PLEASE!
11
ครอบครัวสุขสันต์
เอียน
ใครกันที่ไม่รู้ใจตัวเองจนเกือบทำร้ายคนที่รักลงไป…
ถ้าไอ้เต็มไม่ด่าและไอ้พอไม่สวดซะยับป่านนี้ผมคงไม่ได้นอนกอดไอ้พายแรดแบบนี้ใช่ไหม?
ผมเพิ่งรู้ว่าความรักมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เอาง่ายๆ คือผมเพิ่งรู้ใจตัวเองว่ารักไอ้พายก็ตอนที่มันทำตัวห่างเหินใส่นี่แหละบวกกับคำบอกเล่าจากปากของไอ้เต็มและไอ้พอไม่งั้นผมคงเป็นควายอย่างที่พวกมันว่าจริงๆ
นั่นแหละ
สองคนนี้รู้มาตลอดว่าไอ้พายแรดรักผม…
ก็มีแต่ผมนี่แหละที่ทำร้ายมันตลอดและไม่รู้ตัวสักที แต่ในเมื่อผมรู้ตัวแล้วก็อย่าหวังว่าจะยอมยกมันให้ใครเลยครับ
ถ้าผมรัก…
ผมก็จะรักให้ถึงที่สุด
J
“ตื่นได้แล้ว
ใครกันบอกกูว่าจะไปเรียนเช้า”
ผมปลุกมันด้วยการก้มลงไปกดจูบที่ริมฝีปากเล็กอย่างนุ่มนวล
ให้ตายสิชีวิตผมนะไม่เคยทำแบบนี้กับใครด้วยซ้ำไปกับมันนี่แหละคนแรกและคนเดียวเรื่อยมา
“อื้อ… รำคาญ!!!”
ไอ้พายว่าก่อนจะขยับตัวออกห่างจากผมและพลิกไปอีกด้านหนึ่งทันที ผมมองมันยิ้มๆ
ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ… วันนี้ผมไม่มีเรียนรอก็แต่ว่าไอ้พายมันจะยอมตื่นไปเรียนไหม?
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมก็ลุกไปนั่งที่ปลายเตียงพร้อมทั้งลงมือทำแผลให้ตัวเองแบบลวกๆ
เพราะผมทำไม่ถนัดและไม่อยากปลุกไอ้พายมัน…
พอทำแผลเสร็จผมก็เดินออกไปนอกระเบียงเพื่อดูแลต้นกล็อกซิเนี่ยที่ซื้อมาเพราะผมต้องทำรายงานส่งอาจารย์ประจำวิชา…
แล้วเมื่อไหร่มันจะออกดอกเพราะพี่ที่ร้านบอกมาว่าต้นมันจะขนาดเล็กเอาไว้ประดับบ้านได้สวยดีแถมวิธีแยกเพื่อขยายพันธุ์ก็ง่ายนิดเดียวด้วย
“เฮ้ย!
เก้าโมง…”
ผมเอียงคอกลับไปมองที่เตียงก็เห็นว่าไอ้พายรีบลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปแต่ท่าทางของมันก็บอกได้ชัดเจนว่าเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อคืนมากแค่ไหน
ผมนั่งขำกับท่าทางของมันก่อนจะหันกลับมาสนใจต้นกล็อกซิเนียตรงหน้าทันที
ส่ายหัวไปมากับท่าทางที่ได้เห็นของไอ้พายแรด… ไม่ยักจะรู้ว่าความรักจะทำให้โลกนี้สดใสขึ้นแฮะ
ป๊าบ!!!!
หลังผมรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างฟาดเข้าให้เต็มๆ
พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นไอ้พายที่มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวยืนจ้องหน้าผมโกรธจัดเลยทีเดียว
“เจ็บ!”
“ไอ้เหี้ย!
ทำไมรอยเต็มไปหมดแบบนี้วะ หนักกว่าครั้งก่อนอีก… งื้ออออออ! กูจะไปเรียนนะ”
ไอ้พายตีสีหน้างอแงใส่ผมก่อนจะเดินหายเข้าห้องไปผมเลยเดินตามมันกลับเข้าไปด้วย
“สายแล้วไม่ต้องไป”
“มึงทำกูเสียนิสัยแถมการเรียนยังเสียอีกต่างหาก
เทอมนี้กูจะจบไหม?” ไอ้พายหันมาตะหวาดใส่หน้าผมก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวผมเลยต้องเดินตามมันไป
“ถ้าไม่จบ!
ค่าใช้จ่ายที่เหลือเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง!!!”
“ป๋าใจใหญ่
จะบอกกูว่ารวยสินะ” ไอ้พายเงยหน้าขึ้นมามองผมท่าทางหมั่นไส้มากๆ เลยครับ
แต่ขอบอกว่าท่าทางของมันน่ารักมากเลยทีเดียว
“เปล่าหรอก
ก็แค่เมียคนเดียวคงไม่ทำให้กูจนลง!!!”
“ไอ้สัด!”
ผมว่ามันเขินนะที่พูดแบบนั้นออกมา
ผมยื่นมือไปขยี้หัวมันที่นั่งหาเสื้อมาใส่ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากกับท่าทางแบบเด็กๆ
“จัดกระเป๋าให้ด้วยไม่ต้องเยอะ
เดี๋ยวเย็นนี้เราต้องบินกลับเชียงใหม่”
“เดี๋ยวสิ
ทำไมไม่จัดเอง!”
“หน้าที่เมีย!!!!!!”
“ไอ้ห่าเอียน
ใครเมียมึงไม่ทราบ…”
ไอ้พายแรดตะโกนออกมาเพราะผมเดินหนีมันมาด้านนอกซะก่อนแล้ว
ถึงบอกว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้เพราะผมกินมันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสี่แล้วละครับ
!!!
พาย
เชียงใหม่…
ผมกำลังนั่งอยู่ในรถของบ้านไอ้เอียนซึ่งลุงแชมป์เป็นคนขับรถมารับพวกเราสองคนแถมไอ้บ้านี่ดันบอกลุงเค้าไปว่าไม่ต้องไปส่งผมที่บ้านเพราะผมจะไปค้างบ้านมันทั้งๆ
ที่ผมเพิ่งโทรไปบอกพ่อมา
แต่พอไอ้เอียนโทรไปขอให้ผมนอนค้างบ้านมันพร้อมกับขออ้างพ่อก็อนุญาตแบบไม่ต้องคิดเลยละครับ
ตอนนี้ผมเลยต้องนั่งหน้างอขยับตัวออกห่างจากมันแทน!
“จะงอนอะไรนักวะ”
มันขยับเข้ามาใกล้แต่ผมกลับตีตัวออกห่างและทำเป็นไม่สนใจมัน
ไอ้เอียนก็เลยเลิกสนใจผมบ้างก่อนจะหยิบโทรศัพท์มันขึ้นมาเล่นเกมส์…
ให้ตายสิไอ้บ้า!
จะให้ผมไปบ้านมันตอนนี้เนี่ยนะผมกลัวว่าคนอื่นจะสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเรานะสิ
ก็ไอ้นี่พอบอกรักผมไปมันก็ทำตัวติดผมซะเหลือเกิน…
“ลุงแชมป์แวะตลาดด้วยผมจะซื้อของ”
เสียงไอ้เอียนดังขึ้นมาผมเหล่ตาไปมองมันเล็กน้อย
สักพักลุงแชมป์ก็ขับรถมาจอดหน้าตลาดไอ้เอียนก็เดินลงไปแต่มันไม่ยักจะลากผมไปด้วยแฮะ
“มันจะซื้ออะไรเหรอครับลุง”
ผมหันไปมองหน้าลุงแชมป์ท่านก็มองผมผ่านกระจกก่อนจะตอบคำถาม
“คงจะซื้ออาหารให้เจ้าชวนชมมั้งครับ”
“หื้อ!!!”
ผมอุทานแปลกใจเล็กน้อยก่อนที่เสียงประตูจะเปิดออกพร้อมทั้งร่างสูงของไอ้เอียนที่เดินขึ้นมานั่ง
มันไปแค่แปบเดียวเท่านั้น… ผมเหล่ตาไปมองก็เห็นว่าไอ้เอียนลงไปซื้ออาหารแมวมาถุงใหญ่มากเจ้าชวนชมที่ลุงแชมป์บอกท่าทางจะเป็นแมวที่บ้านมันแน่นอน
!!!
หมับ!
“พี่พาย!!!!!!!!!”
เสียงของน้องเอมเรียกชื่อผมซะดังลั่นบ้านก่อนที่เด็กน้อยจะวิ่งเข้ามากอดจนผมแทบจะล้มลงไปนั่งกองกับพื้นแนะ
“เอมเอาอาหารไปให้ไอ้ชวนชมแกเลย
และห้ามมันเข้าห้องฉันเด็ดขาด!”
แสดงว่าตอนที่ไอ้เอียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นคงจะคุยกับน้องเอมแน่นอน
แต่ที่แน่ๆ ห้ามชวนชมเข้าห้องของมันนี่คืออะไร
“ขึ้นบ้านได้แล้ว”
“ขึ้นไปก่อนสิ
กูจะไปเอากระเป๋า…”
ผมดึงแขนตัวเองกลับมาก่อนจะมุดหัวเข้าไปในรถและหยิบกระเป๋าเป้ออกมา
มองหน้าไอ้เอียนที่ไม่ยอมเดินขึ้นไปก่อนผมเลยต้องจำยอมตามมันไปข้างๆ
ก็มีน้องเอมเดินจับมือขึ้นไปด้วย
“ไม่ได้เจอกันนานเลยน่ะหนูพาย”
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”
ผมยกมือไหว้พ่อกับแม่ไอ้เอียนทันทีที่ท่านเอ่ยทักทาย
แม่ของไอ้เอียนมักจะเสียงผมว่าหนูพายพอๆ กับพ่อของมันเลยละครับแถมพวกท่านยังชอบล้อว่าผมสวยเหมือนผู้หญิง
=_=!!!
“เจอกันมื้อเย็นน่ะครับ
ผมสองคนขอพักผ่อนก่อน”
“เฮ้ย!”
ผมไม่ทันได้พูดอะไรไอ้เอียนก็ลากผมขึ้นห้องมันไปทันทีแล้วแบบนี้จะไม่ให้ใครสงสัยได้ยังไง
แต่ก็นะเพราะถึงยังไงพวกเค้าก็ชินกับเราสองคนไปซะแล้วคงไม่มีใครสงสัยอะไรหรอกมั้ง
ผมถูกมันลากจนถึงบนห้องจะบอกอะไรให้ว่าห้องของไอ้เอียนก็กว้างพอๆ
กับที่คอนโดเพราะในแถบนี้บ้านมันก็ดูจะรวยและหลังใหญ่สุดท้าย…
ไอ้เอียนโยนกระเป็นเป้ของมันขึ้นไปไว้บนเตียงก่อนที่จะตัวจะนั่งลงและยกฝ่าเท้าขึ้นมาสีหน้าของมันเหมือนเจ็บปวดมากๆ
ผมเห็นว่าที่แผลมีเลือดไหลออกมาด้วยครับ…
“สมน้ำหน้า!!!!”
“พายทำแผลให้หน่อย”
มันเงยหน้าขึ้นมาแววตาอ้อนวอนผมมากๆ เลยครับ
ขอบอกว่าเวลานี้ไอ้เอียนทำตัวน่ารักขึ้นมากแม้ว่าผมจะไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนสักเท่าไหร่ก็ตาม
“เออ!”
ผมเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ในห้องของมันมาก่อนจะเดินกลับมานั่งยองๆ
ตรงหน้าไอ้เอียนแกะผ้าพันแผลเก่าออกสภาพเยินแบบนี้ท่าทางเมื่อเช้ามันจะทำแผลใหม่เองแน่นอน
“แสบหน่อยนะ…
อย่าให้โดนน้ำบ่อยนักสิเดี๋ยวแผลมึงก็เน่าพอดี”
ถึงผมจะแอบบ่นและแสดงท่าทางรำคานมันออกไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่ใจจริงๆ
ผมโคตรจะเป็นห่วงมันเลยละครับชอบทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวอยู่เรื่อยเลย
จุ๊บ
-////////////////////-
ไอ้เอียนมันก้มลงมาตรงหน้าผมก่อนจะกอดคอแล้วกดริมฝีปากหนักๆ
ลงมาที่หน้าผากของผมเหมือนว่ามันกำลังอ้อน
กูเขิน…
“สัด!”
ผมด่ามันกลับไปเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินไอ้เอียนเองก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากจะยิ้มขำกับท่าทางของผม
พอทำแผลให้มันเสร็จผมก็พากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บแล้วหยิบกระเป๋าทั้งของผมและก็มันไปเก็บ
ที่จริงกระเป๋าไอ้เอียนไม่มีอะไรมากไปกว่าของๆ ผมเลยครับ เพราะทุกอย่างผมจับยัดใส่กระเป๋ามันหมดส่วนเสื้อผ้าบ้านมันเยอะไม่ต้องขนกลับมาหรอก
หมับ!
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกกอดจากด้านหลังพอหันไปมองก็เห็นว่าไอ้เอียนกำลังกอดและตีสีหน้าอ้อนวอนมากมายเลยทีเดียว…
“ไปนอนเถอะ
ชักจะง่วง”
“ตอนนั่งเครื่องมึงก็หลับ”
“ไม่ถึงชั่วโมง
สงสัยเมื่อคืนกูอึดไปหน่อย…”
“ไอ้เหี้ย -///////////////-“ ผมด่ามันแต่อาการเขินนี่สุดๆ
ครับปิดยังไงก็ไม่มิดและท่าทางเหมือนมันจะรู้ว่าผมเขินถึงได้เงียบและยิ้มอย่างเดียวก่อนจะลากผมขึ้นเตียง
ครืด
ครืด
พอนอนได้สักพักเสียงโทรศัพท์ของไอ้เอียนก็ดังขึ้นมา
ผมเห็นว่ามันแสดงอาการรำคานสุดๆ แต่ก็หยิบโทรศัพท์มากดรับสายอยู่ดีมือข้างหนึ่งก็กอดเอวผมเอาไว้ด้วย
“ครับ!” น้ำเสียงรับโทรศัพท์เหมือนเต็มใจโคตรๆ
“มินกวนพี่เอียนหรือเปล่าครับ?”
หื้อ!!!
ถ้าถามว่าผมได้ยินไหม?
ก็ขอตอบอย่างชัดเจนว่าเต็มสองรูหูเพราะไอ้เอียนมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมจนเราจะใช้ลมหายใจเดียวกันแล้วครับ…
ผมเองก็เงยหน้าขึ้นไปสบตามันก่อนจะทำหน้าไม่พอใจเหมือนมันจะรู้ก่อนจะฝืนยิ้มให้ผม
“เปล่าครับ”
ยังมีหน้าตอบว่าเปล่าเมียมึงนอนอยู่ข้างๆ
ทั้งคน!!!!!!
สัด!
เจ้าชู้ได้อีกถึงจะเป็นนิสัยประจำก็ตาม
“มินแค่จะโทรมาถามว่าพี่เอียนว่างไหม
มินจะ…”
!!!!
“ถ้ามึงไม่วางก็ไม่ต้องมานอนกอดกู!!!!!!!”
ตอนนั้นสมองผมมันหึงเต็มพอกัดไปแล้วละครับถึงได้พูดแบบนั้นออกไป
แถมท่าทางของไอ้เอียนก็เหมือนจะกลัวคำขู่ของผมมากๆ
“เสียงใครครับ?”
“แค่นี้ก่อนนะครับน้องมิน
พอดีเมียพี่มันดุ…”
ไอ้เอียนกดตัดสายทันทีก่อนจะกระชากผมเข้าไปหาตัวมันกดจูบที่แก้มผมหนักๆ
จนแทบช้ำ…
“เพิ่งรู้ว่าพายแรดก็ขี้หึงเหมือนกัน!!!”
มันว่าแล้วหัวเราะจนผมต้องดึงหูทั้งสองข้างของมันไปมาเมื่อไอ้เอียนร้องครางอย่างเจ็บปวดก่อนจะปล่อยมือจากเอวผมจึงลุกขึ้นนั่งและจ้องหน้ามันไม่พอใจ
กูรัก กูถึงหึง…
พูดในใจนะครับ
มันเขิน >///////////<
“ถ้ากูทำแบบนี้บ้างละ?”
“ก็ลองดูกูจะฆ่ามึงทิ้ง…” ไอ้เอียนลุกขึ้นนั่งบอกผมน้ำเสียงจริงจังมากๆ และผมก็เชื่อว่ามันทำจริงๆ
“โหด!”
“กูมีเมียคนเดียว
ถ้าไม่รักคงไม่โหดหรอกนะ”
>///////////////////<
“ไอ้เหี้ยไม่ต้องมาทำปากดี
ทีเมื่อก่อนขยันทำกูเจ็บได้ทุกวัน” ผมผลักหน้าหล่อๆ ของไอ้เอียนให้ออกไปห่างๆ
เพราะว่ามันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเข้าไปทุกทีแล้วละครับ
“เอ้า!
อยากปากแข็งก่อนทำไม”
“ถ้ากูบอกไปมึงอาจเลิกคบกูก็ได้…”
“พอๆ เลิกพูด
เอาเป็นว่าตอนนี้มึงเป็นเมียกูแล้วและห้ามไปยุ่งกับใครถ้ากูไม่อนุญาต โอเค!!!”
“ไม่โอเค…
มึงเลิกเจ้าชู้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาสั่งกู!”
ขอขู่บ้างเถอะถ้าจะให้มันมีชัยเหลือผมคนเดียวละก็
ชีวิตนี้คงต้องเดินตามมันตลอดแน่นอนเลยครับ
“กูไม่ได้ไปยุ่งกับคนพวกนั้นสักหน่อย
แค่ความหล่อมันไม่เข้าใครออกใครจนคนอื่นมาติดใจ!”
“เออ!
ไอ้เหี้ยเดี๋ยวกูจะทำบ้างเผื่อคนอื่นจะติดใจ…”
ตุบ!
“ไอ้สัดพายแรด!
อยากตายนักไง”
ไอ้เอียนแทบจะกระโดดทับร่างของผมเอาไว้ทันทีจนรู้สึกเจ็บและจุกมากๆ เลยด้วย
น้ำเสียงบวกกับท่าทางของมันเมื่อกี้ฟังก็รู้ว่าโกรธที่ผมพูดแบบนั้นออกไป
“เจ็บ…” ผมร้องครางนิ่วหน้าเจ็บปวดขึ้นมาทันที
เหมือนว่าไอ้เอียนจะได้สติขึ้นมาเล็กน้อยมันจึงผ่อนแรงที่ทับร่างผมเอาไว้ก่อนจะใช้แขนข้างหนึ่งยันเตียงเอาไว้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
“เฮ้อ!
ขอโทษ สงสัยจะหึงไปหน่อย… ไม่รู้สิแต่รู้สึกเหมือนว่ากูจะหวงมึงมากไปหรือเปล่าแค่คิดว่ามึงจะไปยุ่งกับคนอื่นกูก็แทบบ้า”
จุ๊บ
>//////////////<
ผมยื่นมือขึ้นไปรั้งใบหน้าของมันเอาไว้ก่อนจะดึงลงมากดจูบที่หน้าผากและปลายจมูก
ผมไม่ว่าหรอกนะที่มันอาละวาดเมื่อกี้เพราะคำพูดต่อจากนั้นของมันทำผมดีใจและเขินจนหน้าแดงหมดแล้วละครับ
“มึงทำตัวน่ารักไปหรือเปล่า…
เอียนเลว!”
“คงเพราะรู้ตัวเองว่ารักมึงแล้วมั้ง…
พายแรด!” มันว่ายิ้มๆ
ก้มลงมาหอมแก้มผมก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ และดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าความสุขที่ได้เจอตอนนี้มันดีแค่ไหน?
แต่ความรู้สึกในตอนนี้แค่มีไอ้เอียนนอนกอดผมเอาไว้แบบนี้ตลอดไปก็พอแล้วครับ…
มันคือความรักที่ผมสามารถยิ้มได้ตลอดเวลาแม้ว่าบ่อยครั้งที่มันจะทำให้ผมเจ็บปวด
J
ผมก็พร้อมจะยิ้มรับทั้งน้ำตาและจับมือมันไว้แบบนี้ตลอดไป!!!!
“พ่อแม่ดูพี่เอียนกอดพี่พายสิ
ท่าทางแบบนี้มันน่าสงสัยนะ…”
“นั่นนะสิ!
เจ้าลูกชายมันแปลกๆ ไปนะ ว่าแต่แม่เห็นด้วยกับพ่อไหม?”
“แม่ก็ว่าแปลก
เหมือนเจ้าลูกชายจะหวงหนูพายผิดจากเมื่อก่อนที่พามานอนค้างที่บ้าน”
“แต่เอมว่าแปลกถนัดแล้วครับ
นี่ถ้าสองคนนี้รักกันก็คงดี…”
“ฮาๆๆๆ
งั้นพ่อกับแม่คงต้องเตรียมเงินไว้รอขอเมียให้ไอ้ลูกชายแล้วละมั้ง”
“พ่อก็…
ถ้าเกิดไม่ใช่จะหน้าแตกเอานะ”
“ก็ทำให้ใช่ซะสิแม่
ถ้าเป็นคนนี้พ่อยอมทุ่มไม่อั้น!!!!!!”
อื้อ…
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะคำพูดมากมายที่กระทบเข้ามาในหู
ไม่ได้ยินชัดหรอกครับแต่รู้สึกเหมือนในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับไอ้เอียนแค่สองคน
พอลืมตาตื่นขึ้นมาจนสนิทใจเท่านั้นแหละครับ
โอ้แม่เจ้า O[]O!!!
“คุณลุง คุณป้า
น้องเอม”
มาครบองค์ประชุมกันเลยทีเดียวแถมทั้งสามคนยังยืนยิ้มแล้วมองมาที่ผมกับไอ้เอียนอีกต่างหาก
มองดูท่าทางของตัวเองก็แทบยกมือของไอ้เอียนที่นอนกอดผมอยู่เอาไว้ออกไปไม่ทัน…
“เฮ้ย!
ตื่น”
ผมหันไปกระซิบที่ข้างหูของมันแต่กลับถูกไอ้เอียนลากให้ลงไปนอนกอดอีกครั้ง
“เอ่อ!
งั้นพวกเราสามคนลงไปรอข้างล่างดีกว่านะ เชิญตามสบายเลย”
คุณลุงบอกกับผมท่าทางยิ้มๆ จนผมต้องรีบลุกขึ้นนั่งและกระชากหูไอ้เอียนจนมันตื่นและตีสีหน้าไม่พอใจใส่ผม
แต่พอผมเหล่ตาเอียงคอไปฝั่งประตูมันถึงเข้าใจ
“พ่อ แม่ เอม!!!!!
เข้ามาทำไมเนี่ย? ผมล็อคประตูแล้วนะ”
ไอ้เอียนโวยวายทันทีที่ตัวเองรับรู้ทุกอย่าง ทั้งๆ
ที่ก่อนหน้านี้ทำผมเกือบแย่เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะ”
คุณลุงตอบ
“แต่ผมเป็นเจ้าของห้อง
ออกไปเลยทั้งสามคนนั่นแหละ… ขัดจังหวะความสุขจริงๆ”
ไอ้เอียนเกาหัวไม่สบอารมณ์มากๆ
แต่ไอ้คำว่าขัดจังหวะความสุขของมันเนี่ยทำผมซวยเพราะต้องเจอรอยยิ้มของสามคนหน้าประตู
“จ้าๆ
เจ้าลูกชาย ปะพ่อน้องเอมเราลงไปรอข้างล่างกันดีกว่า ปล่อยให้เพื่อนรักเค้าสวีทกันดีกว่า…”
คุณป้าบอกก่อนจะลากคุณลุงและน้องเอมออกไปจากห้อง
แต่ขอบอกประโยคเมื่อกี้คุณป้าท่านเน้นย้ำคำว่าเพื่อนรักซะเต็มสองหูผมเลยทีเดียวละครับ
“เพราะมึงคนเดียวมานอนกอดกู!!!!” พอทั้งสามออกไปจากห้องจนหมดผมก็หันมาตะคอกใส่ไอ้เอียนต่อ…
“จะดังไปทำไม
พ่อแม่เอมยังแอบฟังอยู่หน้าห้องเลย” ไอ้เอียนเหล่ตาไปมองที่ประตูก่อนจะล้มตัวลงนอน
“รู้ได้ยังไง?”
“ครอบครัวกู
แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว!!!!!!!!”
ไอ้เหี้ยนี่ช่างพูด
ไอ้ที่มันว่าไปนะหนึ่งในสองสามคนนั้นคือพ่อกับแม่มันด้วยนะครับ…
ข้าวเย็นมื้อนี้ท่าทางผมจะอึดอัดแน่นอนเพราะต้องนั่งตอบคำถามและไขข้อสงสัยกับพวกเค้าทั้งสามคน
งื้อออออออออออ…
เพราะไอ้เอียนเลวคนเดียวเลย
L
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น