสิว่ามึงเองก็รักกู ไม่สิเพราะมึงนะแอบรักกูมาตั้งนานแล้ว
“ไอ้เหี้ย! ปล่อย” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของมัน แต่ยิ่งดิ้นเหมือนมันยิ่งกอดผมแน่นขึ้นจนรู้สึกเหมือนมันไม่อยากปล่อยให้ผมหลุดมือไปได้เลยละครับ
“ตอบมาสิ”
“บอกให้ปล่อย”
“ถ้าไม่ตอบคำถามกู ก็อย่าหวังว่ากูจะปล่อย
“เออ! กูรักมึงแล้วยังไงในเมื่อตอนนี้กูเลิกรักมึงไปแล้ว และกูก็กำลังจะรักคนอื่นดะอื้อ”
ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของมันไปพร้อมๆ กับริมฝีปากหนาที่ครองครองผมอย่างถือดีแถมยังเป็นจูบที่ผมไม่เคยได้รับ มันแค่บรรจงจูบผมอย่างอ่อนโยนไม่แสดงอาการโหยหาหรือต้องการอะไรทั้งนั้น หากแต่จูบในตอนนี้เหมือนว่ากำลังจะพิสูจน์อะไรสักอย่างจากผม
“อื้อเอียน หะหายใจไม่ออก แค่ก แค่ก”
ผมแทบสำลักกับรสจูบที่ไม่เคยได้เจอ แม้ว่ามันจะปล่อยให้ผมเป็นอิสระก็ตามแต่นั่นก็แค่เสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะกดปากลงมาจูบผมอีกครั้ง ขบเม้มริมฝีปากผมเหมือนว่ากำลังลงโทษอะไรสักอย่างแถมปลายลิ้นร้อนยังไล้ต้อนผมเรื่อยๆ จนหาทางออกไม่เจอมันทำให้ผมแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนหรือทำอะไรยังดีที่มันรั้งเอวของผมเอาไว้ไม่งั้นมีหวังล้มลงไปกองกับพื้นแน่ๆ
แค่ก แค่ก
“บอกแล้วว่าห้ามรักใครถ้ากูไม่อนุญาต”
“สิทธิ์กูนะ!!!
“เป็นเมียกู อย่าคิดว่าจะมีสิทธิ์นอกใจได้!” ผมยื่นหน้าออกมาแล้วมองมันสายตาอึ้งๆ ไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ที่มันบอกรักผมทำไมถึงพูดจาอะไรเจ้าเล่ห์นัก
“ใครเมียมึง!
“เดี๋ยวจะพาไปพิสูจน์
“อ๊ะ! ปล่อยนะโว้ย” ไอ้เอียนอุ้มผมขึ้นมาก่อนจะพาเดินไปที่ห้องพอมาถึงมันก็วางผมลงบนเตียงพร้อมทั้งกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมสายตาที่มันมองผมแปลกๆ แถมยังอ่านไม่ออกอีกต่างหาก
“ออกไปนะ กูยังไม่ได้ร้องขอ
“เล้าโลมสักนิดเดี๋ยวมึงก็ขอให้ช่วย!
“ไอ้เหี้ย!” ผมกรนด่ามันกัดฟันกรอดรู้สึกไม่พอใจ “อื้อ
ครางทำไม!!!!!!!!!
ไม่ใช่ผมให้ตายเถอะผมกำลังหลอกตัวเองอยู่เพราะไอ้เอียนมันก้มหน้าลงมาก่อนจะกัดเข้าให้ที่ติ่งหูของผม มันเสียวจนสั่นไปหมดทั้งตัวแถมยังร้องครางอย่างไม่น่าให้อภัยอีกต่างหาก
“หึ! ชอบละสิ รีบๆ ร้องขอนะเดี๋ยวกูจะทนไม่ไหว”
“ไม่!!!!!
“ปากแข็ง
“ไอ้อ๊ะ!
มือข้างหนึ่งของไอ้เอียนจับเข้าให้ที่เป้าผมทันที ไม่ไหวถ้าจะเป็นแบบนี้นานๆ ไปมีหวังผมอาจทนไม่ไหวและร้องขอมันก็ได้ครับ
“หยุด! ถ้าไม่หยุดกูจะร้องแล้วนะ” ผมไม่ได้ร้องขอให้มันช่วยแต่ที่ผมอยากรู้ให้แน่ชัดกว่านี้ก็คือเรื่องที่มันพูดก่อนหน้านี้เป็นความจริงหรือเปล่า
“ว่าไงนะ?” ไอ้เอียนหยุดการกระทำทั้งหมดก่อนจะเงยหน้าสบตาผมที่จ้องมันน้ำตาคลอ ผมนะร้องไปตั้งนานแล้วเหลือก็แต่บีบน้ำตาให้มันไหลมากกว่าเดิม
“ฮือๆ ไอ้เวร
“ด่าจริง ด่าจัง! ทั้งเหี้ย เลว เวร และอีกมากมายตกลงมึงรักกูจริงปะเนี่ย?” มันพูดก่อนจะลุกขึ้นจากตัวผมพร้อมทั้งดึงผมให้ลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับมันด้วย
หัวใจเต้นแรงผิดปกติจนหาทางออกไม่เจอ!!!
L
……………………..” ผมไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีมันแล้วร้องไห้ต่อไปเรื่อยๆ
“คุยกันหน่อยสิ ถ้าไม่ได้คุยกูคงอึดอัด!” ไอ้เอียนขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมก่อนจะรั้งใบหน้าของผมให้หันกลับไปมองมัน มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาปาดน้ำตาให้ผมอย่างเบามือก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้
คนตรงหน้าใช้เอียนเลวที่ผมรู้จักหรือเปล่า?
“ไม่คุย
“ถ้าไม่คุย เราสองคนคงพูดกันไม่รู้เรื่อง!” ผมว่าไอ้เอียนในตอนนี้ใจเย็นโคตรๆ เลยครับ ขนาดผมงอแงและดื้อใส่แต่มันกลับไม่อาละวาดแถมยังยอมนั่งเฉยๆ เหมือนว่าไม่ถือสาคำพูดของผมเลย
10 นาที
“แต่กูให้มึงทั้งชีวิตเลยนะ” ผมจ้องหน้ามันกระพริบตาถี่ๆ ไอ้เอียนกินยาผิดไปหรือเปล่า หรือตอนที่ขับรถกลับคอนโดมันไปชนอะไรเข้าไหมทำไมสมองถึงได้กลับแบบนี้
“ว่ามาก่อนที่กูจะหมดอารมณ์คุย!
“ก็แค่อยากรู้ว่ารักกูตั้งแต่เมื่อไหร่” มันว่ายิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนบนตักของผมแทบจะขยับหนีไม่ทัน แต่ก็ขยับไม่ได้เพราะมันรั้งเอวผมเอาไว้ด้วย
……………………….” ผมก้มหน้ามองมันเม้มปากเข้าหากันจนแน่น จะให้กูตอบว่าอะไรในเมื่อไม่รู้ตัวเลยว่ารักไปตั้งแต่เมื่อไหร่และอีกอย่างทำไมต้องมาถามด้วย
“เราเป็นเพื่อนกันนะ!” ผมแย้งแถมยังตอบคนละคำถามกับมันอีกต่างหาก
“ตอบ!!!!!
“ไม่รู้” สุดท้ายพอเจอคำขู่ของมันผมก็ต้องตอบ แต่ก็ตอบแบบเฉไฉพร้อมทั้งหลบหน้าหนีแม้ว่าตักผมจะมีหัวมันนอนหนุนอยู่ก็ตาม
“ทำไมถึงไม่รู้!!!                    
“ก็คนมันไม่รู้นี่ รู้แต่ว่ารักไปแล้วอีกอย่างมึงจะมาถามหาพระแสงอะไร? มึงบ้าหรือเปล่าเนี่ยถ้าบ้าก็ไปหาหมอซะเพราะกูจะไม่ทนอยู่กับมึงอีกแล้ว ยิ่งทนกูยิ่งเจ็บเพราะต้องอยู่กับควายอย่างมึง!!!! L
พูดอะไรไปเนี่ย? แต่ที่แน่ๆ ผมทั้งตอบคำถามทั้งด่ามันไป น้ำเสียงปนสะอื้นดังชัดเจนมากๆ ไอ้เอียนเองก็นอนจ้องหน้าผมกระพริบตาถี่ๆ เหมือนว่ากำลังรวบรวมคำพูดของผมอยู่อย่างนั้นแหละครับ
…………………….
“ควายที่ทำให้กูเจ็บตลอดเวลา และควายที่ไม่ยอมรู้ตัวสักทีว่ากูรักถ้ามึงจะเกลียดกูก็ได้นะเพราะเราเป็นเพื่อนกัน และเราก็ไม่ควรจะรักกันได้! ไม่สิมะอื้อ”
ผมพูดไม่ทันจบไอ้เอียนก็รั้งคอผมให้ก้มลงไปหามันก่อนที่ปากร้ายกาจของมันจะกดจูบผมหนักหน่วง ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกรั้งให้นอนลงบนเตียงนุ่มๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ร่างกายทุกอย่างมันยอมจนไม่อาจห้ามใจได้เลยทีเดียว
“ใครจะเกลียดมึงลง ถึงมึงจะบอกว่าเกลียดกูตลอดเวลาก็ตาม!
“ฮือๆ เอียนเลว!” ผมรั้งคอมันมากอดเอาไว้จนแน่น ใบหน้าหล่อของไอ้เอียนก็ฟุบเข้าให้ที่ซอกคอของผมก่อนที่ริมฝีปากนี้จะกดจูบลงมาเบาๆ
“ขอโทษนะที่ทำให้มึงร้องไห้ ทุกครั้งกูแค่คิดว่ามึงไม่อะไรเพราะมึงปากแข็งไม่ยอมเรียกร้อง แต่พอมึงเอาจริงทำตัวห่างเหินกูถึงรู้ว่ามันแย่เวลาถูกมึงมองด้วยสายตาเกลียดชัง!
ไอ้เอียนกดจูบที่ต้นคอของผมตลอดเวลาที่มันพูดจนผมแทบห้ามน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ไหว ร้องไห้โฮออกมาเรื่อยๆ
………………………….
“กูขอโทษถ้าคำว่าเพื่อนจะทำให้มึงเจ็บปวดขนาดนี้!
“พอแล้วไม่ต้องพูด!” ผมไม่รู้ว่ามันจะพูดอะไรต่อไปแต่ถ้ามันพูดมากกว่านี้ผมกลัวว่าจะต้องเจ็บปวดอีก ผมไม่แน่ใจในการกระทำของมันตอนนี้เอาซะเลย
“ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้วมึงต้องเจ็บงั้นเราเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะ!!!!!
ไอ้เอียนพูดจบก่อนจะผละออกจากตัวผม มือหนายื่นมาตรงหน้าก่อนจะปาดน้ำตาให้ผมแม้น้ำตาจะถูกปาดทิ้งไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ผมก็ไม่ยอมหยุดไหลสักที
สองมือหนาประคองใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนที่ใบหน้าหล่อแสนร้ายกาจจะก้มลงมาอีกครั้งจนปลายจมูกของเราสองคนแตะกัน
“เลิกเป็นเพื่อน แต่มาเป็นแฟนกันแทนบางทีมึงอาจเจ็บน้อยลง!
“ไอ้…!!!
“ห้ามด่า! ไม่งั้นจูบฟังให้จบก่อนสิ”
…………………………” ผมสะอื้นเม้มปากเข้าหากันจนแน่นเพราะคำขู่ของมันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจผม
“กูเบื่อที่จะเป็นเพื่อนมึงแล้ว และกูก็ไม่อยากเสียมึงไปเพราะคำว่าเพื่อนด้วยกูรู้ว่าทำร้ายมึงมาตลอดแต่ต่อไปนี้กูจะชดเชยทุกอย่าง!
…………………….
จุ๊บ -/////////////-
ไอ้เอียนจูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง
“กูรักมึงนะพายแรดถึงมันจะยากที่มึงอยากจะเชื่อ แต่กูมั่นใจว่าตอนนี้กูรักมึง รักมากด้วยสิ!!!
“เอียนเลว!
“ครับ! ขอโทษสำหรับทุกอย่าง” ผมยื่นหน้าขึ้นไปกดจูบที่ริมฝีปากมันเบาๆ แล้วส่งยิ้มหวานให้
“ไม่เชื่อจนกว่ามึงจะพิสูจน์กูเจ็บมามากพอแล้วนะ”
“โอเค! เอียนเลวจะพิสูจน์ให้พายแรดดูว่ารักนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่นอน"
ไอ้เอียนกดจูบที่ริมฝีปากของผมเบาๆ แถมยังนุ่มนวลอีกต่างหากสุดท้ายหัวใจมันก็ยอมแพ้จนปากไม่ต้องร้องขออะไรทั้งนั้น มือหนาไล่ต้อนตามแผ่นหลังของผมไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเสียวซ่านและสั่นสะท้านไปหมดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็ถูกถอดออกจนหมด
มันเร็วจนสมองผมคิดตามไม่ทันเลยละครับ แต่จะว่าไปเพราะไอ้เอียนนั่นแหละที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นแบบนี้ผมยอมมันไปตั้งนานแล้ว!!!!
“เอียนเดี๋ยวพรุ่งนี้มีเรียน”
เหมือนทุกอย่างจะหยุดลงได้แต่เปล่าเลยไอ้เอียนไม่มีทางหยุดถ้ามันได้ลงมือถอดเสื้อผ้าผมแล้ว ทุกอย่างก็คงจะต้องเดินต่อไปจนกว่าจะจบเกมส์
“รอบเดียว
อยากจะเถียงไปเหลือเกินว่ารอบเดียวของมึงทำเอากูลุกไปเรียนไม่ได้เลย… =_=!!!
“อ๊ะ! อย่าจับสิ” ผมรั้งมือหนาของมันเอาไว้เมื่อทำรุ่มร่ามกับร่างกายส่วนล่วงของผมมากจนเกินไป ที่ไม่อยากให้มันจับเพราะผมไม่อยากตื่นเร็วกว่ามันไอ้เอียนชอบแกล้งและพูดจายั่วโมโหผมอยู่เรื่อย
“งั้นเปลี่ยนจากมือเป็นปาก!
“เฮ้ย! …อื้อ”
มันทำอย่างที่พูดจริงๆ ให้ตายสิผมรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆ เลยละครับรู้สึกเหมือนช่วงท้องของผมมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่มากมายนี่หรือเปล่าความรักที่สมหวังเหมือนมันปั่นป่วนหัวใจไปซะหมดทุกอย่าง
แรงขยับขับเคลื่อนจากริมฝีปากแสนร้ายกาจทำเอาร่างกายผมต้องเอนรับอย่างเลี่ยงไม่ได้มันแตกต่างจากตอนที่เรามีอะไรกันก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิงเพราะครั้งนี้เหมือนไอ้เอียนจะแตะต้องผมอย่างอ่อนโยนกว่าครั้งไหนๆ เลยด้วยซ้ำไป!
“อื้อเอียน”
มือทั้งสองข้างดึงทึ่งหัวของมันเพื่อระบายความอึดอัดที่ร่างกายจะได้รับทุกอย่างในสมองของผมมันหมุนติ้วๆ ไปหมดแล้วครับ
“พายแรด รักนะจุ๊บ -////////////-
ไอ้เอียนเลื่อนหน้าขึ้นมาใกล้ๆ ผมก่อนจะเรียกชื่อและบอกรักอย่างอ่อนโยนพร้อมทั้งริมฝีปากของมันที่กดทับลงมาบนปากของผมอย่าเย้ายวนหัวใจลิ้นร้อนไล่ต้อนผมไปตามโพรงปากจนแทบหายใจไม่ออก
“อื้ออย่าแกล้งกูได้ไหม?”
“มึงน่ารักจนกูอยากแกล้ง”
“ไอ้เลวอ๊ะ! อื้อ” ด่าไปไม่ทันจบนิ้วเรียวยาวของมันก็สอดแทรกเข้ามาในร่างกายของผมทันทีแถมไม่ให้ผมตั้งตัวอีกต่างหาก ให้ตายสิผมแทบเต้นเป็นเจ้าข้าวเลยทีเดียวมือหนาขยับนิ้วเรียวยาวของตัวเองตามจังหวะไปเรื่อยๆ จนผมต้องกำผ้าปูที่นอนเอาไว้
ปลายลิ้นร้อนๆ ไล่สัมผัสตามร่างกายของผมและหยุดหยอกล้ออยู่กับยอดอกผมอย่างน่าหมั่นไส้ เหมือนว่าไอ้เอียนจะแกล้งผมมากกว่าครับ
“อื้อเมื่อไหร่จะเสร็จ พะพรุ่งนี้มีเรียนนะ” ถ้ามันยังทำทุกอย่างยืดเยื้อไปมากกว่านี้มีหวังพรุ่งนี้ผมคงไม่ได้ไปเรียน
“ยังจะไปอีกเหรอ”
“อื้อ ไปสิ”
“งั้นต้องสร้างประติมากรรมให้เยอะกว่านี้”
พูดจบมันก็กดริมฝีปากลงมาตามร่างกายของผมขบเม้มไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งนิ้วมือที่ขยับไปมาจนผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ร้องครางออกมาดังสนั่นเลยทีเดียว มันน่าอายมากๆ แต่ไอ้เอียนน่าตบที่สุดเลยละครับ
“เอียนอย่าแกล้ง”
……………………..
แฮ่ก แฮ่ก
ทุกอย่างขาดหายไปในห้วงความคิด ผมหอบหายใจถี่ๆ กับสัมผัสที่ได้รับนิ้วเรียวยาวทำหน้าที่ขับเคลื่อนไปเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะถอดนิ้วออกมาจากช่องทางด้านหลังของผมพร้อมทั้งร่างกายที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผมปลีตามองหน้ามันสายตาพล่ามัวเสื้อผ้าที่มันใส่อยู่ก็ถูกสลัดทิ้งจนหมดก่อนที่ร่างสูงจะนั่งลงที่เตียงดึงรั้งเรียวขาของผมให้ขยับเข้าไปหามัน
มือหนายักขาทั้งสองข้างของผมให้ชันขึ้นก่อนจะแยกออกจากกันร่างสูงค่อยๆ ขยับเข้ามาหาผมก่อนที่แกนกายของมันจะสอดแทรกเข้ามาจนผมรู้สึกเจ็บ
“อื้อเจ็บๆ” น้ำตาเล็ดเลยทีเดียวกับสิ่งที่ได้รับ แม้ว่าผมกับมันจะมีอะไรกันมากก่อนแล้วก็ตามแต่มันก็ยังไม่ชินและเจ็บอยู่ดี
จุ๊บ -/////////////////-
ไอ้เอียนก้มลงมากดจูบที่ปากของผมเผื่อช่วยผ่อนคลายก่อนที่มันจะขยับเข้ามาเรื่อยๆ ผมเองก็ได้แต่ร้องเจ็บอยู่ในคอ ริมฝีปากสวยไล่ไปตามใบหน้าของผมและจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
ร่างหนาขยับเข้ามาหาผมเรื่อยๆ ก่อนจะเร่งจังหวะผมกระตุกวูบมือทั้งสองข้างกำเข้าให้กับผ้าปูที่นอนจนแน่น เหมือนไอ้เอียนจะรับรู้ว่าผมเจ็บมันจึงผ่อนอารมณ์ต้องการให้ลดน้อยลงก่อนจะค่อยๆ ขยับอย่างเชื่องช้าอีกครั้ง
“อย่าเกร็งนักสิ กูอึดอัด
“เจ็บเล่า! ลองถูกกดดูบางสิ” ผมเบือนหน้าหนีมันรู้สึกอายยังไงก็ไม่รู้สิครับ เหมือนว่าครั้งนี้เรายอมรับหัวใจของกันและกันแถมทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เหมือนคำสารภาพรักมากกว่าการกระทำแค่ผ่านๆ เพื่อให้มันจบไปในแต่ละวัน
“ครับๆ จะอ่อนโยนที่สุด”
“อื้อเอียน” ยิ่งมันอ่อนโยนผมยิ่งคลั่งถ้าจะเล่นกันขนาดนี้ กลับมาเป็นเอียนเลวเหมือนเดิมเถอะ
อื้อ อ๊า
สวบ!
ไม่รู้ว่าการกระทำพวกนี้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เหมือนว่าร่างกายของผมกำลังอ่อนล้าและอยากพักผ่อนมากๆ รอบเดียวของมันกับการขยับทุกครั้งอย่างเชื่องช้าก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าผมให้ตายอย่างรวดเร็วและหลายครั้ง
ขี้โกงชะมัด!
“ไหนว่ารอบเดียวนานเชี่ยๆ แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ!!!!” ผมร้องถามหอบหายใจถี่ๆ ผมไม่อยากนับเลยว่าตัวเองปลดปล่อยไปแล้วกี่ครั้ง แต่ที่แน่ๆ คนด้านบนกลับขยับกายเข้ามาหาผมเรื่อยๆ ตลอดเวลาเหมือนว่ายังไม่พอและไม่อยากปลดปล่อย
มึงจะอึดอะไรขนาดนั้น กูเหนื่อย -_-*
“หึ! พายแรดยั่วอารมณ์ชะมัด”
“อื้อ อ๊าเอียวเลว ยะอย่าขยับเร็วสิ เจ็บ!!!
แฮ่ก แฮ่ก///
ห้ามไปก็เท่านั้นเพราะมันไม่ฟังผมอารมณ์และความต้องการกำลังมีชัยเหนือทุกสิ่งทุกอย่างจนร่างกายผมแทบฉีกขาดเพราะความต้องการที่ไม่มีวันพอของมัน
อ๊า
“พายแรดรักนะ!!!
ไอ้เอียนเรียกชื่อของผมพร้อมทั้งบอกรักก่อนจะฟุบหน้าลงที่อกผมแฮ่ก แฮ่ก เสียงหอบหายใจถี่ๆ ของมันยังคงดังก้องอยู่ในหัวของผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกเลยเพราะเหนื่อยและอยากนอนพักมากๆ แต่ผมกลับอยากอาบน้ำเพราะไอ้เอียนไม่ยอมป้องกัน
L
“งื้ออออออ! หนาว
ผมร้องครางทันทีเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรเย็นๆ ที่ปะทะเข้ากับเรียวขาของตัวเองพอปลีตาไปมองก็เห็นว่าไอ้เอียนกำลังเช็ดตัวให้ผมอยู่ผมเหนื่อยจนลุกไม่ไหวด้วยซ้ำแม้ว่าสมองสั่งการให้ผมลุกไปอาบน้ำก็ตาม เหมือนว่าไอ้เอียนจะรู้ถึงได้เช็ดตัวให้
พอมันเช็ดตัวให้ผมเสร็จก็ลุกออกไปก่อนจะเดินกลับมาพร้อมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ผมเองก็ปลีตามองมันอยู่ตลอดเวลาเหมือนกันตอนนี้มันเองก็แต่งตัวด้วยชุดนอนเรียบร้อยแล้ว
“นอนซะ” มันบอกผมก่อนจะห่มผ้าให้
“นอนกอดหน่อยสิ หนาว” ผมรั้งแขนมันเอาไว้ร้องครางขยับตัวเข้าไปหามันทันที สุดท้ายผมก็ร้องขอทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คนที่อยากให้ผมกอดคือไอ้เอียนซะมากกว่า
“ฝันหวานนะพายแรด จุ๊บ -/////////////-“ ไอ้เอียนบอกฝันหวานผมก่อนจะจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน ไฟที่หัวเตียงก็ถูกปิดลงทันทีด้วยเหมือนกัน
ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นความจริงใช่ไหม?
ผมกับมันใจตรงกันแล้วใช่หรือเปล่าเกือบสายเกินไปกว่าจะรู้หัวใจตัวเอง!!! ไม่ใช่ผมแต่เป็นมันต่างหากถ้าช้ากว่านี้พรุ่งนี้ผมอาจยอมแพ้และเดินจากไปก็ได้
“เอียนรักมึงนะ วันนี้กูไม่ต้องพูดในใจคนเดียวแล้วใช่ไหม?”
ผมกระซิบถามมันน้ำเสียงแผ่วเบาผมไม่รู้หรอกว่ามันจะได้ยินไหม แต่ที่แน่ๆ ดวงตาทั้งสองข้างของผมมันหนักอึ้งจนอยากจะหลับเต็มทนแล้ว
“ฝันดีนะเอียน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น