PLEASE! 4
วิ่งหนี!!!
รู้อะไรไหม?
ช่วงนี้ผมพยายามหนีไอ้เอียนตลอดเวลาผ่านไปสามวันที่ผมไม่กลับไปคอนโดของมัน
ส่วนที่พักที่ผมเลือกจะไปก็คือบ้านของไอ้พอเพียง
เพราะช่วงนี้พ่อกับแม่มันไม่อยู่บ้านส่วนพี่ชายก็ค้างที่ผับหรือไม่ก็คอนโดโดยส่วนใหญ่…
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหลบหน้ามัน
แต่ผมกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับมันมากกว่า
ดูจากเหตุการณ์วันนั้นไอ้เอียนกำลังโกรธผมมากๆ เลยด้วย!!!
L
งื้อออออออออออ…
ซวยเข้าไปกันใหญ่
พยายามหนีแต่วันนี้ผมก็ดังกลับไปอยู่ดีเพราะมีงานที่ต้องส่งอาจารย์แถมยังอยู่ที่คอนโดของมัน
วันนี้ไอ้เอียนมีเรียนถึงเย็นเพราะฉะนั้นช่วงเที่ยงที่ผมเลิกเรียนก็คือเวลาที่ดีสำหรับการกลับไปเอาของ
“ไอ้พายทำอะไรของมึงเนี่ย?”
เสียงของไอ้พอเพียงดังขึ้นมาหลังจากที่ผมเอาแต่นั่งโขกหัวตัวเองกับโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะ
กับเรื่องราวมากมายที่ทำให้หนักอก
“อยากตาย!”
“เออ! ได้ตายแน่ถ้ามึงยังโขกอยู่แบบนั้น
ดูดิแดงหมดแล้ว…”
ไอ้พอเพียงเดินเข้ามาหาพร้อมกับนิ้วชี้ของมันที่จิ้มลงตรงหน้าผากของผม
“โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย”
“เอ้า! ไอ้โง่ตอนโขกมึงไม่เจ็บหรือยังไง?”
“ไม่! เจ็บตอนมึงจิ้ม…”
“เออ! ไอ้ประสาทแดก
รีบกลับไปเอาของที่คอนโดไอ้เอียนได้แล้ว…”
“อื้อ…”
ผมครางเล็กน้อยก่อนจะเก็บของที่วางอยู่บนโต๊ะ เดินออกไปพร้อมๆ กับไอ้พอเพียง
ตลอดเวลาที่เดินกลับไปขึ้นรถจิตใจผมมันล่องลอยชอบกลจนสายตาได้แต่ก้มลงมองพื้นถนนจนไม่คิดจะเงยหน้าด้วยซ้ำไป
“เวร! เจอจนได้…” เสียงของไอ้พอเพียงดังขึ้นมาผมเงยหน้าไปมองมันแต่สายตาของหมอนี่กลับมองอะไรก็ไม่รู้
“เจออะไรวะ?”
“จะบอกว่าผัวมึง หรือแค่คู่นอนดีละ!!!”
ปากดี! เชี่ยตอกย้ำกันเข้าไป
พอผมมองตามสายตาของมันก็เห็นว่าไอ้เอียนกำลังเปิดประตูรถฝั่งตรงข้ามของมันพร้อมกับร่างเล็กของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
ผมจำได้ว่าไอ้เด็กนี่มันเป็นเดือนคณะผมนี่ครับ
ตัวเล็ก ขาว ปากอมชมพูเป็นผู้ชายที่น่ารักมากๆ
แต่ที่ไหนได้กลับเสร็จไอ้เอียนเลว!!!
“รีบไปเถอะ…” ผมเดินผ่านหน้าไอ้พอเพียงไปที่รถพอๆ กับที่ไอ้เอียนเดินสวนมา
มันไม่คิดที่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำไป
L
ก็แน่ละสิในเมื่อผมไม่มีค่าอะไรให้มันต้องสนใจอยู่แล้วนี่
ไอ้พอเพียงเดินมาใกล้ๆ ก่อนจะตบบ่าผมเพื่อให้กำลังใจ
ขึ้นไปนั่งบนรถน้ำตาก็ไหลทันที…
“กูคิดถึงแต่มัน แต่ไอ้เลวนั่นกลับควงคนอื่น!”
“ก็มึงโง่ไปรักมันเอง…” ด่าเจ็บได้อีก
“เออ! โง่มากด้วยที่ไม่ยอมเลิกรักมันสักที
ฮือๆๆๆๆ” ผมร้องไห้เหมือนเด็กเลยละครับ สักพักก็หยุดร้องแล้วนั่งเงียบ พอๆ
กับที่รถคันนี้เข้ามาจอดหน้าคอนโด
“กูรอข้างล่างนะ จะพารถไปจอดเสร็จแล้วโทรมาละกัน”
“อืม!”
ผมตอบรับมันก่อนจะเดินลงจากรถ เข้าไปข้างในกดลิฟต์ไปชั้นที่ต้องการ… ภาพของไอ้เอียนกับเด็กคนนั้นกลับทำให้หัวใจผมเต้นแรงทุกทีเลยละครับ
ผมเหนื่อยกับมันมากๆ
ขนาดผมพยายามที่จะหนีมันสุดชีวิตแต่วันนี้ผมกลับได้เจอมันจนได้
L
แอด…
ประตูห้องถูกผมเปิดออก
วินาทีที่ขาทั้งสองข้างก้าวพ้นเข้ามาสภาพห้องเหมือนไม่ใช่คนอยู่ ทั้งรกทั้งสกปรกแถมข้าวของก็กระจัดกระจายไปหมด
โดยส่วนใหญ่จะเป็นของผม
“โกรธขนาดนี้ ไม่เผาของกูทิ้งไปเลยละ!”
ผมเก็บของจำเป็นบางอย่างของตัวเองไปวางบนโต๊ะก่อนจะเดินไปหยิบของที่จำเป็นออกมา
รวมไปถึงงานที่ผมต้องส่งอาจารย์ด้วย
ห้องนอนที่ว่ารกพอออกมาที่ห้องครัวก็รกไปกันใหญ่… ผมเดินเข้าไปก่อนจะเปิดตูเย็นแต่เสียงที่เห็นกลับเป็นอาหารสำเร็จรูปมากมายที่ถูกแช่เย็นเอาไว้
ผมไม่อยู่ไม่มีใครทำอะไรให้กินสินะถึงได้ซื้อของกินแบบนี้มามากมาย
ยิ้มขำกับตัวเองอย่างน้อยตอนนี้ผมก็เกือบไม่มีค่าแล้ว
ถ้าผมไม่อยู่สักคนมันก็คงอยู่ได้!!!
ปิดตู้เย็นลงก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง
วันศุกร์ที่จะถึงผมต้องไปทัศนะศึกษาของคณะเสื้อผ้าและสิ่งจำเป็นจึงถูกจับยัดใส่กระเป๋าทันที
ผมรีบเก็บของสุดชีวิตแม้จะรู้ว่าไอ้เอียนคงยังไม่กลับมาก็ตาม
หลังจากที่เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงหันหลังรีบเดินออกมาจากห้องแต่ทว่าสิ่งที่ผมเห็นกลับทำให้ทุกอย่างหยุดลง
ผมกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทันกับร่างสูงของไอ้เอียนที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูที่ผมเปิดค้างเอาไว้
จ้องมองด้วยสายตาที่อธิบายไม่ถูก… มันกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วทำไมไอ้พอเพียงถึงไม่โทรมาบอกผม
แต่จะว่าไปมือถือผมพังไปแล้วนี่ครับ L
“จะไปไหนเหรอ?”
ผมเกลียดน้ำเสียงที่อธิบายไม่ออกว่าตอนนี้คนพูดกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
แต่ผมว่ามันคงกำลังโกรธสุดๆ ไปเลยละครับ
“ระ… เรื่องของกู!”
ทำไมเสียงผมต้องสั่นด้วยละครับ
ผมอยากวิ่งหนีมันออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุดแต่ไอ้เอียนกลับยืนขวางอยู่
“หึ! หนีกูมากี่วันแล้วละ…”
มันแสยะยิ้มที่มุมปากตั้งคำถาม
“กูไม่ได้หนี แต่กูคิดว่าไม่มีความจำเป็นจะกลับมาก็เท่านั้น… ช่วงนี้งานกูยุ่งอีกอย่างกูก็มีงานที่ต้องทำร่วมกับไอ้พอด้วย!” ผมแถไปเรื่อยทั้งๆ ที่ความจริงก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมกำลังหนี
“งั้นเหรอ? แล้วเก็บกระเป๋าทำไม…”
“วันศุกร์นี้กูจะไปทัศนะศึกษา ไม่อยากกลับมาเก็บของที่ห้องอีก”
กว่าจะขุดแต่ละคำออกมาพูดกับไอ้เอียนทำไมมันยากลำบากขนาดนี้นะเนี่ย
หมับ!!!
“หึ! มึงคิดว่ากูจะเชื่อเหรอ…”
จู่ๆ
ไอ้เอียนก็ตรงเข้ามาหาผมกระชากแขนทั้งสองข้างจนรู้สึกเจ็บกระเป๋าที่ผมสะพายไว้ด้วยแขนข้างเดียวก็ตกลงไปกองกับพื้นพร้อมๆ
ทั้งงานที่ถืออยู่ ผมอึ้งจนพุดอะไรไม่ออกไอ้เอียนตอนนี้น่ากลัวมากๆ เลยละครับ
“มันเรื่องของมึง ปล่อยสิกูเจ็บ!”
ผมพยายามจะเรียกสติของตัวเองให้กลับมาและดิ้นให้หลุดจากฝ่ามือหนาของมัน
แต่ไอ้เอียนกลับบีบแน่นกว่าเดิมจนผมเจ็บ
“กูเคยบอกแล้วใช่ไหม ร่างกายนี้เป็นของกู… สามวันที่มึงวิ่งหนีกับคืนเดียวที่มึงต้องร้องครางรับรองว่าคุ้ม!!!”
“ไอ้เหี้ย! กูเป็นคนมีชีวิตมีหัวใจ
กูเจ็บได้กูร้องไห้เป็น… มึงเลิกทำเหมือนกูเป็นสิ่งของสักที!
ฮือๆ” น้ำตาไหลออกมากับคำพูดมากมายของตัวเองแต่แววตาของไอ้เอียนกลับไม่สำนึกผิดกับคำพูดของมันเลยสักนิดเดียว
“เรื่องของมึง เท่าที่กูรู้คือมึงเป็นของกูคนเดียว…”
“กูเกลียดมึง กะ… อื้อ…”
ทุกอย่างขาดหายไปในทันทีไอ้เอียนก้มลงมาจูบปากผมอย่างรุนแรงมันบดขยี้จนผมรู้สึกเจ็บ
ทั้งกัดและขบเม้มถือดีมากมาย
จนผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับสัมผัสที่น่ารังเกียจนี้จากมันเลยละครับ
มันพยายามจะสอดแทรกลิ้นเข้ามาแต่ผมขัดขืนสุดชีวิตจนมือข้างหนึ่งบีบเข้าที่ปลายคางของผมจนรู้สึกเจ็บและเผยอ้าปากไป
“อ๊ะ เจ็บ… อื้อ”
สุดท้ายไอ้เอียนก็แทรกลิ้นของมันเข้ามาในปากผมจนได้
มันดูดกลืนจูบซับจนผมชาไปหมดทั้งปากลิ้นร้อนเกี้ยวรัดจนผมทรมานกับสัมผัสเร้าร้อนที่ขมปี่นี้เลยละครับ
น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
ไอ้เอียนผลักผมจนล้มลงไปกองกับเตียงกว้างก่อนที่ร่างของมันจะตามเข้ามานั่งคร่อมผม
“พอแล้ว กูเจ็บ…”
“กูบอกแล้วว่าสามวันที่มึงหนี กับวันนี้วันเดียว…” พูดจบมันก็ก้มลงมาจูบผมอีกครั้งและหลายๆ
ครั้งจนตอนนี้ปากผมบวมเจ่อไปหมดแล้ว
มันไล่ขบเม้นตามต้นคอของผมจนรู้สึกเจ็บเสื้อที่ใส่อยู่ก็ถูกกระชากจนกระดุมหลุดออกหมด
วันนี้มันป่าเถื่อนกับผมเหลือเกิน!!!
“ฮือๆ เอียนกูเจ็บ พอสักที…” ผมพยายามขัดขืนและผลักมันให้ออกไปห่างๆ
แต่ไอ้เอียนกลับไม่ฟังขบเม้นร่างกายผมจนทั่ว
“เจ็บ… อ๊ะ!
อื้อ…”
แต่สุดท้ายผมกลับกลายเป็นคนน่าไม่อายที่ร้องครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อสัมผัสจากปลายลิ้นของมันแตะแต้มลงตรงยอดอกทั้งสองข้างหยอกล้อเดียวฟันแหลมคมของมันจนผมเสียวซ่านไปหมดทั้งตัว
มือทั้งสองข้างไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากดทับหัวของมันตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่มันคือเหตุการณ์ที่น่าอับอายมากๆ เลยทีเดียว
“ทั้งแรดและร่าน ต้องการแต่อยากอวดเก่ง… ของมึงมันเริ่มแข็งแล้วสินะ”
ไอ้เอียนด่าผมด้วยวาจาที่เจ็บปวดมือทั้งสองข้างกระชากกางเกงผมจนหลุดออกตามด้วยปราการด่านสุดท้าย
มือหนาจับไปที่น้องชายผมอย่างถือดีมันขยับไปมาจนผมรู้สึกเจ็บเหมือนจะฉีกขาด
“อื้อ… ไอ้เอียนเลว!” ผมร้องครางอย่างสุขสม ไอ้เอียนก้มลงไปขบเม้มที่เรียวขาทั้งสองข้างผมผมจนรู้สึกเจ็บมันกำลังสร้างประติมากรรมบนร่างกายผมด้วยรอยแดงๆ
มากมายพวกนี้
ผมปลีตามองมันที่กำลังขบเม้มร่างกายผมด้วยหยาดน้ำตา
ก่อนที่ร่างสูงจะลุกขึ้นยืนมันถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วเดินกลับมาที่เตตียงกระชากขาทั้งสองข้างของผมแยกเรียวขานี้ออกก่อนจะจ่อของมันมาที่ช่องทางรัก
ตอนนี้ผมยอมรับว่ากลัวมากๆ
เพราะเป็นครั้งแรกที่มีอะไรกับมันและลัดขัดตอนไปมากมาย
ผมกลัวจนต้องขยับหนีแต่มันกลับรั้งเรียวขาผมเอาไว้พร้อมทั้งกระแทกเข้ามาทีเดียวจนมิด
“อ๊า/// เจ็บ…
ไอ้เหี้ย! เจ็บ อะ อึก… ฮือๆๆ”
มือทั้งสองข้างกำผ้าปูที่นอนเข้าหากันจนแน่นส่ายหัวไปมากับความรู้สึกเจ็บและทรมานที่ได้เจอ
ครั้งนี้ไอ้เอียนโหดร้ายและรุนแรงจริงๆ ด้วย
“อื้อ… แน่นชิบ”
มันครางออกมาก่อนที่จะขยับกายเรื่อยๆ จนความเจ็บปวดของผมเพิ่มมากขึ้น
“เจ็บ! พอ หยุด…”
ผมพยายามผลักมันให้ออกไปแต่กลับเป็นชนวนที่ทำให้ไอ้เอียนกระขยับเข้ามาหาผมเรื่อยๆ
และเร็วขึ้น
“อย่าเกร็งสิ กูก็ทรมาน…” มันก้มลงมากระซิบข้างหูผมก่อนที่จะกัดเข้าให้
ความเสียวซ่านที่ได้เจอกลับทำให้ผมลืมความเจ็บไปชั่วขณะเลยทีเดียว
“เจ็บ…”
แต่สุดท้ายมันก็กลับมา
ไอ้เอียนเลื่อนหน้าเข้ามาหาผมก่อนจะกดจูบหนักหน่วงเหมือนอยากช่วงชิงจิตวิญญาณของผมไปเลยก็ว่าได้
สุดท้ายผมก็ต้องยอมเพราะผมห้ามมันไม่ได้
แรงกระแทกมากมายตามจังหวะเร็วบ้างช้าบ้างและเนิ่นนานจนผมกลัวว่ามันจะทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ
อ๊า///
ผมไม่อยากจะนับแล้วด้วยซ้ำว่ามันคือครั้งที่เท่าไหร่ที่ได้ปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นนี้ออกมาและทุกครั้งไอ้เอียนก็ไม่เคยถอดถอนของมันออกจากด้านหลังของผมเลย
แถมมันยังปล่อยในร่างกายผมจนเนื้อตัวเหนียวไปหมดแล้ว…
ทุกอย่างเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้ผ่านไปก็โมงแล้วก็ไม่รู้
ครั้งนี้มันไม่ได้ปกป้องถ้าเทียบกับครั้งอื่นๆ ที่เรามีอะไรกัน… แถมมันไม่เคยปล่อยในตัวผม มันเจ็บและโคตรทรมานเหลือเกิน!!!
L
ผมพยายามห้ามให้มันหยุดแต่กลับกลายเป็นว่าคำพูดของผมสั่งให้ผมได้สติและกระแทกเข้ามาอีกเรื่อยๆ
อ๊า////
แฮ่กๆๆๆ เสียงหอบหายใจถี่ๆ
ทั้งของผมและมันดังก้องไปทั้งห้องกับบทรักที่หาบทสรุปไม่ได้
ครั้งที่เท่าไหร่ผ่านไปเมื่อมันหายเหนื่อยก็จะกระทำต่อไปอีกเรื่อยๆ
จนผมไม่มีแรงจะทำอะไรแม้แต่ห้ามมันแล้วละครับ
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเทียงคืนหลังจากบทสรุปสุดท้ายจบลง ไอ้เอียนหลับอยู่ข้างๆ
มันกอดผมเอาไว้จนแน่นแถมยังไม่ยอมถอดแกนกายออกไปอีก
ผมขยับหนีก่อนจะเป็นฝ่ายลุกออกมาแม้การกระทำเมื่อกี้อาจเสี่ยงที่มันจะตื่นแต่ถ้าผมยังนอนอยู่เฉยๆ
ทุกอย่างมันก็จะเดินไปเรื่อยๆ เมื่อไอ้เอียนต้องการ
ผมก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่พื้นของตัวเองแม้ว่าเสื้อนักศึกษาตัวนี้สภาพจะดูไม่ได้แล้วก็ตาม
น้ำตาไหลจนไม่มีให้ไหลแล้วละครับ…
หมับ!
ในขณะที่ผมกำลังก้มเก็บเสื้อผ้าอยู่แขนข้างหนึ่งก็ถูกกระชากให้กลับขึ้นไปบนเตียงร่างทั้งร่างนอนทับอยู่บนร่างเปลือยเปล่าด้านล่างของไอ้เอียน
มันจ้องหน้าผมไม่พูดอะไรผมเองก็ด้วยยันตัวลุกขึ้นนั่งบนตัวมันอยากจะขัดขืนและลงมาแต่ก็ทำไม่ได้
จนสุดท้ายผมก็เลือกเบือนหน้าหนี
แต่ไอ้เอียนกลับรั้งใบหน้าผมให้หันกลับไปมองมัน…
“เจ็บงั้นสิ…”
ผมไม่เข้าใจว่ามันจะถามแบบนี้ทำไม ทั้งๆ
ที่ผมก็บอกไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าเจ็บแต่มันก็ไม่เคยฟัง…
“กูชินแล้ว!”
ชินจนหัวใจด้านชาแต่กลับเจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกมันสัมผัส…
“หึ! อวดเก่ง…”
จบคำพูดของมันไอ้เอียนก็เอาแต่มองหน้าผม
และผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยเหมือนกันความเงียบก้าวเข้ามา
สุดท้ายผมก็ทนไม่ได้จนต้องตั้งคำถาม…
“เอียน! กูถามอะไรหน่อยสิ…”
“อะไร?” มันเปล่งเสียงออกมา แต่ผมกลับเงียบไปเสียดื้อๆ กลัวคำถามของตัวเอง
!!!!
“อะไรวะ?” มันขึ้นเสียงเล็กน้อย ผมจ้องหน้ามันและถามขึ้นในที่สุด
“เมื่อไหร่มึงจะเบื่อกูวะ!!!”
“หือ!”
มันแค่อุทานออกมาเท่านั้น แต่คำตอบที่ผมอยากได้ยินกลับไม่มี…
คำถาม…
ที่ต้องการคำตอบ
แต่คนที่ต้องตอบ… กลับแสดงสีหน้านิ่งเฉยราวกับว่าไม่ได้ยินประโยคเมื่อกี้?
เจ็บดี!!!
ตอบมาสักนิดว่าเมื่อไหร่ เพราะกูจะได้ทำใจถูก…
“ถามทำไม…”
หลังจากที่เราสองคนเงียบไปอีกครั้งมันก็ตั้งคำถามกับผมบ้าง
“กูอยากรู้!”
“ถึงกูเลิกเอามึง แต่กูก็เลิกเป็นเพื่อนกับมึงไม่ได้หรอกนะ… เพราะกูเคยชินที่จะมีมึงอยู่ข้างๆ แบบนี้ไปซะแล้วไอ้พาย!”
มันกระชากแขนของผมจนล้มลงไปที่อกกว้างเปลือยเปล่า
กอดวับผมอย่างอ่อนโยนลมหายร้อนวูบวาบของมันรินรสใบหน้าของผมน้ำตาภายนอกไม่ปรากฏแต่ในหัวใจมันร้องจนจะท่วมอยู่แล้ว
“ถ้าเกิดวันไหนที่มึงมีแฟนละ?” ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะเจ็บแต่ก็อยากถาม
“เด็กคนนั้นเมื่อเที่ยง…”
“น้องเค้าแค่ขอติดรถกูไปเท่านั้น!” ผมจะเชื่อมันดีไหม?
แต่ผมอยากเชื่อเพราะตอนนี้ไอ้เอียนยังไม่มีใครและผมยังมีหวังหรือเปล่า
แต่มันกลับบอกว่าเลิกเป็นเพื่อนกับผมไม่ได้!!!!!
แล้วมันจะรักผมได้งั้นเหรอ ในเมื่อเราเป็นเพื่อนกัน…
“แล้วถ้ากูมีแฟน…” มันรั้งร่างผมให้เงยหน้าไปสบตามันก่อนที่จะตอบคำถาม
“ถ้ากูยังไม่เลิกเอา มึงก็ห้ามมีใคร? ถ้ากูมีแฟนกูยังอยากเอา มึงก็ต้องช่วย…”
“เห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า สมองมึงคิดแต่เรื่องแบบนี้!!!”
ถึงน้ำตาจะไม่ไหลแต่น้ำเสียงของผมมันเบาจนแทบจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำไป
“เพราะมึงทำตัวน่ารัก จนกูห้ามใจไม่ไหว…”
คำพูดทีเล่นทีและรอยยิ้มที่หาความจริงจังของมันไม่ได้ ผมเจ็บปวดจังเลย…
“หึ! ปล่อยได้แล้วกูจะไปอาบน้ำ”
ผมผลักมันออกก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแม้จะเจ็บจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแต่ผมก็คงต้องเดินไปอาบน้ำอยู่ดี
พอประตูห้องน้ำจะปิดเมื่อหนาข้างหนึ่งกลับดันมันเอาไว้
“กูอาบด้วย”
ถึงจะปฏิเสธมันก็ไม่ยอมผมจึงปล่อยไป
เราสองคนก็แค่อาบน้ำเท่านั้นเพราะทั้งผมและมันคงไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะทำอะไรแล้ว
แม้ไอ้เอียนจะยังมีเหลืออยู่บ้างแต่มันคงไม่คิดจะทำเพราะเห็นสภาพของผมตอนนี้ ผมเองก็เพิ่งสังเกตเพราะในห้องมันมืดแต่ในห้องน้ำดันสว่าง
มองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ… ต้นคอ ลำตัวด้านหน้าด้านหลังผมไม่รู้ว่ามีไหม
เรียวขาทั้งสองข้าง ล้วนแล้วแต่มีจ้ำแดงๆ เต็มไปหมด
“ประติมากรรมชั้นยอดแฮะ สภาพแบบนี้คงไปเรียนไม่ได้” ไอ้เอียนกอดเอวผมจากด้านหลังก้มลงจูบที่ซอกคอก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวผมเอาไว้
มันลากผมออกไปจากห้องน้ำและพาไปแต่งตัว
“พรุ่งนี้ไม่ไป แต่วันศุกร์กูต้องไปทัศนะศึกษา”
ผมบอกปัดในขณะที่มันหาเสื้อผ้ามาใส่ให้
ผมกับมันมักจะทำแบบนี้เสมอจนไอ้เอียนเคยชินสินะ…
“ปฏิเสธไปสิ!”
“มีคะแนน ไม่งั้นกูไม่ผ่านตัวนี้” ผมบอกเสียงแผ่วพรุ่งนี้ก็วันพฤหัสฯ
แล้วแกแค่วันเดียวรอยพวกนี้คงหายไม่ทัน
“ไม่บอกกูแต่แรกจะทำให้น้อยลง…”
“ตอนนั้นมึงโกรธ ถึงบอกมึงก็ไม่ฟัง!”
หลังจากที่มันแต่งตัวให้ผมเสร็จหน้าที่ต่อไปผมก็ต้องหาเสื้อผ้ามาใส่ให้มันบ้าง
แต่ที่ไหนได้กลับหาไม่เจอ “เสื้อผ้ามึงละ?”
“กูยังไม่ได้ซัก ก็มึงไม่อยู่ตั้งสามวันไม่มีคนซักให้…”
“มึงก็หัดซักเองบ้างสิวะ”
ผมว่ามันเหนื่อยๆก่อนจะหาชุดนอนของตัวเองมาให้มันใส่
ผมตัวเล็กกว่ามันเพราะฉะนั้นใส่ขาสั้นไปละกัน “มีแต่กางเกง เสื้อไม่ต้องใส่”
“อือ… นอนกอดมึงคงอุ่น”
มันว่าก่อนจะรับกางเกงไปใส่ หลังจากแต่งตัวเสร็จผมกับมันก็เดินกลับมาที่เตียง
แต่สภาพห้องตอนได้สติไม่น่าพักผ่อนเลยครับ
“ทำไมมึงปล่อยให้ห้องมันรกแบบนี้!!!”
“เผื่อวันไหนมึงกลับมาจะได้ทำความสะอาด แต่ที่ไหนได้มึงกลับหายไปตั้งสามวัน
กูทำจนเละเลยไม่อยากเก็บ” มันเกาะหัวเป็นเชิงไม่อะไรมากกับพฤติกรรมของตัวเอง
ผมส่ายหัวก่อนจะเดินไปหยิบบ้างอย่างให้เข้าที่ แต่ไอ้เอียนกลับมารั้งแขนผมซะดื้อๆ
“นอนเถอะง่วงแล้ว ตื่นมาพรุ่งนี้ค่อยช่วยกันเก็บ!”
ผมอยากจะปฏิเสธเหลือเกินแต่ไอ้เอียนกระกระชากผมให้เดินตามมันไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงซะแล้ว
มันขยับเข้ามากอดจะรั้งร่างผมเข้าไปกอดเอาไว้
“กอดกูด้วยสิ มันหนาว…” มันบอกหลังจากที่นอนกอดผมแต่ผมกลับไม่กอดมันตอบ
“ผ้าห่มก็มี” ผมเถียง
“ไม่อุ่นเท่ามึงกอด… ไม่มีมึงให้กอดสามวันที่ผ่านมานอนไม่หลับเลย!!”
เหมือนน้ำเสียงมันกำลังอ้อนผมอยู่ จนสุดท้ายผมยอมและกอดตอบมันกลับไป
มึงรู้อะไรไหมเอียน กูมีความสุขที่มึงอ่อนโยนเหมือนเดิม
แต่กูเจ็บเพราะการกระทำทุกอย่างมึงแสดงออกมาแบบเพื่อน…
“ฝันดีนะพายแรด… กูขอโทษ!”
L
ผมได้ยินที่มันพูด แต่ทำเหมือนไม่ได้ยินแสดงให้มันรู้ว่าผมหลับไปก่อนแล้ว
ผมเจ็บนะไม่ใช่ไม่เจ็บ…
ถ้าหยุดรักมันได้วันไหน คงจะดี!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น