วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

PLEASE! #21 ความจริงที่เธอควรรู้



PLEASE! 21
ความจริงที่เธอควรรู้


ผมคิดว่าตัวเองจะไม่เจ็บตัวแต่เปล่าเลยคืนที่แสนโรคจิตของไอ้เอียนได้ผ่านไปอย่างยากลำบากมากๆ แทบจะคลั่งตายเอาคืนผมแทบทุกซอกทุกมุมของร่างกายยังกับคนที่หื่นมากจากไหนก็ไม่รู้สิครับ แต่ที่แน่ๆ บ่ายนี้ผมจะไม่คุยกับมันเด็ดขาด
!!!
“พายเอียนขอโทษ” เดินตามก้นผมต้อยๆ เลยครับเพราะว่าครั้งนี้ผมเอาจริงก็มันดันเล่นซะผมแทบไม่มีแรงลุกไปไหนเลย เมื่อเช้ากะว่าจะลุกขึ้นอาบน้ำไปเรียนเพราะใกล้สอบแล้วแต่ที่ไหนได้ดันลุกไม่ไหวจนต้องนอนต่อตื่นมาอีกทีก็บ่ายแล้ว
” จะลุกก็โอย จะเดินก็โอยยิ่งนั่งนี่อย่าไปพูดถึงเลยครับเพราะผมแทบไม่อยากจะนั่ง
“พาย” ทำเสียงอ้อยอิ่งเชียวครับแต่อย่าหวังว่าผมจะให้อภัยไม่มีทาง ผมแค่แกล้งมันไปนิดเดียวเองแต่ไอ้บ้านี่ถึงขั้นมัดมือผมไว้กับเตียงแล้วเล่นงานผมอย่างไม่ปราณีนึกแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยเนี่ย
“ไปไกลๆ กูรำคาญ” ผมยอมหันกลับมาคุยกับมันแต่สีหน้าและแววตายังคงเย็นชาเหมือนเดิม
เปล่า! ผมกำลังสร้างภาพอยู่
“พาย”
” เรียกอยู่ได้แถมน้ำเสียงยังอ่อยอีกต่างหากเดี๋ยวกูก็ใจอ่อนซะหรอก
“ขอโทษครับ ก็คนมันรักนี่”
รักบ้า รักบออะไรเล่นกันแทบไม่ได้นอนแถมยังไม่มีเรี่ยวแรงจะไปไหนเลยด้วยซ้ำไป รักแบบนี้บ่อยๆ ไม่ไหวนะครับเอียนเลว
” ไม่รู้ ไม่ชี้ อยากพูดอะไรก็พูดไปเลยไม่ตอบซะอย่าง
“รู้นะว่าโกรธ แต่อย่าเงียบนานๆ สิ”

ครืด ครืด
ผมไม่ทันได้ปริปากพูดอะไรเสียงโทรศัพท์ที่ถือติดมือมากะจะโทรหาไอ้พอแต่ที่ไหนได้มีคนโทรเข้ามาซะก่อนเหมือนจะเป็นเบอร์ใครก็ไม่รู้ ไม่คุ้นเลยครับ
-_-‘
“ใคร?” เสียงเข้มของไอ้เอียนร้องถามก่อนจะมองหน้าผม
ผมไม่ได้ตอบคำถามไอ้เอียนแต่กลับเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะกดรับสาย ร่างสูงเร็วปานสายฟ้าแล๊บวิ่งตรงมาที่ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ เอาหัวมาแนบกับหูของผม
“ฮัล
“นึกว่าจะไม่รับสายกูซะแล้ว”
ผมไม่ทันพูดฮัลโหลจบเสียงปลายสายก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ร่างกายชาไปหมดเพราะน้ำเสียงที่ได้ยินมันคุ้นหูจนแทบไม่อยากฟังเลยด้วยซ้ำ น้ำตาเหมือนอยากจะไหลออกมาแต่เปล่าหรอกมันไหลแล้ว
ผมกำหมัดแน่นเหมือนไอ้เอียนจะรับรู้ได้เพราะมันเองก็ได้ยินอย่างผมด้วย มือหนาจับมือผมกำเข้าหากันจนแน่นก่อนจะปาดน้ำตาให้ผมที่ไหลออกมา
“กูอยากเจอมึง” ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่นั่งนิ่งฟังเสียงของมันเท่านั้นเอง ส่วนไอ้เอียนก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกัน
“มึงอยู่กับมันสินะ หึอิจฉาจังแต่กูนะระ
“กูว่ามันสายไปแล้ว ต่อให้มึงไม่ทำระยำกับกูกูก็มั่นใจว่าตัวเองรักใคร!!!
ติ๊ด!
ผมกดวางสายก่อนจะก้มหน้าฟุบไปหาแผงอกกว้างของไอ้เอียน มันเองก็กอดปลอบผมอย่างอ่อนโยนเหมือนพยายามจะเข้าใจ ผมไม่อยากร้องไห้อีกแล้วกับเรื่องราวพวกนี้ผมคิดว่าตัวเองร้องมามากพอแล้ว
เวลาผ่านไปแค่ไม่นานผมหยุดร้องและตั้งสติตัวเองให้เหมือนเดิมก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับไอ้เอียน
“ไม่ใช่ว่าไม่โกรธหรอกนะ แต่เพราะไม่อยากทำให้มึงร้องไห้ไปมากกว่านี้” ผมว่ายิ้มๆ ปาดน้ำตาที่ยังไหลอยู่ให้ผม
อยากหยุดร้องแต่พอเจอคำพูดและน้ำเสียงอ่อนโยนของมันไป หยุดไม่ได้จริงๆ ครับ
“จะต้องทำยังไง?”
“ไม่ต้องทำอะไร อยากเจอมันไหม?” ผมนั่งนิ่งจ้องหน้าไอ้เอียนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถามแบบนี้
อยากเจอเหรอ? ไม่เลยผมนะอยากวิ่งหนีมันไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยซ้ำไป
“เอียน!
“มึงรู้ไหมพาย? กูนะอยากคุยกับมันให้รู้เรื่อง อยากตกลงอะไรให้มันดีกว่านี้ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ แล้วต้องเห็นมึงร้องไห้” ผมเบือนหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าไอ้เอียนส่วนมันก็เอาแต่พูดต่อไปเรื่อยๆ
“กูไม่เชื่อหรอกนะว่าร่างกายนี้จะมีคนอื่นได้แตะต้อง”
“เอียนทำไมถึงมั่นใจละ” ผมร้องถามแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองหน้ามัน
“ไม่มีใครอยากทำลายคนที่ตัวเองรักหรอกนะโทรกลับไปสิ” ผมเงียบเมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของไอ้เอียน มันบอกให้ผมโทรกลับไปงั้นเหรอ
เพื่ออะไร?
“ไม่!
“กูจะให้เวลามึงคิดละกัน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรหามันแล้วเราไปเจอกันที่สวนสาธารณะใกล้คอนโดกูตอนสองทุ่ม
พูดจบไอ้เอียนก็เดินหายออกไป ผมไม่รู้หรอกนะว่าความหมายของไอ้เอียนต้องการอะไรกันแน่แต่คำพูดทุกคำที่ออกมาจากปากของมันกำลังทำร้ายผม

เอียน
หลังจากพูดประโยคนั้นจบลงผมก็กลับเข้าห้องก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้ผมมีเรียนไอ้พายก็ด้วยแต่มันคงไปไม่ไหวและผมก็มีเรียนบ่ายด้วย แต่ ณ ตอนนี้ผมควรจะออกไปจากห้องได้แล้วแม้ว่าเวลายังเหลือเฟือก็ตาม
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาด้านนอกเจอไอ้พายนั่งอยู่ที่เดิม มันนั่งนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนตั้งแต่ผมเดินหายเข้าไปในห้องแล้วละครับท่าทางของมันคิดหนักมากๆ จนผมนึกเป็นห่วงเลยต้องเดินเข้าไปหา
“เอียนไปเรียนนะ” ผมก้มลงไปกดจูบเบาๆ ที่พวงแก้มข้างขวาของมัน ไอ้พายเอียงคอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
“เอียนกลัว”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะไม่ทิ้งกัน” ผมยิ้มให้มันก่อนจะกดจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากคนตรงหน้าอีกครั้ง สีหน้าของไอ้พายเศร้าจนผมไม่อยากทิ้งมันไว้คนเดียว แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้มันก็จะไม่ยอมก้าวเดินออกมาจากความเจ็บปวดสักที
“แต่
“คืนนี้เจอกันนะครับ ดูแลตัวเองด้วยละ?” ผมยิ้มให้มันก่อนจะกดจูบที่เปลือกตาไอ้พายแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถออกมาจากคอนโดทันที
เป็นห่วงนะพาย รักมากๆ ด้วย
ผมพูดกับตัวเองก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินไปกดลิฟต์ ผมลงมาด้านล่างกะว่าจะไปที่รถแต่กลับเจอเข้ากับใครบ้างคนซะก่อน ใครที่ทำให้เรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น
ไอ้เก้า!!
” ผมจ้องหน้ามันไม่ได้พูดอะไรและดูเหมือนว่ามันเองก็กำลังรอผมอยู่ด้วยเช่นกัน ผมไม่รู้ว่าไอ้พายโทรบอกมันแล้วหรือยังแต่สำหรับผมพร้อมจะคุยทุกเมื่อครับ
“คุยกับกูหน่อยสิ”
“ถ้ากูบอกว่าไม่ละ?” ผมถามมันลองเชิง
“แน่ใจเหรอ? หรือจะให้กูขึ้นไปหาพาย”
“หึ! งั้นว่ามา
“ตรงนี้คนเยอะ ไปคุยที่รถกูละกัน” มันว่าก่อนจะเดินออกไปผมเลยต้องเดินตามมันไป รถของไอ้เก้าจอดอยู่ใกล้ๆ คอนโดผมถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้หรอกครับเหมือนมันจะจอดอยู่ในที่ลับตาคนมากๆ
ผมกับมันขึ้นมานั่งในรถก่อนที่เราทั้งสองคนจะเงียบ ผมรอให้มันเป็นคนพูดก่อน
“กูรักพายและกูก็อยากคบกับพาย” ไอ้เก้าเป็นคนเปิดประเด็นแต่ตอนนี้ผมก็สามารถหลงตัวเองได้แล้วว่าพายมันรักผมและอยากอยู่กับผม
“มึงทำร้ายพายแล้วคิดเหรอว่ามันยังอยากจะอยู่กับมึงนะ” ผมหันไปจ้องหน้ามันไอ้เก้าเองก็ไม่ยอมหลบสายตาผมด้วยเหมือนกัน
“หึ! กูนึกว่ามึงจะดูออกแล้วฉลาดกว่านี้” ผมไม่สงสัยหรอกว่ามันหมายถึงอะไรแต่สำหรับผมมันไม่เคยเกิดขึ้นต่างหาก
“ที่กูยอมให้พายไปหามึงเพราะเชื่อใจ และกูก็มั่นใจด้วยว่ามึงไม่มีวันทำร้ายพายเหมือนอย่างที่กูทำกูเชื่อว่ามึงเองก็รักพายพอๆ กับที่กูรัก” ผมว่าตามความรู้สึกของตัวเอง แรกๆ ผมอาจจะโกรธและอยากฆ่ามันแต่สำหรับตอนนี้ผมกลับนึกเห็นใจมันซะมากกว่า
“มึงรู้อะไรไหม? พายนะเคยรักมึงมากกูเองก็รู้มาตลอดแต่เพราะมึงเองนั่นแหละที่ทิ้งมันไปก่อน มึงก็น่าจะรู้นี่ว่าพายรักมึง”
“ใช่! กูรู้มาตลอดแล้วมึงรู้ไหมละว่าทำไมกูถึงปฏิเสธและต้องไปแถมข้ออ้างมากมายที่กูบอกพายในตอนนั้นด้วย กูโกหกทั้งนั้นเพราะไม่อยากเจ็บ” ไอ้เก้าหยุดคำพูดไว้แค่ตรงนั้นก่อนจะเสมองไปทางอื่น ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเศร้าฝืนยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกต่างๆ เอาไว้
“ตอนแรกพายนะรักกูก็จริง แต่สำหรับกูเหมือนพายพยายามปิดกั้นตัวเองจากมึงพายแค่คิดว่ากูอาจจะแทนมึงได้ ตอนหลังๆ ที่กูกับพายอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นมึงรู้ไหมว่าคนที่พายพูดถึงคือใคร มันคือมึงทั้งๆ ที่กูไม่ใช่เหรอที่พายบอกว่ารัก!” ไอ้เก้าหันกลับมาจ้องหน้าผมอีกครั้งแววตาของมันดูเจ็บปวดมากๆ เลยละครับและผมก็ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าพายรักผม
เหมือนจะรักมานานกว่าที่ผมคิดด้วย!!!!
“ถ้ากูอยู่ก็เท่ากับทำร้ายตัวเอง แต่สุดท้ายวันเวลาก็ไม่สามารถทำให้กูลืมพายได้”
“ถึงได้กลับมาทำร้ายมันงั้นเหรอ?”
“กูก็แค่อยากให้พายเจ็บปวดบ้าง? แต่มันก็เหมือนอย่างที่มึงว่ากูไม่สามารถทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้”
“คนที่มึงต้องอธิบายไม่ใช่กู คืนนี้สองทุ่มมึงก็ไปคุยกับพายซะที่สวนสาธารณะใกล้คอนโดกู” ผมบอกกับมันก่อนจะเปิดประตูรถเดินออกมา ประตูถูกปิดลงหากแต่กระจกรถกลับเลื่อนลงมาพร้อมกับน้ำเสียงของไอ้เก้า
“เชื่อใจสินะ”
“กูให้โอกาสมึง พอๆ กับที่ใจกว้างพอจะให้มึงไปคุยกับเมียตัวเองพายนะเมียกูคนเดียวก็พอแล้ว! ถ้าอยากได้ความรู้สึกดีๆ กลับคืนมาละก็พูดความจริงไปซะ!
“ขอบใจนะ”
“กูทำเพื่อพาย”
“หึ! ถ้าพายเลือกกูมึงก็ถอยไปไกลๆ ละกัน” ไอ้เก้าแสยะยิ้มออกมา แต่เหมือนมันเองก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนี่
“หึ,” ผมแสยะยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะโบกมือลาไอ้เก้าเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเองก่อนจะขับออกไป
สุดท้ายแล้วพายจะเลือกใคร? หรือพายจะทิ้งผม
อย่าไปคิดให้เหนื่อยเลยครับเพราะคนที่เจ็บปวดที่สุดในตอนนี้มันไม่ใช่ผมกับพายแต่เป็นไอ้เก้าซะมากกว่า ผมรู้ว่ามันเจ็บมากแค่ไหน?

สวนสาธารณะใกล้คอนโดผมกำลังยืนมองภาพของผู้ชายสองคนที่คุยกันอยู่คนหนึ่งคือเพื่อนและอีกคนก็คืออดีตเพื่อนแต่ตอนนี้กลายมาเป็นเมียผมไปซะแล้ว ผมเลือกจะหยุดนิ่งอยู่กับที่และมองพวกมันสองคนคุยกัน
เหมือนผมจะมาช้าไปนิดหน่อยเปล่าหรอกที่จริงแล้วผมตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้ ไอ้เต็มกับไอ้พอเองก็ยืนอยู่ใกล้ๆ ผมพวกมันสองคนต่างก็เงียบด้วยกันทั้งคู่เหมือนกำลังรอฟังไปพร้อมๆ กับผม ยืนห่างแค่ไม่มากแต่เชื่อเถอะครับว่าได้ยินเพราะตอนนี้มันเงียบมาก
“ขอโทษ” อย่างเช่นคำพูดนี้ที่ออกมาจากปากของไอ้เก้า ผมเห็นแค่หลังของไอ้พายแต่สำหรับไอ้เก้าที่ยืนหันหน้ามาฝั่งผมมันกำลังแสดงสีหน้าที่สำนึกผิดออกมาจริงๆ
“มันสายไปแล้ว” ไอ้พายเองก็ใจแข็งเหลือเกินครับ
“ยังไม่สายหรอกถ้ามึงให้โอกาสกู”
“ทำไมต้องทำแบบนี้เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?” ไอ้พายเริ่มสะอื้นถอยห่างออกมาจากไอ้เก้าที่พยายามจะรั้งแขนทั้งสองข้างของมันเอาไว้
ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้ใจเย็นขนาดนี้ ใจเย็นมากๆ เลยด้วยที่มองดูพวกมันสองคนคุยกัน
แต่ถ้าพวกคุณไม่ลองมาเป็นผม ไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน? มั่นใจได้แค่ไหนว่าไอ้พายรักผมแค่คนเดียวจริงๆ ไม่ใช่ว่ามันกำลังหรอกตัวเองมาโดยตลอด
“กูนึกว่าเราจะรักกันซะอีก”
“อะอึก รักแล้วทำแบบนี้เหรอ มึงเองไม่ใช่เหรอที่ปฏิเสธกู”
“แล้วมึงไม่คิดเหรอว่ากูก็เจ็บ เพราะสายตามึงตอนนั้นไม่มีภาพกูอยู่แม้แต่นิดเดียวปากบอกว่ารักแต่ใจกลับไปอยู่ที่ไอ้เอียนหมดแล้ว” ไอ้เก้าเริ่มขึ้นเสียงจนไอ้พายร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ผมอยากเดินเข้าไปแล้วคว้ามันมากอดเอาไว้ให้แน่น
!!!
“ทำไมมึงไม่เข้าไปละเอียน” เสียงของไอ้เต็มดังขึ้นมาเหมือนมันเองก็อึดอัดแทนผมไปแล้วที่เอาแต่มองภาพนี้อยู่แต่ไม่ยอมเดินเข้าไปสักที
“กูทำร้ายเพื่อนมามากแล้วใช่ไหม ทั้งๆ ที่พวกมันสองคนรักกันมาก่อน”
“อย่าพูดเหมือนจะปล่อยมือ ทั้งๆ ที่ตอนนี้มึงรักพายมาก” เสียงไอ้พอเพียงพูดเสริมขึ้นมา ผมหันไปมองหน้าพวกมันสองคนสลับกันก่อนจะแสยะยิ้ม
“รักก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเสมอไปไม่ใช่เหรอ?”
“เอียน!” พวกมันทั้งสองคนแทบจะพูดพร้อมกัน
“กลับไปรอที่คอนโดเถอะ เพราะถึงยังไงกูก็รู้อยู่แล้วว่าความจริงมันเป็นยังไง?” ผมว่าก่อนจะก้าวถอยหลังเดินออกมา ผมไม่อยากฟังทุกคำอธิบายของไอ้เก้าแต่ผมอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วไอ้พายจะเลือกใครมากกว่า
ผมหรือไอ้เก้า

ผมนั่งรออยู่ในห้องกับไอ้เต็มใจและพอเพียงประมาณครึ่งชั่วโมงเสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออกมา มีแค่ไอ้พายคนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้ามาวินาทีแรกที่เห็นหน้าเศร้าๆ ของคนที่ผมรักมันทำให้ผมต้องยิ้มออกไปเพื่อให้กำลังใจ
หมับ!
ไอ้พายวิ่งเข้ามากอดผมไว้จนแน่นก่อนที่น้ำตาของมันจะซึมกระทบเข้ากับร่างกายผม
“ร้องไห้ทำไม” ผมรั้งมันออกห่างก่อนที่จะปาดน้ำตาให้
“เอียนขอโทษนะ” มันกลั้นสะอื้นพูดคำว่าขอโทษให้ผมได้ยิน
ผมไม่ได้พูดอะไรแต่กลับยิ้มให้มันส่วนไอ้เต็มใจกับพอเพียงก็นั่งมองอยู่เงียบๆ ผมรั้งไอ้พายเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้ง ขอแค่ตอนนี้ที่มันอยู่ตรงหน้าผมก็พอ
“กูไม่อยากรู้หรอกนะว่ามันพูดอะไรบ้าง แต่ขออย่างเดียวแค่ตอนนี้มึงไม่หายไปก็พอ”
“อะอึก จนกว่าจะเรียนจบ!
“สุดท้ายก็เลือกแล้วสินะ” ผมกับมันกอดกันจนแน่น ไม่ใช่แค่มันที่ร้องไห้แต่ผมก็ด้วย พวกเราสองคนร้องไห้กันอยู่อย่างนี้จนสุดท้ายเสียงไอ้พอเพียงก็ดังขึ้นมา
“พวกมึงสองคนพูดบ้าอะไรกันเนี่ย พูดเหมือนว่าเรียนจบแล้วจะไม่อยู่ด้วยกัน”
“พอเพียงหยุด”
“หยุดเหี้ยอะไร รักงั้นเหรอ? แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกันตลอดไปแบบนี้มันเศร้าไปแล้ว อะอึก เศร้าโคตรๆ ฮือๆ” ไอ้เต็มรั้งแขนของพอเพียงเอาไว้ก่อนจะกระชากเข้ามากอด ผมรู้ว่ามันอึดอัดมากแค่ไหนแต่ผมจะทำยังไงได้ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่เลือก
“กูพามันกลับบ้านก่อนนะ” ไอ้เต็มว่าก่อนจะพาพอเพียงออกไปจากห้อง เท่ากับว่าตอนนี้เหลือแค่ผมกับไอ้พายสองคนเท่านั้น
เศร้างั้นเหรอ? ใครบอกละเพราะตอนนี้ผมมีความสุขสุดๆ ไปเลย!!!

หนึ่งเดือนต่อมา
“พายเสร็จรึยัง” ผมร้องถามหลังจากที่รอมันแต่งตัว วันนี้ไอ้พายมีสอบครับแต่ผมไม่มีเพราะเมื่อวานสอบไปแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่พวกเราเริ่มสอบไฟนอลกันแล้ว ทั้งของผมและก็มันก็สอบใกล้จะเสร็จเต็มทีแต่ไอ้พายสอบวันนี้ตัวสุดท้ายส่วนผมยังมีเหลืออีกสองตัว
“เสร็จแล้วๆ อย่าเร่งดิแต่งตัวไม่ทัน”
“ก็บอกให้อาบน้ำพร้อมกัน ก็ไม่ยอม”
“บ้าเหรอ ไปได้แล้ว” ไอ้พายยิ้มเขินทันทีเมื่อผมพูดถึงเรื่องอาบน้ำทั้งๆ ที่ปกติเราก็อาบน้ำพร้อมกันอยู่แล้วนี่ครับ แต่พักหลังๆ ไม่แล้วเพราะมันกลัวผมจับกด
เวลาผ่านไปทุกวัน ผมก็อยากใช้ทุกวินาทีที่เหลืออยู่ให้มีค่าที่สุด เพราะผมไม่รู้ว่าเราจะอยู่กับคนที่ตัวเองรักได้นานแค่ไหน? แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมอยากทำมันให้ดีที่สุด
“เอียนเย็นนี้อย่าลืมนะ”
“ครับ, แล้วเจอกันเย็นนี้”
จุ๊บ >/////////////<
พายยื่นหน้าเข้ามาก่อนจะกดจูบเบาๆ ที่แก้มของผม มันทำตัวน่ารักขึ้นทุกวันและแน่นอนว่าผมเองก็รักมากขึ้นทุกวันด้วยครับ
วันนี้ทั้งวันผมไม่มีสอบนอกจากจะว่างเพราะฉะนั้นผมก็เลยชวนไอ้เต็มใจไปร้านขายต้นไม้กัน แต่ที่ไหนได้มันกลับมาช้ากว่าที่ผมคิดแถมยังให้ผมรออีกต่างหาก
Forget me not!
ระหว่างที่กำลังยืนรอไอ้เต็มใจอยู่หน้าร้านดอกไม้ ผมก็เห็นว่ามีต้นไม้ขนาดเล็กวางอยู่แถมดอกของมันยังเล็กจิ๋วและสีก็ยังคล้ายกับท้องฟ้าอีกต่างหากยิ่งดูยิ่งน่าหลงใหล
“อย่าลืมฉัน!!!” เสียงของลุงคนหนึ่งดังขึ้นมาผมเงยหน้าขึ้นไปมองท่านก่อนที่ส่งยิ้มไปให้ “ความหมายของมันนะพ่อหนุ่ม”
“งั้นเหรอครับ? ฟังแล้วน่าเศร้าแต่พอได้มองมันกลับหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก” ผมว่าอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะก้มลงไปมองมันอีกครั้ง
“รักแท้นะ มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะมีสักกี่คนที่จะจดจำมันไปจนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจ”
“นั่นสิครับ”
“งั้นลุงไปก่อนนะ” ผมยิ้มและยกมือไหว้ก่อนที่ท่านจะเดินจากออกไป ส่วนผมก็ยืนมองดอกไม้ชื่อแปลกนี้อยู่
“เฮ้ย! มองอะไรวะ” แต่ที่ไหนได้แต่เสียงของไอ้เต็มกลับดังขึ้นมาขัดจังหวะผมซะก่อน
“มองพ่อง! มาสายตลอด”
“เออโทษทีกูไปซื้อของให้แม่ก่อนออกมานะ ว่าแต่มึงสนใจต้นนี้เหรอ?”
“อืม, ว่าจะซื้อให้พายนะ” ผมบอกแล้วก้มลงไปมองมันอีกครั้ง
“วันนี้แล้วเหรอวะ ทำไมเร็วจัง”
“ไม่หรอก มันก็เหมือนทุกๆ วันที่เราเดินไปและเป็นทุกวันที่กูมีความสุขมาก” ผมเอื้อมมือไปหยิบต้น Forget me not ขึ้นมาถือเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าไปมองไอ้เต็ม
“จริงเหรอ! มึงเข้มแข็งมากนะไอ้เอียนยอมแม้กระทั่งจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“กูเชื่อใจมันเสมอ”
“กูขอให้มึงพบเจอกับคำว่าความสุขจริงๆ ก็แล้วกัน งั้นกูไปดูต้นไม้หน่อย” ไอ้เต็มตบบ่าผมเบาๆ สองสามทีแล้วเดินเข้าไปในร้านส่วนผมก็เดินดูกล้วยไม้ต่อไปเรื่อยๆ ในมือก็ถือต้นไม้ต้นนี้ไปด้วย
ความรู้สึกนะเหรอสุขใจมาก!!!

“โห่ร้านนี้หรูสุดๆ” เสียงของไอ้พายดังขึ้นมาหลังจากที่ผมพามันมากินมื้อเย็นที่ร้านอาหารแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศโคตรจะโรแมนติก
“รวยครับ”
“ชิส์! เดี๋ยวจะสั่งอาหารให้จนไปเลย” ไอ้พายยู่หน้าใส่ผมก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมาแล้วก็เริ่มลงมื้อสั่งอาหาร เชื่อเถอะครับว่ามันสั่งแต่ของดีและเมนูยอดฮิตของที่นี่ทั้งนั้น
“กินดีๆ สิเหมือนเด็ก” ผมว่าหลังจากที่อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ ไอ้พายลงมือกินทันที ท่าทางจะหิวสุดๆ เพราะก่อนมานี่ผมก็พามันกลับไปอาบน้ำที่คอนโดมาแล้วแถมวันนี้มันสอบหนักด้วยครับ
“ปากเลอะ” ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดปากให้กับมันท่าทางเหมือนเด็กจริงๆ เลยด้วย
“ขอบคุณนะเอียน” มันว่ายิ้มๆ เหมือนอยากจะร้องไห้แต่กลับกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วกินต่อ ผมเองก็ไม่ได้กินอะไรมากนักนอกซะจากจะนั่งมองมันอยู่อย่างนี้
“กินเยอะๆ นะเดี๋ยวจะผอมไปกว่านี้ รู้ไหมว่ากอดแล้วไม่อุ่น”
“รับทราบครับ”
J ไอ้พายยิ้มหวานให้กับผมตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวด้วยกันภายใต้เสียงจันทร์ในยามค่ำคืนและความรู้สึกเอิบอิ่มในหัวใจของพวกเราสองคน ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกและแน่นอนว่าคนตรงหน้าผมก็ด้วย
หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมก็พามันไปนั่งรถเล่นก่อนจะพากลับคอนโดเพราะดึกมากแล้ว ผมพารถไปจอดก่อนจะเปิดประตูด้านหลังหยิบต้นไม้ที่เตรียมไว้ให้ไอ้พายมาถือเอาไว้ก่อนจะเดินตามมันขึ้นไป
เข้ามาในห้องไอ้พายก็เดินหายเข้าไปในห้องผมก็เลยต้องเดินตามไปบ้าง เจอมันนั่งรออยู่ปลายเตียง
“เดินไม่รอ”
“ก็ช้าเองนี่ ปวดฉี่อาบน้ำพร้อมกันนะ” ผมยิ้มให้ก่อนที่มันจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็เลยต้องถือต้นไม้ไปตั้งไว้ที่หัวเตียงฝั่งไอ้พายก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วตามมันเข้าไปในห้องน้ำ
“เอียนสระผมให้ด้วยนะ” มันว่าก่อนจะถอนเสื้อผ้าแล้วเดินลงไปนั่งรอผมในอ่าง ส่วนผมก็ถอดตามแล้วเดินไปลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ไอ้พายก็นั่งหันหลังให้รอผมเหมือนรู้งาน หลังจากนั้นผมก็ลงมือสระผมให้และนวดให้ด้วยเพื่อคลายเครียด
“คราวหลังสระเองแล้วนะ ห้ามให้ใครสระให้ละ”
“รู้แล้วครับ” มันรับคำผมน้ำเสียงอ้อนน่ารักมาก
“เอียนอยู่คนเดียวอย่าดื้อนะ” ผมเงียบไปทันทีที่ได้ยินเสียงของมันและพูดว่าอยู่คนเดียวผมไม่อยากได้ยินแต่ในเมื่อมันมาถึงแล้วนี่ครับ
“ครับ, แต่เอียนไม่ได้ดื้ออย่างพายนี่ อย่าทำให้ตัวเองเจ็บตัวบ่อยๆ ละคราวนี้ไม่ได้ทำแผลให้แล้วนะ”
“รู้หรอกน่ะ” พายมันว่าก่อนจะนั่งเฉยให้ผมสระผมให้อยู่อย่างนี้จนเวลาผ่านไปเราก็อาบน้ำพร้อมกันถมยังออกจากห้องน้ำพร้อมกันอีกต่างหาก ทั้งผมและมันช่วยกันแต่งตัวก่อนจะกลับมาที่เตียงแต่ผมต้องทำให้หัวเปียกๆ ของไอ้พายมันแห้งก่อนถึงจะนอนได้ไม่งั้นไข้จับแน่นอน
“เอียนต้นอะไร”
Forget me not, อย่าลืมฉัน”
“งะงั้นเหรอ? จะลืมได้ยังไง” พวกเราสองคนเงียบกันไปเหมือนว่ากำลังอยู่ในห้วงแห่งฝันหัวไอ้พายเองก็แห้งพอดีพร้อมนอน
“พามันไปด้วยนะมันคือหัวใจ ลมหายใจและชีวิต”
!!!
ประโยคของผมจบลงไฟหัวเตียงฝั่งไอ้พายก็ดับลงทันทีผมเองก็เดินอ้อมไปฝั่งของตัวเองก่อนที่จะปิดไปแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมรั้งเอวเล็กของคนข้างๆ เข้ามากอดเอาไว้เหมือนมันจะรู้ไอ้พายเองก็ขยับเข้ามาหาตัวผมพร้อมทั้งกอดตอบ
“เรายังรักกันอยู่ใช่ไหม?”
“ตลอดไปเลยล่ะพาย J
“อย่าลืมพาย” ไอ้พายซุกหน้าเข้ามาที่อกของผมก่อนที่เสื้อผมจะรับรู้ได้ถึงอะไรชื้นไม่ต้องเดาหรอกครับเพราะมันกำลังร้องไห้
“ไม่นานหรอกพาย สู้นะต่อให้เวลาจะเดินไปอย่างช้าๆ ทุกๆ วินาทีเอียนจะไม่ลืมพายเลย”
“ขอบคุณนะเอียน ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่รักกัน
ผมรับรู้และสัมผัสได้ถึงรสจูบที่อ่อนโยนของไอ้พายที่มันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จูบนี้เหมือนกำลังบอกอะไรผมหลายๆ อย่างเนิ่นนานอ่อนหวานและรับรู้ได้ถึงความสุขของทุกๆ วินาทีที่เราได้สัมผัสมันไปด้วยกัน
จูบที่ผมจะไม่มีวันลืม
รักที่ผมจะไม่มีวันลืม
พายที่เอียนจะยังคงรักตลอดไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น